นี่เป็นรีวิว แรกในชีวิตค่ะท่านผู้ชม หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขอกราบ อภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ ^^ แฮร่
รุ่งอรุณเบิกฟ้า ได้เวลาเล่าความประทับใจ เจ้าของกระทู้และผองเพื่อนแก๊งลูกเป็ดทั้ง 7 ตะลุยดินแดนมอญ
วันหยุดทั้งที จะมีสักที่ไหมที่เราจะทtยานโลกกัน และแล้วก็ลงเอยที่ สังขละบุรี !!!
อย่าพูดพร่ำทำเพลงค่ะ พวกเรานัดรวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติหมอชิต เวลา ตี 5 ของเช้าตรู่วันที่ 2 พค 58 เพื่อเข้าแถวซื้อตั๋วรถทัวร์ กรุงเทพ-ด่านเจดีย์สามองค์ ( เนื่องจากรีวิวในพันทิปนี่ล่ะค่ะ บอกว่า ไปรถทัวร์ก็ดีนะ ยิงยาวเลยไม่ต้องต่อรถ เอาล่ะสิ เชื่อค่ะเชื่อ พวกเราจึงตัดสินใจ รถทัวร์ก็รถทัวร์แต่ต้องตื่นเช้ากันหน่อยเนอะ ) ราคารถทัวร์ 306 บาทค่ะ รถออก 6.30 พร้อมแล้วก็จับจองที่นอนกัน

รถวิ่งไปสัก 1 ชม ก็ยังชิวๆค่ะ พวกเรากำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเจอปลายทางค่ะ ต่างพากันเฮฮาปาจิงโกะ จนผู้โดยสารข้างเคียวอาจรำคาญ
แต่หลังจากนั้นไม่นานค่ะ เริ่มร้อนสิคะท่าน หมุนแอร์ยังไง ก็ไม่เย็นสักที แอร์เจ้ากำดันมามีปัญหาไม่เย็นค่ะท่านผู้ชม รถ ป.1 ซึ่งไม่มีหน้าต่างแถมแอร์ไม่เย็น กับการเดินทางประมาณ 7 ชม. นี่มันเป็นความวิบากชัดๆ มองหน้ากันแล้วเดินไปถาม พขร. ได้คำตอบที่ว่า อากาศมันร้อนแอร์สู้อากาศข้างนอกไม่ได้ !!!! เห้ย นี่มันเพิ่ง 7 โมงกว่าๆป้ะ สรุปเปลี่ยนน้ำยาแอร์รึป่าวคะ พี่โชว์เฟอร์ ทำอะไรไม่ได้ค่ะ นอกจากทำใจ กลับไปนั่งบ่น และทน ก็ขึ้นมาแล้วนี่ !!! ทุกคนมีอาวุธในมือเป็นพัดกระดาษค่ะ พัดโบกพัดวีกันยันบ่าย 2 ไม่ต้องถามเรื่องเหงื่อค่ะ เปียกยันตาตุ๋ม แหมะเปรียบเปรยซะ แฮร่ ๆๆ รถจะจอดพักรถ 2 จุดค่ะ จุดแรกประมาณก่อนถึงกาญจนบุรี จุดที่ 2 พักกินข้าวประมาณไทรโยคค่ะ แนะนำว่าช่วงนี้ ใครขี้เมารถ ให้โด๊ปยาแก้เมานิดนึงก็ได้ค่ะ มิฉะนั้นอาจโอ๊กอ๊ากเหมือนเด็กบนรถของ จขกท ได้ เพราะเข้าเขตทองผาภูมิจะจะมีแต่โค้งเท่านั้น ... เราถึงสังขละ กันประมาณ บ่ายโมงครึ่งค่ะ รถทัวร์จะจอดบริเวณหน้า 7 eleven ตรงตลาดสังขละเลย เอาละหวา!! แล้วทีนี้จะไปไงต่อ โทรหาที่พักที่จองไว้สิคะ !! เผื่อถามทาง พี่เจ้าของรีสอร์ทก็จิตใจงดงาม ขับรถมาบรรทุกพวกเราไปตระเวรหามอเตอร์ไซด์ก่อนเข้าที่พักค่ะ แนะนำนะคะว่า ควรมีมอเตอร์ไซด์คู่ใจเลยค่ะ จะได้เที่ยวอย่างสนุก เนื่องจากเราไปในวันหยุดที่พักเต็มไม่พอ พาหนะก็ยังเป็นสิ่งที่หายากเช่นกันในที่สุดเราก็ได้มาค่ะ รถเครื่อง!! บ้าน จขกท เรียกแบบนี้
