เมื่อช่วงวันแม่ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้จัดทริปพา กลุ่มแม่ๆ ป้าๆ ที่บ้านไปเที่ยวไหว้พระกันที่พม่า ครับ ไปแบบไปกันเอง โดยผมจัดการทุกอย่างให้ ไปกันทั้งหมด 13 คน เราไปกันหลายที่มากครับ ทั้งพระธาตุอินทร์แขวน พระธาตุมุเตา เมืองหงสาวดี เจดีย์ชเวดากอง และอีกหลายที่ครับ ตอนรอเครื่องขากลับ ป้าๆ ก็ได้หันมาพูดกับผมว่า เป็นบุญมากเลยที่ได้มาไหว้ ได้มาเห็น ปีหน้าพาไปเที่ยว ฮ่องกง อีกหน่อยนะ หรือไม่ก็สิงคโปร์ แล้วแม่ๆ ป้าๆ เค้าก็หันไปพูดคุยกันว่าไปช่วงไหนดี และก็มีประโยคหนึงที่ผมรู้สึกสะดุดมาก คือ “ปลายปีหน้ามันนานไป เรารีบไปก่อนที่เราจะเดินไม่ไหวกันเถอะ”
พอผมได้ยินประโยคนี้ ก็ได้กลับมาย้อนนึกอะไร อะไรหลายๆ อย่างว่า
บางทีเราอายุยังน้อย เรามักจะบอกว่า เราเที่ยวเมื่อไรก็ได้ ออกไปเปิดประสบการณ์เมื่อไรก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ แต่เราก็ไม่ได้นึกเลยว่า ยิ่งปล่อยเวลานานไป มันก็จะมีเรื่องของสภาพร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เที่ยวตอนเป็นวัยรุ่น กับที่ยวตอนอายุเยอะ มันก็ลุยได้ไม่เหมือนกัน
ผมเป็นคนหนึงที่คิดว่า ควรออกเที่ยวตั้งแต่เราอายุยังน้อยครับ ถ้าพอจะหาเวลาไปได้ เพราะมันจะได้เปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ในการที่อาจจะเอามาปรับใช้ได้ เพราะปล่อยนานไป มันจะยิ่งมีข้อจำกัดอื่นๆ เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องภาระหน้า ที่ ครอบครัว ฯลฯ
“เรารีบไปเที่ยวก่อนที่เราจะเดินไม่ได้ไหม” ประโยคหนึ่งจากการสนทนาของแม่ๆ ป้าๆ
พอผมได้ยินประโยคนี้ ก็ได้กลับมาย้อนนึกอะไร อะไรหลายๆ อย่างว่า
บางทีเราอายุยังน้อย เรามักจะบอกว่า เราเที่ยวเมื่อไรก็ได้ ออกไปเปิดประสบการณ์เมื่อไรก็ได้ ยังมีเวลาอีกเยอะ แต่เราก็ไม่ได้นึกเลยว่า ยิ่งปล่อยเวลานานไป มันก็จะมีเรื่องของสภาพร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เที่ยวตอนเป็นวัยรุ่น กับที่ยวตอนอายุเยอะ มันก็ลุยได้ไม่เหมือนกัน
ผมเป็นคนหนึงที่คิดว่า ควรออกเที่ยวตั้งแต่เราอายุยังน้อยครับ ถ้าพอจะหาเวลาไปได้ เพราะมันจะได้เปิดมุมมองที่กว้างขึ้น ในการที่อาจจะเอามาปรับใช้ได้ เพราะปล่อยนานไป มันจะยิ่งมีข้อจำกัดอื่นๆ เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องภาระหน้า ที่ ครอบครัว ฯลฯ