เราโดนลูกพี่ลูกน้องข่มขืน+โดนรุมถอดเสื้อเพื่อที่จะให้เล่นด้วย

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีก่อนพ่อแม่ของเราแยกทางกันเลยทำให้เราต้องไปอยู่กับญาติห่างๆที่สุพรรณบุรี  ด้วยความเป็นเด็กแล้วเพิ่งมาใหม่เราเลยอยากมีเพื่อนเราจึงขอเด็กในหมู่บ้านเล่นด้วยแต่ก็โดนปฏิเสธเพราะคนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเราห้ามไม่ให้ใครเล่นกับเราบ้านที่เราอยู่นั้นเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวมีใต้ถุนในตัวบ้านมีเตียง 2 เตียงติดกันเป็นที่นอนของยายกับพี่สาวเราแค่ 2 คนส่วนเรานั้นได้นอนตรงพื้นข้างล่างคนเดียวเด็กวัย 7 ขวบได้สัมผัสกับความมืดและการนอนคนเดียวตอนที่เราไปโรงเรียนเราทำตัวปกติทุกอย่างแต่พอหลังเลิกเรียนตอนจะอาบน้ำพี่สาวคนนั้นจะชวนให้เราเข้าไปในห้องน้ำด้วยหลายๆคนคงคิดว่าเขาคงจะช่วยน้องสาวอาบน้ำกับความเป็นจริงโหดร้ายเสมอพี่คนนั้นบอกให้เรานอนลงกับพื้นแล้วเอาตรงนั้นของเขามาถูกับน้องของเราเรารู้สึกสะอิดสะเอียนมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนอยู่เฉยๆให้เขาทำแบบนั้นจนเสร็จความใคร่เขาขู่เราว่าถ้าเราเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นเขาจะฟ้องแม่เราด้วยความที่เราเป็นเด็กเราเลยเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่พูดกับใครหลังจากนั้นเราก็หาเพื่อนเล่นขอเขาเล่นด้วยบางทีเขาก็เล่นด้วยบางทีเขาก็ไม่เล่นด้วยจนมีอยู่วันหนึ่งพี่สาวคนนั้นบอกกับเราว่าถ้าเรายอมทำตามสิ่งที่เขาพูดเขาจะยอมให้เราเล่นด้วยเราเลยตอบตกลงวันต่อมาพี่สาวคนนั้นกับเด็กในหมู่บ้านอีกประมาณ 5 คนเดินเข้าไปในป่าริมถนนตอนนั้นเป็นตอนกลางวันไม่ค่อยมีผู้ใหญ่อยู่แถวนั้นพี่สาวบอกให้นอนลงกับพื้นดินนั่นแล้วตัวเขาก็อยู่บนหัวเราเขาสั่งให้เด็กชาย 3 คนและเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่าเรา 1คนหลังจากนั้นเขาเริ่มที่จะรุมถอดเสื้อเราตอนแรกเราก็คิดว่าเขาเล่นๆแต่ผ่านไปสักพักเรารู้สึกว่ามันจริงจังมากขึ้นเราเลยขอให้พี่สาวคนนั้นหยุดแต่เขากลับทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของเราวินาทีนั้นเรารู้สึกเจ็บแค้นเป็นอย่างมากเราจำไม่ได้ว่าเราหนีออกมายังไงแต่เรารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เรานั่งร้องไห้อยู่ในห้องเสื้อผ้าคนเดียวเย็นวันนั้นพี่คนนั้นกลับมาที่บ้านแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนอาบน้ำก็เรียกเราให้ไปทำแบบนั้นเหมือนเดิมพอตอนไปโรงเรียนเราก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราอายถ้าทุกคนรู้เรื่องนี้เราจึงเก็บมันไว้คนเดียวเราเริ่มร้องไห้ทุกคืนลองหนักขึ้นและหนักขึ้นแต่เราก็ไม่ลดละความพยายามเราเห็นว่าพี่สาวคนนั้นกับเด็กพี่อายุน้อยกว่าเรานั่งเล่นขายของกันอยู่เราคิดว่าการกระทำของเขาเมื่อวันก่อนนั้นทำให้เขายอมรับและให้เราเล่นด้วยเราเข้าไปแล้วพูดว่า"ขอเล่นด้วยได้ไหม"พี่สาวกลับทำเป็นไม่ได้ยินเสียงทำเหมือนเราเป็นธาตุอากาศเรายืนอยู่ตรงนั้นสักพักและเหมือนเขาจะทำเป็นไม่เห็นเราเราจึงเดินกลับบ้านวันต่อมาเราไปเล่นบ้านของเด็กคนนั้นเด็กคนนั้นดูอายุน้อยกว่าเราหลายปีแต่เขากลับเรียกเราโดยใช้คำนำหน้าว่าอีตามด้วยชื่อของเราเราเข้าไปเล่นอยู่ในห้องๆหนึ่งหลังจากอยู่กันลำพังเด็กคนนั้นก็ล็อคตัวเราให้อยู่นิ่งๆแล้วพี่ชายของเขาก็เริ่มที่จะถอดเสื้อเราออกทีละชิ้นเราคิดว่ามันเริ่มจะไม่ดีเราเลยตะโกนให้คนข้างนอกช่วยแต่โชคยังเข้าข้างมีคนมาช่วยเราออกจากเหตุการณ์นั้นทันเราเลยขอกลับบ้านก่อนตอนกลางคืนเราก็กลับมาร้องไห้ทุกวันบางครั้งเราก็คุยกับตุ๊กตาที่แม่ซื้อให้เป็นตัวแทนของแม่เราเริ่มพูดคุยกับมันเหมือนมันมีชีวิตเราเริ่มกอดและโอ๋ตุ๊กตาตัวนั้นเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งเราเริ่มร้องไห้พูดคุยกับตุ๊กตาตัวนั้นเหมือนคนบ้าเราต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนั้นนับปีแต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเราได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเหมือนแสงสว่างเราได้เล่นกับเขาแทนที่จะเล่นกับเด็กในหมู่บ้านพวกนั้นความสุขที่เข้ามาในชีวิตพึ่งมาได้ไม่นานแล้วมันก็ได้จากไปเมื่อพี่สาวคนนั้นเอาเรื่องนี้ไปฟ้องยายว่าเราไปแรดบ้านผู้ชายยายก็ด่าเราว่าเดี๋ยวนี้เริ่มแรดแล้วหรอเราได้แต่ก้มหน้าก้มตาน้อมรับคำด่าแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรวันต่อมาเด็กชายชวนเราไปเล่นบ้านเช่นเคยแต่เรากลับปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เด็กคนนั้นโดนด่าไปด้วยยายก็เดินมาข้างหลังแล้วพูดกับเราว่าหัวกระไดไม่แห้งเลยนะตอนกลางวันเราก็เป็นเหมือนเด็กปกติทั่วไปยิ้มร่าเริงสดใสแต่พอกลับบ้านตอนกลางคืนเราเริ่มที่จะร้องไห้และคุยกับตุ๊กตาเป็นแบบนั้นอยู่1 ปีจนเราทนไม่ไหวเราโทรหาแม่บอกว่าเราอยากอยู่กับแม่ที่นี่มีแต่คนใจร้ายแม่เราก็บอกเราว่าทนอีกนิดนึงเดี๋ยวแม่จะรับเรามาอยู่ด้วยเราก็ได้แต่ร้องไห้แล้วก็อดทนทุกสัปดาห์เราจะกลับกรุงเทพฯไม่เห็นว่ากระโปรงมันสวยดีเลยซื้อชุดกระโปรงให้เราใส่ ความสุขผ่านไปไวเหมือนโกหกพอถึงตอนกลับสุพรรณเรากำลังจะก้าวขึ้นรถแต่พี่สาวคนนั้นก็เดินมาคว้าแขนเราอย่างแรง แล้วเขาก็พูดกับเราว่าเดี๋ยวนี้หัดใส่กระโปรงแรดขึ้นเยอะเลยนะเราทำได้แค่ยืนนิ่งๆแล้วขึ้นรถไปแบบเงียบๆเราอยู่แบบนั้นเป็นปีจนกระทั่งแม่รับเรากลับเราคิดว่านรกนี่มันจบลงแล้วแต่ไม่เลยมันยังอยู่อยู่กับเรามาตลอดเรากลายเป็นโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัวตอนอยู่กับคนอื่นเราก็ร่าเริงเหมือนปกติแต่พออยู่กับตัวเองหรืออยู่คนเดียวเมื่อไหร่เราจะมีอาการอยากฆ่าตัวตายทันทีรู้สึกหดหู่รู้สึกทรมานเราเคยฆ่าตัวตายไป 2 รอบรอบแรกคือตอนม 2 ตอนนั้นเราอยากผูกคอตายเพราะเราอยู่คนเดียวแล้วทำให้นึกถึงเหตุการณ์นั้นต่อมาก็ตอนมหาลัยเราเริ่มทนไม่ไหวเราเลยคุยกับเพื่อนว่าเราจะไปหาหมอแล้วพอเราไปหาหมอสรุปเราเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆเรารักษาอยู่ประมาณปีกว่าๆเรารู้สึกโกรธแค้นที่ทุกวันเราต้องนั่งกินยาต้องคอยควบคุมอารมณ์ตัวเองในขณะที่เราทำแบบนั้นอีกฝ่ายอาจจะมีความสุขอยู่ก็ได้เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเราเลยอยากจะมาขอพื้นที่ตรงนี้พูดความในใจเราทักไปหาแม่ของพี่สาวคนนั้นแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบเขาตัดสายทันทีหลังจากที่เราเล่าเหตุการณ์นั้นให้ฟังนี่คือสิ่งที่เราควรได้หรอเด็กคนนึงเกิดมาต้องเจออะไรหนักขนาดนี้เลยหรอเราผิดมากเลยใช่ไหมที่เกิดมาเรานึกอยากตายทุกครั้งแต่เราก็ตายไม่ได้เพราะมีคนอยากให้เราอยู่นั่นก็คือแม่ของเราแม่ของเราอยู่ได้เพราะเราแต่เรารู้สึกทรมานทุกครั้งที่หายใจเราเลยอยากจะมาขอให้ทุกคนรับรู้ถึงการกระทำเลวๆของคนพวกหนึ่ง
 จนตอนนี้เราเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุ่นแรงต้องนอนรพ. แต่เราไม่ได้รับการเยียวยาจากคนพวกนั้นเลยเราเลยอยากจะมาเล่าให้ทุกคนฟังความเป็นธรรมไม่มีอยู่จริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่