ค่าย “ควิซ แอนด์ เควส” ในมุมมอง มาตรฐานของละครเย็นไม่ต่างละครหลังข่าว

My life be like : It’s times like these that make me say ที่จะมอบเป็นกำลังใจ ให้ทีมงาน

คนอยู่เบื้องหลังกองละคร การทำงานก็คงลำบาก ไม่น้อย กว่าที่จะสำเร็จออกมาสู่หน้าจอ ให้คนดู ได้ชม
หลังจากได้ชม ละครเรื่อง “สะใภ้สายลับ” ก็ต้องขอชื่นชมและ ปรบมือให้กับทีมงานคนทำละคร บทละคร ผู้กำกับ และนักแสดง
ด้วยความเป็นทีมwork ที่ดีเยี่ยม ลงตัว กลมกล่อม และสร้างความสุข ความประทับใจ ผ่านหน้าจอ ให้กับคนดู  
เพราะงานนี้คงจะสำเร็จด้วยความงดงามไม่ได้หากขาดซึ่งความรับผิดชอบของแต่ละส่วนงาน การผสมผสานขององค์ประกอบต่างๆ ที่สำคัญ
ที่ทำให้ละครเรื่องนี้ เป็นภาพรวม ละคร อีกเรื่อง ที่มีคุณภาพ และดูคมคายมาก แม้จะมีส่วนข้อผิดพลาดบ้าง ก็ขอให้ทีมงานได้ถือเป็นข้อ comment
แนะนำ ปรับปรุง พัฒนา  เพื่อผลงานในคราวต่อๆไป
นานาโอเคนานาเยี่ยม

ค่าย “ควิซ แอนด์ เควส”  ในมุมมอง  มาตรฐานของละครเย็นไม่ต่างละครหลังข่าว



จากที่เคยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณ ต่อ วัชระ คุปตะวาทิน หนึ่งใน ผู้จัดคนเก่ง ค่าย ควิซ แอนด์ เควส Quiz&Quest
เปิดใจ ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 54  กับประสบการณ์กว่า 10 ปี บนเส้นทางของผู้จัด หนึ่งในผู้ผลิตงานละครให้ช่อง  
ซึ่งจะได้นำ ส่วนให้สัมภาษณ์ ที่มีความสนใจอย่างมาก  ในมุมมอง และทัศนคติของคุณต่อ มาฝากกัน



“จริงๆ เราไม่ได้แยก ละครเย็นกับละครหลังข่าว  เมื่อก่อนละครมีเวลาเดียว แต่พอแยกออกมาเป็นเย็นกับกลางคืน ในแง่ของผู้จัดจริงๆ เราไม่ได้แยกหรอกครับ มีอะไรมาเราทำเต็มที่  เพียงแต่มันแตกต่างกันตรงที่เนื้อหาและวิธีการเล่าเรื่อง”


“ผมไม่เคยน้อยใจเลย สำหรับผมละครตอนไหนก็เหมือนกันหมด ผมก็ทำดีที่สุด แต่ผมรู้ว่า ผมกำลังทำอะไรให้คนดู ทำละครเย็นผมจะทำให้ใครดู ทำละครหลังข่าวให้ใครดู คือตลาดเป็นยังไง เราต้องรู้ตรงนั้นด้วย แต่ละช่องมีกลุ่มคนดูของตัวเอง  ส่วนเรื่องคุณภาพต้องมีคุณภาพหมดไม่ว่าละครเย็นหรือละครหลังข่าว ตัวผู้จัดฯ ไม่เคยแบ่งละครเย็นหรือกลางคืน สำหรับเราสำคัญหมด แต่ที่แบ่งจริงๆ คือ นักแสดง  นักแสดงบางคน บอกเลยเขาไม่เล่นละครเย็น
นี่คือปัญหาของผู้จัดฯ ละครเย็น เพราะนักแสดงบางคนไม่เล่นละครเย็น แต่จะเล่นหลังข่าวอย่างเดียว ถ้าให้ผมคาดเดา เหมือนกลัวเรตติ้งตัวเองจะตก ประมาณนี้ กลัวภาพพจน์มากกว่า  หรือไม่ก็เขาอยากจะเล่น ละครเข้มข้นเป็น ดราม่า"

