[CR] Osaka Japan โอซาก้า แค่ครั้งแรก ก็หลงรัก

สวัสดีค่ะ นานามาลัย
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ไม่ใช่เพียงแค่การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นการรีวิวความประทับใจ ทั้งสถานที่ คน และรวมถึงอาหารอีกด้วย

การรีวิวครั้งนี้เป็นครั้งแรกถ้าผิดพลาดประการใดสามารถติชมกันได้เลยนะคะ
ตัวเจ้าของกระทู้เอง ขอเรียกแทนตัวเองว่า แยม คือชื่อเล่นจริงๆในการรีวิวครั้งนี้ค่ะ
การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางกัน 2 คนอมยิ้ม07อมยิ้ม02

ขอบอกเลยว่าสกิลการใช้ภาษาของเรานั้น
ภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย
ส่วนภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้เลย ฮ่าๆๆๆๆๆ

การเดินทางครั้งนี้แยมเลือกลงสนามบินคันไซ (KIX)
เนื่องจากได้ตกลงกับแฟนว่าเราจะไปตะลุยโอซาก้ากัน
โดยที่เราสองคนไม่เคยมีประสบการณ์ การไปเที่ยวญี่ปุ่นมาก่อนเลย
การเลือกที่พักจึงเกิดจากการสุ่มเดา ประกอบกับการดูโลเคชั่นโดยกูเกิลแมป
ส่วนรีวิวโรงแรมที่เราจะไปพักน่ะหรอ ไม่มีเลย มีแค่ภาพสวยๆจากเวปจองห้องพัก
ที่ไม่รู้ว่าพอไปถึงสภาพห้องจะเหมือนในรูปรึเปล่า

แล้วการเดินทางก็เริ่มขึ้น

เช้าวันแรกพร้อมลุยยยย ด้วยตั๋วรถไฟที่ได้หาข้อมูลไว้บ้างก่อนเดินทางไป
และหนังสือเล่มนึงที่เอาไว้ดูสายรถไฟและแนะนำที่เที่ยวด้วยตัวเอง
แต่ขอพูดเลยค่ะ ว่าสายรถไฟเยอะมากกกก
ไปเจอครั้งแรกใครก้เห็นต้องงงกันไปข้าง
เลยจำเป็นต้องเข้าไปรบกวนถามการใช้รถไฟกับสองสาวญี่ปุ่นน่ารั๊กแถวๆนั้น

แต่ยังไงเราก็ขอไปตั้งสติที่สถานี Umeda และ Osaka station ก่อนแล้วกัน
เนื่องจากรถไฟจากสนามบินมาสุดสายที่นี่ เราวางแผนกันไว้ว่าเราจะเที่ยวกันแถวๆนี้ก่อน
แล้วช่วงเย็นๆค่อยไปที่พัก เพราะสามารถเช็คอินได้ตอนบ่ายสองเป็นต้นไป

เช้านี้แยมจึงขอเริ่มด้วยขนมหวานละลานตา
(เนื่องจากเป็นคนที่คลั่งไคล้ขนมหวาน และชอบดูรายการทีวีแชมป์เปี้ยนเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะตอนที่แข่งทำขนม)
วันนี้จึงขอลิ้มรสชาติ ขนมหวานรูปร่างน่ารั้ก ลองดูซิว่าจะอร่อยสมกับคำชมของกรรมการตัดสินในรายการทีวีแชมป์เปี้ยนหรือไม่นานาชอบ
เริ่มกันที่ห้าง Hankyu Umeda ชั้น B1



ถือว่าเป็นศูนย์รวมของขนมหวานในระแวดนี้เลยก็ว่าได้
ทั้งชั้น B1 เต็มไปด้วยขนมหวานหลายประเภท น่าตาขนมหวานแต่ละชิ้น
เห็นแล้วแทบอยากจะกระโจนเข้าหาโดยไม่รีรอ









สถานที่ต่อมาเป็นการนั่งเรือชมวิวรอบๆโอซากก้า แต่กว่าจะมาถึงท่าเรือนี่
คิดแล้วก็แอบอมยิ้ม แต่ขอยกยอดไปพูดถึงเรื่องคนในญี่ปุ่นอีกหัวข้อนึงเลยแล้วกันนะคะ

ถ้าใครที่มาช่วงซากุระบานคงจะสวยมากๆ
แต่ช่วงที่แยมมาเที่ยวนี้ ซากุระร่วงเกือบหมดแล้ว
ณ ตอนนี้ตอนที่แยมนั่งเรือเป็นช่วงเวลาเที่ยงพอดี
ถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นสวนสารธารณะ มีที่นั่งริมน้ำ เป็นม้านั่งต่อๆกัน
มีคนปั่นจักรยานมานั่งกินข้าวกล่อง ชมวิวกันแบบเงียบๆ ดูแล้วเป็นเสน่ห์มากๆ







