นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวเปิดงานสัมมนา สื่อนิติบัญญัติกับบทบาทการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป ซึ่งจัดโดย
สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐสภา ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้กับทีวีรัฐสภาว่า 1.ต้องเป็นสื่อกลางที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นกลาง รอบด้าน
2.เป็นโรงเรียนประชาธิปไตย ให้กับประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาสื่อค่อนข้างจะมีปัญหาในการ
นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ยิ่งในสภาวะของความขัดแย้งเมื่อนำเสนอข่าวสารเพียงด้านเดียว ส่งผล
ให้ความขัดแย้งให้สังคมมีมากขึ้น ดังนั้นสื่อมวลชนต้องเป็นกลาง เพราะการนำเสนอแง่มุมเดียว
จะส่งผลต่อความคิดของประชาชน แม้การจะทำให้เป็นกลางนั้นไม่ง่าย เนื่องจากเราอยู่ในสภาวะ
ความขัดแย้ง แต่ต้องพยายาม ซึ่งที่ผ่านมาทีวีของรัฐสภาอยู่ภายใต้การกำกับของนักการเมือง แต่ประชาชนต้องช่วยกันตัดสินว่าข้อมูลข่าวสารที่ได้นำเสนอนั้นมีความข้อเท็จจริงมากน้องเพียงใด เพราะวิทยุและโทรศัพท์จะไม่สามารถอยู่ได้หากไม่ได้รับความชอบธรรมจากประชาชน
นายสุรชัย กล่าวว่า ส่วนการเป็นโรงเรียนประชาธิปไตยให้กับประชาชนนั้น เป็นการนำเสนอเนื้อหาสาระให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการครองระบอบประชาธิปไตย
อย่างรอบด้าน หมายถึงการปกครองโดยประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน นอกจาก
นี้ยังนำเสนอถึงนโยบายของรัฐบาลว่ามีโครงการอะไรบ้าง เป็นการส่งเสริมการทำงานของ
รัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้พิจาณาและตรวจสอบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ที่มีการร่างรัฐธรรมนูญ
แค่ประเด็นเรื่องระบบการเลือกตั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม สนช.จะส่งความเห็นขอ
แก้ไขไปยัง กมธ.ยกร่างฯในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431169468
เสนอข่าวด้านเดียวทำคนขัดแย้ง! "สุรชัย"แนะ สื่อดีต้องเป็นกลาง สอนประชาธิปไตยคน ...ข่าวมติชนออนไลน์.../sao..เหลือ..noi
สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐสภา ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้กับทีวีรัฐสภาว่า 1.ต้องเป็นสื่อกลางที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นกลาง รอบด้าน
2.เป็นโรงเรียนประชาธิปไตย ให้กับประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาสื่อค่อนข้างจะมีปัญหาในการ
นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ยิ่งในสภาวะของความขัดแย้งเมื่อนำเสนอข่าวสารเพียงด้านเดียว ส่งผล
ให้ความขัดแย้งให้สังคมมีมากขึ้น ดังนั้นสื่อมวลชนต้องเป็นกลาง เพราะการนำเสนอแง่มุมเดียว
จะส่งผลต่อความคิดของประชาชน แม้การจะทำให้เป็นกลางนั้นไม่ง่าย เนื่องจากเราอยู่ในสภาวะ
ความขัดแย้ง แต่ต้องพยายาม ซึ่งที่ผ่านมาทีวีของรัฐสภาอยู่ภายใต้การกำกับของนักการเมือง แต่ประชาชนต้องช่วยกันตัดสินว่าข้อมูลข่าวสารที่ได้นำเสนอนั้นมีความข้อเท็จจริงมากน้องเพียงใด เพราะวิทยุและโทรศัพท์จะไม่สามารถอยู่ได้หากไม่ได้รับความชอบธรรมจากประชาชน
นายสุรชัย กล่าวว่า ส่วนการเป็นโรงเรียนประชาธิปไตยให้กับประชาชนนั้น เป็นการนำเสนอเนื้อหาสาระให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในการครองระบอบประชาธิปไตย
อย่างรอบด้าน หมายถึงการปกครองโดยประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน นอกจาก
นี้ยังนำเสนอถึงนโยบายของรัฐบาลว่ามีโครงการอะไรบ้าง เป็นการส่งเสริมการทำงานของ
รัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้พิจาณาและตรวจสอบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ที่มีการร่างรัฐธรรมนูญ
แค่ประเด็นเรื่องระบบการเลือกตั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม สนช.จะส่งความเห็นขอ
แก้ไขไปยัง กมธ.ยกร่างฯในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431169468