"คือมันอาจจะเป็นความเชื่อเก่า ๆ ว่า ละครเย็นเป็นละครเกรดบี  ส่วนละครหลังข่าวเป็นเกรดเอ  ก็เลยไม่มีใครอยู่ละครเกรดบี  ผมไม่รู้จะทำให้คนเข้าใจตรงนี้ยังไง  เพราะความรู้สึกคน พอแบ่งแล้ว แบ่งเลย ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ก็คิดอย่างนี้ ก็ไม่รู้ทำยังไง ผมเคยติดต่อนักแสดงคนนี้เขาก็บอกไม่เล่นละครเย็น ในเมื่อเขาไม่เล่น ผมก็หาคนที่เล่นก็แล้วกัน  เพราะนักแสดงไม่ได้มีคนเดียว  ถามว่าผมโกรธไหม ไม่โกรธหรอกครับ เพราะนักแสดงมีสิทธิ์เลือก เหมือนผมก็มีสิทธิ์เลือกนักแสดง  ผมไม่ได้โกรธ เพียงแต่ อืมม ไม่เข้าใจเลยหรือว่ามันเหมือนกัน ไม่ใช่ ค่าตัวละครกลางคืนคุณ 1 บาท พอมาเล่นละครเย็น เขาจะให้น้อยลง  เขาก็จ่ายให้คุณ 1 บาทเหมือนเดิม ไม่รู้สิ นานาจิตตัง"

"แต่บางคนก็ไม่รังเกียจ อะไรก็ได้ ขอให้เรื่องและบทดี  เขาก็เล่น เขาไม่สนใจว่า จะเป็นละครตอนไหน และสมัยนี้ยังดีที่บอกได้เลยนะ  ผมทำละครเย็นสมัยก่อนไม่มีสิทธิ์ รู้อนาคตเลย นะ มีหน้าที่ทำอย่างเดียว  หลังๆ มาเนี่ย ช่องให้เสนอเลย เราจะทำละครตอนไหน แล้วช่องจะพิจารณาเอง"

"เราก็มีส่วนภาคภูมิใจของเราเงียบๆ กับสิ่งที่เราได้เห็นอยู่ปัจจุบัน เออ คนนี้เติบโตไปอย่างนี้  เราก็เก็บมาภูมิใจของเรา
มีหลายคนที่ภูมิใจ มีหลายคนครับ มี ปอ ทฤษฎี , แพท ณปภา , แต้ว ณฐพร เราเห็นมาตั้งแต่ยังผูกคอซอง ด้วยกันทั้งนั้น คือเราเห็นแล้วเราภูมิใจที่เราสามารถสร้างให้เขาพัฒนา ไปได้ และเราคิดถูกแล้ว ที่เราปล่อยเขาไปไม่ยึดติด เขาเกิดที่นี่ แต่เขาต้องไปโต ที่อื่น เพราะเขาไม่ใช่เด็กเราโดยตรง
เขาเป็นคนของช่อง  และถ้าเราต้องบีบให้เขาอยู่เราตลอด แต่งานละครเราไม่ต่อเนื่องขนาดนั้น เขาก็หายหน้าหายตาไปจากจอ
งานเราไม่ต่อเนื่องไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้อยู่หน้าจอ แต่นักแสดง ไม่ได้ ต้องมีหน้าที่ออกจอ ถึงจะเรียกว่าต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นปล่อยเขาไปให้ไปเจริญเติบโต ให้เขามีประสบกล้าแกร่งของเขา และมีงานต่อเนื่องดีกว่า เพราะผู้จัด ช่อง มีตั้ง 20 กว่าเจ้า"

