[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมได้อ่านเจอบทความนี้โดยบังเอิญ จากนิตยสาร คู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 885 23 มกราคม 2558 คอลัมน์ ความหลังฝังใจ อ่านแล้วอยากนำมาให้ผู้ปกครองทั้งหลายได้อ่านและหมั่นระมัดระวัง ระแวง เตือนภัยบุตรหลานทุกๆวัย ทั้งเด็กเล็กเด็กโต ทั้งเด็กหญิงเด็กชาย ถึงความมีอยู่จริงของคนบ้ากาม ทั้งนอกบ้านและในบ้าน ให้เด็กๆได้รู้ว่าเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศคืออะไร และควรป้องกันตัวยังไงเมื่อพบเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น !!!!
ถ้ามองโดยทั่วไปแล้ว ฉันก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆคนนึง แต่ใครจะรู้ว่า ถ้ามองเข้ามาลึกๆภายในจิตใจของฉันแล้ว ฉันมีความทรงจำที่ไม่ดีติดตัวเสมอมา ฉันเคยมีปสก.อันเลวร้าย วันนี้ฉันขอออกมาเล่าปสก.นั้น เพื่อที่จะได้เป็นอุธาหรณ์สอนใจแก่ทุกท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านที่มีเด็กเล็กๆอยู่ในความดูแล
เหตุการณ์นั้นผ่านมาเนิ่นนานเป็น10กว่าปีแล้ว แต่ฉันยังไม่เคยลืม ทำไมนะ สิ่งที่ไม่อยากลืมกลับลืม แต่สิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การจดจำเลย ฉันกลับจำได้ดี
ฉันอาศัยอยู่ที่ภาคอิสานกับพ่อและแม่ แต่ฉันชอบไปเล่นที่บ้านยายเป็นประจำ และสมัยนั้นใกล้ๆบ้านยายก็จะมีร้านขายของชำของ2สามีภรรยาคู่หนึ่ง.....เรื่องเกิดขึ้นที่นี่
ฉันจำไม่ได้แน่นักว่าตอนนั้นฉันอายุเท่าไหร่ น่าจะราวๆ5-6ขวบได้ วันนั้นเป็นวันหยุด ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนจึงไปเล่นที่บ้านยาย วันนั้นมีญาติมาที่บ้านยายด้วย ฉันได้เล่นกับเพื่อนใหม่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันที่มากับญาติๆ ระหว่างวันฉันขออนุญาตยายไปซื้อขนมที่ร้านขายของชำใกล้ๆหลายครั้ง ปกติสามีภรรยาคู่นั้นจะช่วยกันขายของ แต่วันนั้นดันมีแต่ชายผู้เป็นสามี ไม่มีภรรยาออกมาขายของด้วย ครั้งแรกๆก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาครั้งหลังสุดที่ฉันไปซื้อขนม ผู้ชายคนนั้นเรียกชื่อฉัน แล้วเรียกฉันให้เข้าไปในบ้านของเขา จนในที่สุดก็พาเข้ามาในห้องที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเขา เค้าบอกให้ฉันนอนลงบนเตียง แล้วให้อยู่เฉยๆ
ฉันซึ่งตอนนั้นยังเด็กมากก็ทำตามแบบงงๆด้วยความไร้เดียงสา
แล้วเขาก็ล่วงละเมิดทางเพศฉันอยู่ค่อนข้างนาน ฉันจำได้ว่าฉันบอกว่าเจ็บ แล้วก็ออกจากห้องนั้นวิ่งกลับบ้านยาย(รอดออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้) พอถึงบ้านยายก็เล่นต่อจนเย็นแล้วจึงกลับบ้าน หาได้รู้ร้อนรู้หนาวไม่ ว่าสิ่งที่ชายคนนั้นทำเป็นการขโมยสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขาได้ขโมยพรหมจรรย์ของฉันไปแล้ว
กว่าจะรู้ว่าตัวเองโดนอะไรก็ตอนโตมาสักหน่อย แล้วด้วยเหตุที่ในวันนั้นฉันยังเด็ก ไม่รู้ว่าสิ่งๆนั้นมันคืออะไร วันนั้นฉันจึงไม่ได้เอะใจ ไม่คิดอะไร และไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จวบจนวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ แม้ในวันนี้ฉันได้รู้แล้วว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร
ปัจจุบันฉันมีอายุย่าง19แล้ว ยังถือว่าฉันโชคดีกว่าเด็กหลายๆคน ที่ยังมีชีวิตรอดกลับมาเล่าปสก.นี้ได้ โชคดีที่ฉันไม่ถูกฆ่าตายในวันนั้นเสียก่อน(เหมือนที่เป็นข่าวว่ามันมักจะมาเป็นแพคเกจว่า เด็กถูกหลอกไปข่มขืนแล้วฆ่า หรือถูกฆ่า-ข่มขืน ฉันคิดอยู่นานว่าจะเขียนมาเล่าปสก.ให้ คู่สร้างคู่สมดีหรือไม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
แต่ที่ฉันตัดสินใจเขียนมานี้ ก็เพื่อจะเตือนผู้ใหญ่ว่าควรให้ความสำคัญในการดูแลเด็กเล็กให้ดี ให้ความสำคัญกับเวลาในการดูแลเด็กบ้าง อย่ามัวแต่มุ่งทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาให้พวกเขา เพราะหากเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมา เด็กๆที่เป็นลูกหลานของพวกคุณ อาจไม่โชคดีในความโชคร้ายแบบฉันก็ได้