หลังจากตามล่าหา รถเครื่อง จนครบ 3 คัน เราก็ไปที่พักกันค่ะ รีวิวที่พักเยอะมาก โทรทุกที่ เต็มทุกที ได้ที่ที่ไม่ได้รีวิวมา แฮร่ !! แต่ท่ามกลางความโชคร้ายย่อมมีความโชคดี ที่พักสวยค่ะ เจ้าของใจดี แถมได้ฝึก skill การแว๊นซ์ด้วยค่ะ อ้อ ลืมบอกไปที่พักของแก๊งค์เรา คือ เพชรรันตี รีสอร์ทค่ะ อยู่ท่ามกลางขุนเขา ธรรรมชาติน่าพักเป็นอย่างยิ่ง เข้าข่ายโฆษณาเกินจริงป๊ะเนี่ย 555
บรรยากาศบริเวณที่พักค่ะ
อาคารเรียนรวมของพวกเราค่ะ
บรรยากาศรอบๆที่พัก
บ้านเรือนไทย ที่พักของพวกเราเองค่ะ

ห้องนอนคืนนี้ของแก๊งค์ลูกเป็ด
ดูเขียวขจีดีเนาะ
ที่พักที่นี่มีอยู่หลายหลังค่ะ พวกเราได้พัก บ้านเรือนไทย อยู่ติดกับอาคารเรียนรวม (จขกท เรียกเอาเอง อิอิ) ซึ่งเป็นที่กินข้าว ติดต่อเจ้าหน้าที่ และกินลมชมวิว แฮร่!! ที่พักเราน่าจะเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดค่ะ มี 2 ห้อง 1 ห้องน้ำ แต่พวกเราบรรจุ 7 คน ในนี้ได้สบายๆหลวมๆค่ะ
หลังจากเก็บข้าวของกันแล้ว สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ครึ้มมาแต่ไกลค่ะ มืดมาเชียว แต่มาถึงแล้ว จะช้าไปทำไม เปียกที่สังขละ ก็นับเป็นโชคของเรา 555 เป้าหมายถัดไปของเรา ยามเย็น ณ สะพานมอญ แว๊นซ์รถเครื่องกันเลยค่ะพี่น้อง แต่พอไปถึงสภาพที่เห็นคือ มืดมาก ลมเริ่มมา และแล้วฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาค่ะ จขกท และผองเพื่อน ได้เปียกฝนสังขละสมใจอยากแระ พวกเราดื่มดำ สูดอากาศยามเย็นท่ามกลางสายฝนแบบติดแหง็กอยู่ที่สะพานมอญอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ มองซ้ายมองขวา มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่
มันมาแล้วค่ะ มืดมาเชียว
ฝันสลายค่ะ ยามเย็นสะพานมอญ แต่ก็อีกบรรยากาศเนอะ
ทุกคนอัดแน่นหลบฝนอยู่ใต้ทางเข้าของสะพานค่ะ ได้แต่เก็บบรรยากาศวิวยามฝนตกมาฝากท่านผู้ชม เท่านั้น
อาหารเย็นระหว่างรอฝนหยุดค่ะ ก๋วยเตี๋ยวอุ่นๆร้อนๆ ราคา 30 บาท รสชาติใช้ได้นะคะ
