140915 Starnews创刊10周年采访 《与希澈回顾偶像10年史:“Number one 多 Only one少”》
คิมฮีชอลกับมุมมองต่อความเปลี่ยนแปลงของวงการไอดอลในรอบสิบปี
"การเพิ่มขึ้นของ Number One แต่ความเป็น Only One เริ่มน้อยลง"
Star News ได้ฉลองการก่อตั้งสู่ปีที่10 ด้วยบทสัมภาษณ์ของเมมเบอร์จากวงที่เป็นตัวแทน KPOP
Super Junior คิมฮีชอลผู้ที่มีมุมมองและคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมาพูดคุยเกี่ยวกับวงการเพลง
โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงในวงการไอดอลในรอบ 10 ปี
Q: อันดับแรกเลย ยินดีกับการคว้าที่1 ของ Mamacita ในรายการเพลงด้วยนะคะ ครบรอบ10 ปีด้วย ในฐานะนักร้องคงรู้สึกดีมาก
ฮีชอล: มันอาจจะฟังดูไม่ถูกต้องนักถ้าพูดไป แต่ตอนนี้อันดับต่างๆไม่สำคัญแล้วครับ พอเรามาถึงจุดที่ครบรอบ10ปี ก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ แน่นอนว่าผมก็ดีใจมากๆกับที่1ที่แฟนๆมอบให้ เป็นเพราะความรักต่ออาชีพนี้ทำให้เราอยู่มาสิบปีจนถึงทุกวันนี้
ส่วนตัวแล้วผมมองวงการนี้เหมือนเป็นครอบครัวนะ ความรู้สึกนี้คุณจะเข้าใจเมื่อเห็นรุ่นพี่ชินฮวา, G.O.D และพี่ผู้จัดการที่เรารู้จักเมื่อ10ปีที่แล้วตอนนี้ได้มาเป็นผู้บริหารหรือตัวแทนบริษัทของตัวเอง เห็นแบบนั้นแล้วผมก็รู้สึกดีจริงๆ เพราะเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันน่ะครับ
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือตอนนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้รวมตัวกับรุ่นน้องบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
Q:คุณจะบอกว่าการที่รุ่นพี่รุ่นน้องไม่ได้มีสายสัมพันธ์กัน เป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบ10ปีที่ผ่านมา?
ฮีชอล: "แน่นอนว่าโอกาสที่รุ่นพี่รุ่นน้องได้เจอกันมันน้อยลงมาก แม้ว่ารุ่นน้องจะมีมารยาทมากๆและทักทายเราอยู่ตลอด บางทีอาจเป็นเพราะไอดอลยุคนี้มีเยอะมากๆ ช่วงโปรโมตของแต่ละวงเลยน้อยลงไปด้วย ในยุค90เมื่อดรีมคอนเสิร์ตจบลง ผมได้ยินมาว่าทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็จะนั่งรถบัสออกไปเที่ยวเล่นกัน สมัยนี้มันไม่มีแล้ว
10ปีที่ผ่านมามีรายการอย่าง Star Golden Bell และ Xman สำหรับให้วงใหม่ๆไปออกแสดงความสามารถ พอช่วงเบรกทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็จะใช้เวลาเหล่านั้นสร้างมิตรภาพ การที่ไม่มีรายการแบบนั้นแล้ว วงไอดอลเลยมีโอกาสเจอกันน้อยลง ทางค่ายโดยเฉพาะกับวงไอดอลหญิงจะค่อนข้างกลัวข่าวอื้อฉาวเลยไม่อนุญาติให้ไอดอลสนิทกันมากเกินไป ผมว่านี่เป็นอีกเหตุผลนึงเลย ที่ทำให้โอกาสที่รุ่นพี่รุ่นน้องจะเจอกันน้อยลงไปด้วย"
Q:ในช่วง10ปีที่ผ่านมา กระแสฮันรยูได้เกิดขึ้น คุณก็ผ่านประสบการณ์มามากมายเลยใช่มั้ย?