# จาก อดีตเด็กที่เคยถูกข่มขืน
Cr : นิตยสาร คู่สร้างคู่สม และ รพส.จุฬา (ไปอ่านเจอจากโรงบาลสัตว์เล็กจุฬา เลยขอยืมกลับมาโพสต์ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปคืนครับ อิอิ

)
หนูเคยถูกข่มขืน
ถ้ามองโดยทั่วไปแล้ว ฉันก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆคนนึง แต่ใครจะรู้ว่า ถ้ามองเข้ามาลึกๆภายในจิตใจของฉันแล้ว ฉันมีความทรงจำที่ไม่ดีติดตัวเสมอมา ฉันเคยมีปสก.อันเลวร้าย วันนี้ฉันขอออกมาเล่าปสก.นั้น เพื่อที่จะได้เป็นอุธาหรณ์สอนใจแก่ทุกท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านที่มีเด็กเล็กๆอยู่ในความดูแล
เหตุการณ์นั้นผ่านมาเนิ่นนานเป็น10กว่าปีแล้ว แต่ฉันยังไม่เคยลืม ทำไมนะ สิ่งที่ไม่อยากลืมกลับลืม แต่สิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การจดจำเลย ฉันกลับจำได้ดี
ฉันอาศัยอยู่ที่ภาคอิสานกับพ่อและแม่ แต่ฉันชอบไปเล่นที่บ้านยายเป็นประจำ และสมัยนั้นใกล้ๆบ้านยายก็จะมีร้านขายของชำของ2สามีภรรยาคู่หนึ่ง.....เรื่องเกิดขึ้นที่นี่
ฉันจำไม่ได้แน่นักว่าตอนนั้นฉันอายุเท่าไหร่ น่าจะราวๆ5-6ขวบได้ วันนั้นเป็นวันหยุด ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนจึงไปเล่นที่บ้านยาย วันนั้นมีญาติมาที่บ้านยายด้วย ฉันได้เล่นกับเพื่อนใหม่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉันที่มากับญาติๆ ระหว่างวันฉันขออนุญาตยายไปซื้อขนมที่ร้านขายของชำใกล้ๆหลายครั้ง ปกติสามีภรรยาคู่นั้นจะช่วยกันขายของ แต่วันนั้นดันมีแต่ชายผู้เป็นสามี ไม่มีภรรยาออกมาขายของด้วย ครั้งแรกๆก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมาครั้งหลังสุดที่ฉันไปซื้อขนม ผู้ชายคนนั้นเรียกชื่อฉัน แล้วเรียกฉันให้เข้าไปในบ้านของเขา จนในที่สุดก็พาเข้ามาในห้องที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเขา เค้าบอกให้ฉันนอนลงบนเตียง แล้วให้อยู่เฉยๆ
ฉันซึ่งตอนนั้นยังเด็กมากก็ทำตามแบบงงๆด้วยความไร้เดียงสา แล้วเขาก็ล่วงละเมิดทางเพศฉันอยู่ค่อนข้างนาน ฉันจำได้ว่าฉันบอกว่าเจ็บ แล้วก็ออกจากห้องนั้นวิ่งกลับบ้านยาย(รอดออกมาได้ยังไงก็ไม่รู้) พอถึงบ้านยายก็เล่นต่อจนเย็นแล้วจึงกลับบ้าน หาได้รู้ร้อนรู้หนาวไม่ ว่าสิ่งที่ชายคนนั้นทำเป็นการขโมยสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขาได้ขโมยพรหมจรรย์ของฉันไปแล้ว
กว่าจะรู้ว่าตัวเองโดนอะไรก็ตอนโตมาสักหน่อย แล้วด้วยเหตุที่ในวันนั้นฉันยังเด็ก ไม่รู้ว่าสิ่งๆนั้นมันคืออะไร วันนั้นฉันจึงไม่ได้เอะใจ ไม่คิดอะไร และไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จวบจนวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ แม้ในวันนี้ฉันได้รู้แล้วว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร
ปัจจุบันฉันมีอายุย่าง19แล้ว ยังถือว่าฉันโชคดีกว่าเด็กหลายๆคน ที่ยังมีชีวิตรอดกลับมาเล่าปสก.นี้ได้ โชคดีที่ฉันไม่ถูกฆ่าตายในวันนั้นเสียก่อน(เหมือนที่เป็นข่าวว่ามันมักจะมาเป็นแพคเกจว่า เด็กถูกหลอกไปข่มขืนแล้วฆ่า หรือถูกฆ่า-ข่มขืน ฉันคิดอยู่นานว่าจะเขียนมาเล่าปสก.ให้ คู่สร้างคู่สมดีหรือไม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
แต่ที่ฉันตัดสินใจเขียนมานี้ ก็เพื่อจะเตือนผู้ใหญ่ว่าควรให้ความสำคัญในการดูแลเด็กเล็กให้ดี ให้ความสำคัญกับเวลาในการดูแลเด็กบ้าง อย่ามัวแต่มุ่งทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาให้พวกเขา เพราะหากเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมา เด็กๆที่เป็นลูกหลานของพวกคุณ อาจไม่โชคดีในความโชคร้ายแบบฉันก็ได้
# จาก อดีตเด็กที่เคยถูกข่มขืน
Cr : นิตยสาร คู่สร้างคู่สม และ รพส.จุฬา (ไปอ่านเจอจากโรงบาลสัตว์เล็กจุฬา เลยขอยืมกลับมาโพสต์ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปคืนครับ อิอิ