รอไปรอมาฝนเจ้ากรรมไม่มีทีท่าจะหยุด อิ่มแล้วจะรออะไร เปียกก็เปียกแล้ว เป้าหมายถัดไปคือ หานมอุ่นๆดื่มดับความหนาวกันสักนิดเถอะ และก็ลงเอยที่ ชื่นใจ เฮาส์ค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะไปพักที่นี่ค่ะ แต่ที่พักที่นี่รับเฉพาะ walk in เท่านั้น อิป้าเลยไม่กล้าเสี่ยงสักเท่าไหร่เพราะเราไปกันเยอะ หาซอยต้นผึ้งให้เจอค่ะ เลย รร อนุบาลสังขละไปประมาณ 500 ม. เลี้ยวซ้ายตามทางไปเรื่อยๆ เจอ รร. อุ่นรัก แสดงว่าใกล้จะถึงละค่ะ ชื่นใจ เฮาส์จะอยู่ด้านซ้ายมือ ถามว่า จขกท หลงมั้ย ตอบเลยว่า หลงค่ะ ก็มันมืดนี่นา 555
มาตอนมืดแล้ว บรรยากาศสวยอีกแบบนะคะ
ลูกค้ากรุ๊ปอื่นๆอยู่ด้านในค่ะ ส่วนด้านนอกแก๊งค์ลูกเป็ดได้ทำการยึดพื้นที่ไว้แล้ว ฮร่าๆๆ
นมร้อน เป็นเมนูยอดฮิตสำหรับค่ำวันนี้เลยค่ะ
มีโปสการ์ดน่ารักๆ ด้วยค่ะ มีแสตมป์ขาย เผื่อใครอยากมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งเขียนถึงคุณแฟน คริคริ
บรรยากาศในร้านค่ะ ร้านน่ารักดีนะคะ
ฝนเริ่มโปรยมากขึ้น พร้อมกับใช้เวลาป่วนร้านชาวบ้านอยู่นานพอสมควรค่ะ ปล่อยให้ลูกค้าท่านๆอื่นมีโอกาสแวะเยี่ยมชมบ้าง แก๊งค์ลูกเป็ดจึงขอจรลีกลับที่พัก เพราะต้องไปดูอีแย้มค่ะ นัดชีไว้ 2 ทุ่มครึ่ง ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพค่ะ ข้างทางยามกลางคืนนี่มืดนะคะ ไม่แนะนำให้ไปหลายคน ให้ไปคนเดียวอาจได้สามีกลับบ้านด้วย อร๊าย !!!! ไม่ใช่ เยี่ยงนั้น ผู้ชายต้องไปเป็นกลุ่มนะคะ ชะนีอาจไม่ต้อง 555 ทางมืดนิดนึง จขกท ต้องบิดพาหนะด้วยความเร็วสูง กลัวเจอผีค่ะ 555 พรุ่งนี้เรามีนัดกัน 6 โมงเช้าที่หมู่บ้านฝั่งมอญเพื่อภารกิจใส่บาตรยามเช้า ปล. คืนนี้หนาวมากค่ะ
เช้าวันที่ 3 พค 57 แก๊งค์ลุกเป็ดตื่นอาบน้ำกันตั้งแต่ตี 5 เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำกันดีกว่าค่ะ หนาวแบบนี้ กทม ไม่มีนะคะ
ด้านหลังห้องพักค่ะ ขอแอบมีนางแบบนิดนุงนะคะ 555
หมอกค่ะ หมอก นี่มันหมอกนะคะท่านผู้ชม
ได้เวลาขบวนแว๊นซ์ฝ่าหมอกไปฝั่งมอญค่ะ ขอบอกว่าหน้าปะทะหมอกจนชาค่ะกว่าจะถึง เราต้องแว๊นซ์ข้ามฝั่งผ่านสะพานซองกาเรียไปนะคะ เราจะไม่เดินข้ามสะพานมอญไป เพื่อให้ได้ดื่มด่ำบรรยากาศของสังขละยามเช้า พูดเลยค่ะ อากาสดีเฟร่อๆๆ
สองข้างทาง ระหว่างไปฝั่งมอญค่ะ
ถึงฝั่งหมู่บ้านมอญจะมีชาวบ้านตั้งโต๊ะขายชุดอาหารสำหรับตักบาตรค่ะ นักท่องเที่ยววันนี้ค่อนข้างเยอะเต็ม 2 ข้างทางค่ะ