"เราเป็นบริษัทเล็ก  ๆ ที่ทำละคร ทีละเรื่อง   2 ปี ผมทำให้อย่างเก่ง 3 เรื่อง มีอยู่หลายปีก่อน ปีนึงทำได้ 2 เรื่อง แต่เหนื่อยมาก เพราะบริษัทเราเล็ก
คนเราน้อย ผมไม่ได้ตั้งเป้าจะทำปีละ 2 เรื่อง มันบีบคั้นตัวเอง เราทำพออยู่ได้ เลี้ยงลูกน้องได้ "

"ผมว่าละครหลังข่าวแข่งขันสูงกว่า  ละครเย็นก็แข่งขันสูงเหมือนกัน แต่กดดันน้อยกว่า  คนทำละครหลังข่าว เหมือนเป็นดาบ 2 คม
ความที่ การแข่งขันสูงมาก"

"ผมมีความเชื่อว่า งานจะเป็นการพิสูจน์คน และไม่เคยย่อท้อกับมัน  ล้มมาหลายครั้งแล้ว แต่เราก็ลุกขึ้นมาได้ อยู่ที่เราตั้งใจจริงๆ
ที่ผ่านมาผมยอมรับว่า ผมล้มสะดุดป๊าบเลย มันมีส่วนนึงที่เป็นความผิดพลาดของเรา ที่เรามองมันไม่ออก และเราก็ไม่หยุดที่จะแก้ไข
เลยตั้งปณิธานว่า ต่อไปนี้ อะไรที่ไม่สมบูรณ์ เราจะไม่ทำ กว่าจะปั้นงานออกมาใหม่ ก็พิสูจน์งานว่าเราพร้อมจะขึ้นมาสู้ "





เห็นภาพนี้ของคุณต่อและภาพผู้อยู่เบื้องหลังทั้งคุณกาตางค์ ครูเต้ มาลงหน้าจอด้วย นานาชอบ
เสมือนหนึ่ง ทีม Mission ออกปฏิบัติการภาระกิจนี้ ด้วย
งานนี้ต้องมอบเพลง  อย่าง Mission Impossible ให้เป็นคำชม กำลังใจให้ด้วย นานาเยี่ยม


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


Katang Photographer // Editor // Producer @ Quiz&Quest



ครูเต้









และก็เข้าใจเลยว่า กว่าจะเป็นละครเรื่องนึง ต้องใข้พลังงานมาก ข้อผิดพลาด ก็อาจจะมี แต่ขอให้ตั้งใจ ทำให้ดีที่สุด

เป็นกำลังใจ ให้ทีมงาน ผลิต ละคร คุณภาพดีๆ มาให้ได้ชมกันอีกต่อไป  ผลงานต่อไปที่กำลังรอชม คือ “มือปราบสายเดี่ยว”




ในฐานะคนดู คนนึง  ไม่เฉพาะค่าย ควิซ แอนด์ เควส   เท่านั้น  ที่เราคนดู มอบกำลังใจให้

กำลังใจ มีให้เสมอ สำหรับผลงาน ของแต่ละค่าย ที่ตั้งใจ สร้างสรรค์ผล ของคุณ ให้ผู้ชมและแฟนๆ ผู้ติดตามผลงานของแต่ละค่าย
ได้มีความสุข สนุก กับการดูละคร  คำวิจารณ์ เป็นข้อเสนอแนะ เสมือนคนนอกมองเห็นในจุดที่คนในมองไม่เห็น และคำชื่นชมและปรบมือ ก็เสมือน คำขอบคุณและกำลังใจที่ผู้ชมมีให้คุณ ให้คุณรู้ว่าสิ่งที่พวกคุณ คนทำละคร ได้สร้างสรรค์ผลงาน นั้นๆ เป็นผลสำเร็จ ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจของพวกคุณเช่นกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่