ฮีชอล: "ตอนนี้แฟนต่างชาติจะสามารถดูบางรายการเพลงในประเทศตัวเองได้เลย ซึ่งถ้ามาเปรียบเทียบตอนที่ผมเดบิวท์ ตอนนี้ฮันรยูมีอิทธิพลมากขึ้นจริงๆ แต่ผมรู้สึกว่าเคป๊อปได้ร่วงจากจุดพีคไปแล้ว ผมว่ามันเป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันมีคอนเสิร์ตที่เรียกว่า 'package' concert หรือคอนเสิร์ตรวมศิลปินในต่างประเทศ เวลาแสดงคอนรวมที่ต่างประเทศผมรู้สึกว่าถ้าเปรียบเทียบดูแล้ว แฟนๆจะอยากดูแค่วงโปรดของตัวเองในคอนเดี่ยวมากกว่าและคอนเสิร์ตเดี่ยวยังสามารถโชว์ศักยภาพได้ดีกว่าด้วย
ผมว่าถ้าอยากให้ฮันรยูอยู่ต่อไปได้ควรจะลดคอนรวมและเพิ่มคอนเดี่ยวของแต่ละวงจะดีกว่า"
Q: แล้วในช่วง10ปีที่ผ่านมาเพลงไหนที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุด?
ฮีชอล: "กังนัมสไตล์ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเพลงไหนล้มได้เลย สำหรับซูจูก็ sorry sorry เพลงคุณภาพโดยยูยองจิน ก่อนที่จะมีกังนัมสไตล์เพลงนี้แฟนๆเคป๊อปหลายๆคนก็ร้องตามได้ ผมดีใจมากตอนที่นักแสดงคิมมยองมินโทรหาจากต่างประเทศว่า "ฮีชอลอ่า ตอนนี้ที่นี่กำลังเปิด Sorry Sorry อยู่แหละ" ได้ยินมาว่า Psy พูดว่าเพลงกังนัมสไตล์ไม่ได้แต่งเจาะตลาดต่างประเทศแต่เพื่อความบันเทิง แม้แต่ Sorry Sorry ของเราก็เหมือนกันครับไม่ได้ต้องการเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศ ถ้าคุณสนุกไปกับดนตรี ถึงเป็นต่างชาติก็จะเข้าใจภาษาของมันเช่นกัน จริงๆส่วนตัวตั้งแต่เด็กผมจะชอบเพลงร็อคกับแร็ป ผมหวังว่าแนวเพลงนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น"
Q: ในรอบ10ปีนี้ ค่ายเพลงมีการพัฒนาระบบเทรนนิ่งที่ดีขึ้นมาก ทั้งเสียงร้อง ท่าเต้น ภาษาต่างประเทศคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?
ฮีชอล: การเปลี่ยนแปลงระบบเป็นเรื่องดีนะ แต่มันก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ระบบการฝึกดีขึ้นทำให้ไอดอลสามารถร้องและเต้นได้ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อนพวกเค้ามีทักษะที่ดีขึ้นกันมาก แต่ทุกคนต่างพึ่งพาระบบมากจนสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ทักษะที่ดีทำให้ทุกวงต่างก็เป็น Number 1 แต่วงที่เป็น Only 1 มันน้อยลง ส่วนตัวผมชอบความเป็น Only1 มากกว่า Number 1 ต้องแสดงให้เห็นความแตกต่างของคุณก่อนแล้วค่อยพัฒนาทักษะ ไม่นานมานี้รุ่นน้องที่ผมสนใจคือ Vixx ผมมาชอบหลังจากที่ได้ดูเอมวี Voodoo Doll
เกริ์ลกรุ๊ปก็ Red Velvet เมมเบอร์สี่คนย้อมผมคนละสีนี่ผมว่าสตาฟคนที่คิดควรได้รางวัลอ่ะ มันทำให้แยกเมมเบอร์ง่ายและสร้างความแตกต่างให้วง
-CONT-
***ต้นฉบับมาแก้ไขทรานส์ 12/1/16 ***
[STARNEWS] สัมภาษณ์คิมฮีชอลกับการเปลี่ยนแปลงของ KPOP ในรอบ 10 ปี
"การเพิ่มขึ้นของ Number One แต่ความเป็น Only One เริ่มน้อยลง"
Super Junior คิมฮีชอลผู้ที่มีมุมมองและคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมาพูดคุยเกี่ยวกับวงการเพลง
โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงในวงการไอดอลในรอบ 10 ปี
Q: อันดับแรกเลย ยินดีกับการคว้าที่1 ของ Mamacita ในรายการเพลงด้วยนะคะ ครบรอบ10 ปีด้วย ในฐานะนักร้องคงรู้สึกดีมาก
ฮีชอล: มันอาจจะฟังดูไม่ถูกต้องนักถ้าพูดไป แต่ตอนนี้อันดับต่างๆไม่สำคัญแล้วครับ พอเรามาถึงจุดที่ครบรอบ10ปี ก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ แน่นอนว่าผมก็ดีใจมากๆกับที่1ที่แฟนๆมอบให้ เป็นเพราะความรักต่ออาชีพนี้ทำให้เราอยู่มาสิบปีจนถึงทุกวันนี้
ส่วนตัวแล้วผมมองวงการนี้เหมือนเป็นครอบครัวนะ ความรู้สึกนี้คุณจะเข้าใจเมื่อเห็นรุ่นพี่ชินฮวา, G.O.D และพี่ผู้จัดการที่เรารู้จักเมื่อ10ปีที่แล้วตอนนี้ได้มาเป็นผู้บริหารหรือตัวแทนบริษัทของตัวเอง เห็นแบบนั้นแล้วผมก็รู้สึกดีจริงๆ เพราะเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันน่ะครับ
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือตอนนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้รวมตัวกับรุ่นน้องบ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
Q:คุณจะบอกว่าการที่รุ่นพี่รุ่นน้องไม่ได้มีสายสัมพันธ์กัน เป็นความเปลี่ยนแปลงในรอบ10ปีที่ผ่านมา?
ฮีชอล: "แน่นอนว่าโอกาสที่รุ่นพี่รุ่นน้องได้เจอกันมันน้อยลงมาก แม้ว่ารุ่นน้องจะมีมารยาทมากๆและทักทายเราอยู่ตลอด บางทีอาจเป็นเพราะไอดอลยุคนี้มีเยอะมากๆ ช่วงโปรโมตของแต่ละวงเลยน้อยลงไปด้วย ในยุค90เมื่อดรีมคอนเสิร์ตจบลง ผมได้ยินมาว่าทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็จะนั่งรถบัสออกไปเที่ยวเล่นกัน สมัยนี้มันไม่มีแล้ว
10ปีที่ผ่านมามีรายการอย่าง Star Golden Bell และ Xman สำหรับให้วงใหม่ๆไปออกแสดงความสามารถ พอช่วงเบรกทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็จะใช้เวลาเหล่านั้นสร้างมิตรภาพ การที่ไม่มีรายการแบบนั้นแล้ว วงไอดอลเลยมีโอกาสเจอกันน้อยลง ทางค่ายโดยเฉพาะกับวงไอดอลหญิงจะค่อนข้างกลัวข่าวอื้อฉาวเลยไม่อนุญาติให้ไอดอลสนิทกันมากเกินไป ผมว่านี่เป็นอีกเหตุผลนึงเลย ที่ทำให้โอกาสที่รุ่นพี่รุ่นน้องจะเจอกันน้อยลงไปด้วย"
Q:ในช่วง10ปีที่ผ่านมา กระแสฮันรยูได้เกิดขึ้น คุณก็ผ่านประสบการณ์มามากมายเลยใช่มั้ย?