นั่งเรือเสร็จ เลยตกลงกันว่า เราจะไปหาที่พักที่จองไว้ก่อน
เพราะหลังจากที่มาถึง Osaka ลองเปิดดู google map โอ้ววววววโห้ววววว
ตอนจองที่พักที่ไทย แลดูโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
แต่ตอนนี้แบบบบ omggg ต้องต่อรถไฟออกไปอีก

แต่เมื่อกลับไปที่สถานีรถไฟ ดันพากันเดินหลงทางในบริเวณอาคารแถวๆนั้น
เพราะระหว่างสถานี Umeda และ Osaka สองสถานีนี้ติดกัน และใหญ่มาก
ทำให้ไปเจอตึกๆนึงที่มีชิงช้าสวรรค์อยู่ด้านบนตึก มารู้ทีหลังว่าชื่อ ชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE
เราสองคนเลยพากันขึ้นชิงช้าสวรรค์ก่อนเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว













เมื่อเห็นรูปนี้จะเห็นว่าบนชิงช้าสวรรค์ สามารถเอาไอโฟนของตัวเอง
เสียบเปิดเพลงฟังได้ตามใจ เป็นอะไรที่เห็นแล้วชอบมากๆ

***ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศที่ทันสมัย และไฮเทคในเรื่องเทคโนโลยีมาก
แทบจะทุกอย่างที่ใช้เครื่องจักรเป็นเครื่องช่วยอำนวยความสะดวก
และอุปกรณ์เหล่านั้น ปฏิบัติการด้วยระบบเซ็นเซอร์เป็นส่วนใหญ่
เครื่องที่เกี่ยวกับการใช้เงิน ก็สามารถทอนเงินได้อย่างรวดเร็วทันใจ

หลังจากขึ้นชิงช้าสวรรค์เรียบร้อยแล้ว
เราสองคนเลยพยายามหาทางขึ้นรถไฟไปยังที่พักที่เราจองไว้ให้ได้
โดยการถาม ถาม ถาม และ ถาม ทั้งผู้คนเดินผ่านไปมา รวมถึง information



ที่พักห่างออกไปจากตัวสถานนี (Shonai) 1.5 กิโล (วัดระยะทางผ่าน google map)
เนื่องจากยังไม่รู้เส้นทาง เลยจำเป็นต้องใช้บริการแท็คซี่
ค่ามิเตอร์ (580yen) ค่อนข้างแพงเมื่อเปรียบเทียบกับรถไฟ แต่ประทับใจมาก
เมื่อขึ้นไปบนรถแล้ว คนขับจะถามถึงจุดหมายที่เราต้องการจะไปจนเข้าใจก่อนถึงจะกดมิเตอร์
อธิบายอยู่นาน เนื่องจากคนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยได้คำศัพท์ใหม่มาหนึ่งคำก่อนไปถึงโรงแรม (โฮเทลุ=hotel) อิอิ



กว่าจะมาถึงก้ทุลักทะเลพอควร แต่พอเข้ามาในห้อง
แทบกรี้ดค่ะ ดูด้านนอกเป็นเหมือนโรงแรมเล็กๆ ธรรมดาๆ



แต่ห้องพักน่ารั้กกกกกมากกกกกกกกก





อุปกรณ์ในห้องพักมีครบทุกอย่าง เก้าอี้นวด จอยเกมส์ คาราโอเกะ ทีวีในห้องน้ำ ตรงอ่างอาบน้ำ
และในห้องน้ำไม่ต้องพูดถึง เหล่าครีมนวด แชมพู ครีมอาบน้ำ บอดี้โลชั่น เซรั่มใส่ผม ถ้าไม่พอสามารถขอเพิ่มได้

และยังมีอะไรเล็กๆน้อยๆที่คาดไม่ถึง ทั้งยางรัดผม ผ้าคาดผมที่เอาไว้ใช้เวลาแต่งหน้า เมคอัพรีมูฟ ฯลฯ



ถ้าพูดถึงความเก๋ คงหนีไม่พ้นชักโครก แต่ครั้งนี้เก๋กว่าที่เคยมีมา(ของแยมเอง)
ด้านบนชักโครกเป็นที่ล้างมือ เมื่อเรากดชักโครก น้ำล้างมือจะไหลออกมาโดยอัตโนมัติ
และลงไปรวมกับน้ำที่จะใช้ราดส้วมในครั้งต่อไป ถือว่าใช้น้ำได้เป็นประโยคมากๆ เยี่ยม


คร่อกฟี้คร่อกฟี้วันนี้ค่อนข้างดึกแล้ว เดี๋ยวจะมาอัพเดทต่อพรุ่งนี้นะคะ
ชื่อสินค้า:   Osaka Kansai Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่