สาวนิเทศศาสตร์
เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตลอดไปจนถึงวันอังคารผ่านมา เป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ผมได้เดินทางไปจังหวัดจันทบุรี โดยใช้บริการรถตู้ สายหมอชิต - จันทบุรี โดยขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างที่รอรถและระหว่างอยู่บนรถได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่ง แต่เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไป ผมเองไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอมากพอที่จะติดต่อได้อีก แต่ไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆ ในวันนั้นต้องสิ้นสุดลงพร้อมกับการเดินทาง ทางหนึ่งที่นึกออกและทำได้ในตอนนี้ คือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในพันทิป ซึ่งผมเองไม่แน่ใจว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะมากพอที่จะส่งถึงคนคนนึงให้รับรู้ได้ไหม แต่ผมไม่อยากอยู่เก็บความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ไว้เฉยๆ โดยไม่มีโอกาสให้เจ้าตัวได้รับรู้ ถ้าจะไม่สำเร็จก็ให้เป็นความล้มเหลวที่ตัวผมพยายามแล้วถึงทีสุดแล้ว ผมยืนยันว่าไม่มีความคิดเชิงชู้สาว หรือเจตนาก่อความรำคาญให้กับเธอ เจตนาแค่อยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ ในวันนั้น ให้คงมีอยู่ต่อไป จึงมาขอความช่วยเหลือจากทุกๆ ท่านครับ
จากการพุดคุยเธอ เธอเล่าว่า เธอเรียนนิเทศศาสตร์ แต่ผมไม่กล้าซักต่อ ว่าเรียนที่ไหน ยังไง เธอเล่าว่าเพิ่งเปิดเรียนมาได้ ๒ อาทิตย์ มีหนังสือวิชาหลักการโฆษณา ซึ่งท่านอาจารย์ผู้บรรยายให้นักศึกษาวิชาในนี้ยืมเรียนในเทอร์มนี้ และต้องนำหนังสือมาส่งคืนเมื่อปิดคอร์สเพื่อให้รุ่นน้องเรียนใช้เรียนต่อ ติดตัวไปด้วยครับ ตามตารางเวลาเธอต้องขึ้นรถเวลา ๑๖.๓๐ แต่รถมาช้า กว่ารถจะออก ก็ ๑๗.๓๐ ผมจึงได้มีโอกาสพูดคุยในเรื่องทั่วๆไปด้วยพอสมควร เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กครับ โทรศัพท์และที่ชาร์ต สีชมพู ระหว่างอยู่บนรถเธอหยิบผ้าขึ้นมาห่ม ผมหันไปมองเพราะสงสัยว่าเธอจะทำอะไร เมื่อหันไป ก็ได้แต่ยิ้มครับ เพราะ เธอบอกว่า เธอติดผ้าติดผ้าห่ม วันนั้นผ้าห่มที่เธอใช้ เป็นลายคิตตี้ ผมไม่แน่ใจว่านอกจากติดผ้าห่มแล้ว ผ้าห่มที่เธอติดต้องเป็นลาย ดิตตี้ คู่ใจผืนนี้ด้วยไหม ในวันนั้นก็ผมอยากจะขอข้อมูลอะไรไว้ติดต่อสื่อสารกับเธอน่ะครับ แต่มันพูดไม่ออก ข้อมูลที่ได้มาเลยมีเท่านี้แหละครับ
ถ้าเธอได้ยินผมอยากบอกว่า ดีใจน่ะครับ ที่ได้คุยด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากคุยกับเธออีกเรื่อยๆ น่ะครับ แต่ผมไม่รู้จะไปหาเธอได้ ที่ไหน ครับ
สาวนิเทศศาสตร์
เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ตลอดไปจนถึงวันอังคารผ่านมา เป็นช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ผมได้เดินทางไปจังหวัดจันทบุรี โดยใช้บริการรถตู้ สายหมอชิต - จันทบุรี โดยขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างที่รอรถและระหว่างอยู่บนรถได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ร่วมเดินทางคนหนึ่ง แต่เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไป ผมเองไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอมากพอที่จะติดต่อได้อีก แต่ไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆ ในวันนั้นต้องสิ้นสุดลงพร้อมกับการเดินทาง ทางหนึ่งที่นึกออกและทำได้ในตอนนี้ คือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในพันทิป ซึ่งผมเองไม่แน่ใจว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะมากพอที่จะส่งถึงคนคนนึงให้รับรู้ได้ไหม แต่ผมไม่อยากอยู่เก็บความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ไว้เฉยๆ โดยไม่มีโอกาสให้เจ้าตัวได้รับรู้ ถ้าจะไม่สำเร็จก็ให้เป็นความล้มเหลวที่ตัวผมพยายามแล้วถึงทีสุดแล้ว ผมยืนยันว่าไม่มีความคิดเชิงชู้สาว หรือเจตนาก่อความรำคาญให้กับเธอ เจตนาแค่อยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ ในวันนั้น ให้คงมีอยู่ต่อไป จึงมาขอความช่วยเหลือจากทุกๆ ท่านครับ
จากการพุดคุยเธอ เธอเล่าว่า เธอเรียนนิเทศศาสตร์ แต่ผมไม่กล้าซักต่อ ว่าเรียนที่ไหน ยังไง เธอเล่าว่าเพิ่งเปิดเรียนมาได้ ๒ อาทิตย์ มีหนังสือวิชาหลักการโฆษณา ซึ่งท่านอาจารย์ผู้บรรยายให้นักศึกษาวิชาในนี้ยืมเรียนในเทอร์มนี้ และต้องนำหนังสือมาส่งคืนเมื่อปิดคอร์สเพื่อให้รุ่นน้องเรียนใช้เรียนต่อ ติดตัวไปด้วยครับ ตามตารางเวลาเธอต้องขึ้นรถเวลา ๑๖.๓๐ แต่รถมาช้า กว่ารถจะออก ก็ ๑๗.๓๐ ผมจึงได้มีโอกาสพูดคุยในเรื่องทั่วๆไปด้วยพอสมควร เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กครับ โทรศัพท์และที่ชาร์ต สีชมพู ระหว่างอยู่บนรถเธอหยิบผ้าขึ้นมาห่ม ผมหันไปมองเพราะสงสัยว่าเธอจะทำอะไร เมื่อหันไป ก็ได้แต่ยิ้มครับ เพราะ เธอบอกว่า เธอติดผ้าติดผ้าห่ม วันนั้นผ้าห่มที่เธอใช้ เป็นลายคิตตี้ ผมไม่แน่ใจว่านอกจากติดผ้าห่มแล้ว ผ้าห่มที่เธอติดต้องเป็นลาย ดิตตี้ คู่ใจผืนนี้ด้วยไหม ในวันนั้นก็ผมอยากจะขอข้อมูลอะไรไว้ติดต่อสื่อสารกับเธอน่ะครับ แต่มันพูดไม่ออก ข้อมูลที่ได้มาเลยมีเท่านี้แหละครับ
ถ้าเธอได้ยินผมอยากบอกว่า ดีใจน่ะครับ ที่ได้คุยด้วย หากเป็นไปได้ก็อยากคุยกับเธออีกเรื่อยๆ น่ะครับ แต่ผมไม่รู้จะไปหาเธอได้ ที่ไหน ครับ