ใส่บาตรเสร็จ ได้เวลาเพิ่มพลังยามเช้าค่ะ เช้านี้ประชากรนักท่องเที่ยวหนาแน่นมากค่ะ ร้านที่ขึ้นชื่อและในพันทิปมักจะรีวิวไว้ก็คือ ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วยร้านป้าหยินค่ะ ติดกับสะพานไม้เลยค่ะ
เจ๊คนนี้ โด่งดังในพันทิปนะคะ ชื่อพี่เย็น ค่ะ
นี่คือโฉมหน้าป้าหยิน โต๊ะไหนทานเกิน 1000 จ๊าด รับพัดคู่ใจแถมฟรีไปเลยค่ะ จขกท มีรึที่จะพลาดกินไม่ถึง
น้องขา ทำได้ไง นี่คือการเทิน อีก 1 สิ่งที่มาแล้วไม่ควรพลาดเก็บภาพค่ะ
หลังจากภารกิจตามล่าอาหารเสร็จ ต่อไปเราจะไปล่องเรือชมวัดใต้น้ำกันค่ะ ราคานั้นอยู่ที่ ถ้าไปวัดเดียว คนละ 50 บาท 3 วัด คนละ 80 แก๊งค์ลูกเป็ดจัดค่ะ 3 วัดไหนๆก็มาแล้ว อย่าให้เสียค่ะ

บรรยากาศ สะพานมอญ ยามเช้ากับเมื่อวานเย็นนี่คนละเรื่องเลยนะคะ วันนี้แดดเปรี้ยงเลยค่ะ
[CR] สั ง ข ล ะ บุ รี ครั้งเดียวคงไม่พอ
แต่หลังจากนั้นไม่นานค่ะ เริ่มร้อนสิคะท่าน หมุนแอร์ยังไง ก็ไม่เย็นสักที แอร์เจ้ากำดันมามีปัญหาไม่เย็นค่ะท่านผู้ชม รถ ป.1 ซึ่งไม่มีหน้าต่างแถมแอร์ไม่เย็น กับการเดินทางประมาณ 7 ชม. นี่มันเป็นความวิบากชัดๆ มองหน้ากันแล้วเดินไปถาม พขร. ได้คำตอบที่ว่า อากาศมันร้อนแอร์สู้อากาศข้างนอกไม่ได้ !!!! เห้ย นี่มันเพิ่ง 7 โมงกว่าๆป้ะ สรุปเปลี่ยนน้ำยาแอร์รึป่าวคะ พี่โชว์เฟอร์ ทำอะไรไม่ได้ค่ะ นอกจากทำใจ กลับไปนั่งบ่น และทน ก็ขึ้นมาแล้วนี่ !!! ทุกคนมีอาวุธในมือเป็นพัดกระดาษค่ะ พัดโบกพัดวีกันยันบ่าย 2 ไม่ต้องถามเรื่องเหงื่อค่ะ เปียกยันตาตุ๋ม แหมะเปรียบเปรยซะ แฮร่ ๆๆ รถจะจอดพักรถ 2 จุดค่ะ จุดแรกประมาณก่อนถึงกาญจนบุรี จุดที่ 2 พักกินข้าวประมาณไทรโยคค่ะ แนะนำว่าช่วงนี้ ใครขี้เมารถ ให้โด๊ปยาแก้เมานิดนึงก็ได้ค่ะ มิฉะนั้นอาจโอ๊กอ๊ากเหมือนเด็กบนรถของ จขกท ได้ เพราะเข้าเขตทองผาภูมิจะจะมีแต่โค้งเท่านั้น ... เราถึงสังขละ กันประมาณ บ่ายโมงครึ่งค่ะ รถทัวร์จะจอดบริเวณหน้า 7 eleven ตรงตลาดสังขละเลย เอาละหวา!! แล้วทีนี้จะไปไงต่อ โทรหาที่พักที่จองไว้สิคะ !! เผื่อถามทาง พี่เจ้าของรีสอร์ทก็จิตใจงดงาม ขับรถมาบรรทุกพวกเราไปตระเวรหามอเตอร์ไซด์ก่อนเข้าที่พักค่ะ แนะนำนะคะว่า ควรมีมอเตอร์ไซด์คู่ใจเลยค่ะ จะได้เที่ยวอย่างสนุก เนื่องจากเราไปในวันหยุดที่พักเต็มไม่พอ พาหนะก็ยังเป็นสิ่งที่หายากเช่นกันในที่สุดเราก็ได้มาค่ะ รถเครื่อง!! บ้าน จขกท เรียกแบบนี้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น