ฮีชอล: "ตอนนี้แฟนต่างชาติจะสามารถดูบางรายการเพลงในประเทศตัวเองได้เลย ซึ่งถ้ามาเปรียบเทียบตอนที่ผมเดบิวท์ ตอนนี้ฮันรยูมีอิทธิพลมากขึ้นจริงๆ แต่ผมรู้สึกว่าเคป๊อปได้ร่วงจากจุดพีคไปแล้ว ผมว่ามันเป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันมีคอนเสิร์ตที่เรียกว่า 'package' concert หรือคอนเสิร์ตรวมศิลปินในต่างประเทศ เวลาแสดงคอนรวมที่ต่างประเทศผมรู้สึกว่าถ้าเปรียบเทียบดูแล้ว แฟนๆจะอยากดูแค่วงโปรดของตัวเองในคอนเดี่ยวมากกว่าและคอนเสิร์ตเดี่ยวยังสามารถโชว์ศักยภาพได้ดีกว่าด้วย
ผมว่าถ้าอยากให้ฮันรยูอยู่ต่อไปได้ควรจะลดคอนรวมและเพิ่มคอนเดี่ยวของแต่ละวงจะดีกว่า"
Q: แล้วในช่วง10ปีที่ผ่านมาเพลงไหนที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุด?
ฮีชอล: "กังนัมสไตล์ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเพลงไหนล้มได้เลย สำหรับซูจูก็ sorry sorry เพลงคุณภาพโดยยูยองจิน ก่อนที่จะมีกังนัมสไตล์เพลงนี้แฟนๆเคป๊อปหลายๆคนก็ร้องตามได้ ผมดีใจมากตอนที่นักแสดงคิมมยองมินโทรหาจากต่างประเทศว่า "ฮีชอลอ่า ตอนนี้ที่นี่กำลังเปิด Sorry Sorry อยู่แหละ" ได้ยินมาว่า Psy พูดว่าเพลงกังนัมสไตล์ไม่ได้แต่งเจาะตลาดต่างประเทศแต่เพื่อความบันเทิง แม้แต่ Sorry Sorry ของเราก็เหมือนกันครับไม่ได้ต้องการเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศ ถ้าคุณสนุกไปกับดนตรี ถึงเป็นต่างชาติก็จะเข้าใจภาษาของมันเช่นกัน จริงๆส่วนตัวตั้งแต่เด็กผมจะชอบเพลงร็อคกับแร็ป ผมหวังว่าแนวเพลงนี้จะได้รับความนิยมมากขึ้น"
Q: ในรอบ10ปีนี้ ค่ายเพลงมีการพัฒนาระบบเทรนนิ่งที่ดีขึ้นมาก ทั้งเสียงร้อง ท่าเต้น ภาษาต่างประเทศคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?
ฮีชอล: การเปลี่ยนแปลงระบบเป็นเรื่องดีนะ แต่มันก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ระบบการฝึกดีขึ้นทำให้ไอดอลสามารถร้องและเต้นได้ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อนพวกเค้ามีทักษะที่ดีขึ้นกันมาก แต่ทุกคนต่างพึ่งพาระบบมากจนสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ทักษะที่ดีทำให้ทุกวงต่างก็เป็น Number 1 แต่วงที่เป็น Only 1 มันน้อยลง ส่วนตัวผมชอบความเป็น Only1 มากกว่า Number 1 ต้องแสดงให้เห็นความแตกต่างของคุณก่อนแล้วค่อยพัฒนาทักษะ ไม่นานมานี้รุ่นน้องที่ผมสนใจคือ Vixx ผมมาชอบหลังจากที่ได้ดูเอมวี Voodoo Doll
เกริ์ลกรุ๊ปก็ Red Velvet เมมเบอร์สี่คนย้อมผมคนละสีนี่ผมว่าสตาฟคนที่คิดควรได้รางวัลอ่ะ มันทำให้แยกเมมเบอร์ง่ายและสร้างความแตกต่างให้วง
-CONT-
***ต้นฉบับมาแก้ไขทรานส์ 12/1/16 ***