กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาเซียน เพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ APHR ซึ่งเกิดจากรวมตัวของสมาชิกรัฐสภาทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงความเป็นห่วงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของไทย รวมถึงกระบวนการทำประชามติ
แถลงการณ์ดังกล่าว ได้แสดงความกังวลต่อกรณี คสช.ห้ามการรณรงค์ประชามติ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดให้มีการอภิปรายถึงข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว
ทั้งนี้นาย สอน ชัย ส.ส.กัมพูชา ซึ่งมีตำแหน่งรองประธาน APHR ให้ความเห็นต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งกำหนดบทลงโทษสูงสุด จำคุกถึง 10 ปี ห้ามการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อทุกชนิด ได้สร้างความหวาดกลัว และปิดกั้นการโต้เถียง
ซึ่งเขาเห็นว่า ชะตากรรมของประชาธิปไตยไทย มีผลสะเทือนต่อทั้งภูมิภาค นับเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้นำประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะต้องออกมายืนเคียงข้างประชาชนไทย พูดสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกและการอภิปรายอย่างรอบด้าน ความพยายามที่จะปิดกั้นการอภิปรายถึงข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญ ไม่มีทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ประเทศไทยประสบอยู่ได้
นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าเป็นหน้าที่ของรัฐในการปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้อำนาจในทางที่ผิด
http://news.voicetv.co.th/thailand/357405.html
เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง? จุดที่ส.ส.ประเทศกัมพูชาและอินโดนีเซียต้องออกมาแสดงความห่วงใยต่อประชาธิปไตยของไทย
สภาอาเซียนฯ กังวลสถานการณ์สิทธิไทย
แถลงการณ์ดังกล่าว ได้แสดงความกังวลต่อกรณี คสช.ห้ามการรณรงค์ประชามติ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดให้มีการอภิปรายถึงข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว
ทั้งนี้นาย สอน ชัย ส.ส.กัมพูชา ซึ่งมีตำแหน่งรองประธาน APHR ให้ความเห็นต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งกำหนดบทลงโทษสูงสุด จำคุกถึง 10 ปี ห้ามการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อทุกชนิด ได้สร้างความหวาดกลัว และปิดกั้นการโต้เถียง
ซึ่งเขาเห็นว่า ชะตากรรมของประชาธิปไตยไทย มีผลสะเทือนต่อทั้งภูมิภาค นับเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้นำประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะต้องออกมายืนเคียงข้างประชาชนไทย พูดสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกและการอภิปรายอย่างรอบด้าน ความพยายามที่จะปิดกั้นการอภิปรายถึงข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญ ไม่มีทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ประเทศไทยประสบอยู่ได้
นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าเป็นหน้าที่ของรัฐในการปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้อำนาจในทางที่ผิด
http://news.voicetv.co.th/thailand/357405.html
เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง? จุดที่ส.ส.ประเทศกัมพูชาและอินโดนีเซียต้องออกมาแสดงความห่วงใยต่อประชาธิปไตยของไทย