เงินมันสำคัญมากกว่าคำว่ากตัญญู จะจัดการยังไงดีครับ สงสารแม่

สวัสดีครับ ผมขอเล่าเหตุการณ์นะครับ ผมอายุ 23 ปีแล้ว รับรู้เหตุการณ์ทั้งด้วยตาตนเอง คำบอกเล่าของคนดูแลต่างๆนานา ก็พอจะทราบได้และรับรู้ของพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งได้นะครับ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็คือ ญาติที่ผมเคยเคารพเนี่ยแหละครับ (ป้า และ น้า) ขออธิบายเบื้องต้นก่อนนะครับ

บ้านของผมเป็นบ้านพักข้าราชการในกรุงเทพฯ(พ่อ) เราก็อยู่กันมาตลอดนะครับ ประกอบด้วย พ่อ แม่ ผม และน้องสาว แต่เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้วนั้น คุณตากับยายโดนไล่ที่จากแต่เดิมที่มีอยู่เลย มาพักอาศัยอยู่กับครอบครัวผม เนื่องจาก ป้า1 ป้า2 น้า (ตายายมีลูก 4 คนครับ แม่ผมเป็นคนที่ 3) ไม่มีใครยอมรับไปอยู่โดยให้เหตุผลที่ว่า ไม่สะดวก ไม่พร้อม ต่างๆที่จะมาอ้าง ด้วยความที่ไม่ได้อะไรและใกล้กับบ้านเก่าของตายายก็ได้ต่อเติมส่วนบ้านให้ตาและยายอยู่

ตา (83ปี) ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ สถานะเท่ากับ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ คือ ระยะความจำจำได้แค่ประมาณ 5 นาทีก็ลืมแล้ว , ยาย (81ปี) ก็เป็นเหมือนกันครับ มี7 โรค   ..... โดยต่างคนต่างต้องทานยา และตรวจตามแพทย์นัดเป็นประจำ ค่าใช้จ่ายจึงต้องมีครับ อันนี้ส่วนนึงซึ่งทำให้มีปัญหาเรื่องเงินนะครับที่จำเป็นต้องใช้ แต่ด้วยแม่ของผมนั้นทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง การอำนวยความสะดวกต่างๆและการเบิกจ่ายยาและค่ารักษาบางชนิดนี้ยังสามารถทำได้ซึ่งลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณหนึ่งแต่ก็ต้องเสียอยู่ดี ((ยังไม่รวมค่าอาหาร การกินอยู่ ค่าน้ำค่าไฟที่บ้านนะครับ ที่บ้านผมต้องเป็นคนจ่าย))

ตาซึ่งเป็นข้าราชการทหารมาก่อนนั้น ได้รับเงินบำนาญและทั้งคู่จะได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอยู่แล้วครับ ตกต่อเดือนประมาณ 10,000-12,000 .- ซึ่งก็เพียงพ่อต่อเรื่องค่าใช้จ่ายข้างต้นอยู่แล้ว แต่ผู้ถือสมุดบัญชีและบัตร ATM จะอยู่ที่ น้า ซึ่งเป็นผู้ครอบครอง ดังนั้น การจะเบิกถอน จะใช้ลายนิ้วมือของตาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนบัตรATM นั้น น้าสามารถกดได้อย่างอิสระ และเมื่อเงินเข้าบัญชีในแต่ละเดือน น้าจะมีหน้าที่เอาเงินตรงนี้มาให้ตาและยายที่บ้านเป็นประจำทุกเดือนๆ ครับ

...ดังนั้น สรุปนะครับ ....

ตา และ ยาย ผู้เดือดร้อนและเป็นจุดศูนย์กลางทุกอย่างของเรื่อง
แม่ผม หน้าที่ ดูแลตาและยาย ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ค่าอาหาร ค่ากินอยู่
ผม และ น้องสาว หน้าที่ ดูแลตาและยาย
พ่อ หน้าที่ เจ้าของบ้าน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ และดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านโดยรวม
น้า หน้าที่ ถือบัญชีและนำเงิน(บำนาญข้าราชการของตา)ให้ตายายไปใช้จ่ายทุกเดือน และ ตัวปัญหา
ป้า1 หน้าที่ ตัวประกอบปัญหา
ป้า2 หน้าที่ ตัวประกอบปัญหา

แล้วปัญหาเกิดจากอะไร ??? ผมขออนุญาติเข้าปัญหาแล้วนะครับ


1. เนื่องด้วยตาและยายมีมรดกจำนวนหนึ่ง เมื่อ 4-5ปีที่แล้วได้มีการจัดสรรทรัพย์สิน ให้แม่ผมซึ่งเป็นผู้ดูแล ก็มี ที่ดิน พระเครื่อง และทองคำ โดยให้เหตุผลที่ว่า "ให้เนื่องด้วยแม่เป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว" และเรื่องนี้ก็ดำเนินจนเสร็จและไม่นานปัญหาเรื่อง ความอิจฉา และ กิเลสก็ได้เกิดขึ้น "น้า"ได้บอกทุกคนว่าแม่เอาทุกอย่างที่ทุกคนควรจะได้ไปหมด แต่จริงๆแล้วยายเป็นคนให้เองด้วยเหตุผลเรื่องการดูแลข้างต้น แต่ก็ไม่พอใจได้มีการใส่ร้าย ใส่ความว่า แม่เอาทองไปขายบ้างละ เอาพระไปขายบ้างละ และมีการบอกต่อญาติทางฝ่ายตาอีกหลายคน จึงมีเรื่องให้มาถึงบ้านเพื่อถามว่าแม่เป็นอย่างที่ว่าจริงไหม แต่เมื่อมาดูแล้ว ก็ไม่ใช่อย่างที่บอก ....แม่ผมเสียใจไปละรอบนึง จากการใส่ร้ายใส่ความ

2. "น้า"เป็นถือสมุดบัญชี จึงได้หลอกตาไปธนาคารเพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำเงินออกมาไปใช้เที่ยวกับครอบครัว ไปกิน ไปอะไรก็แล้วแต่ ร่วมด้วย "ป้า1" และ "ป้า2" วางแผนร่วมกัน โดยสิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้ทำได้ง่ายดายคือ ต่างคนไม่ค่อยได้มาหาตาและยาย เมื่อตายายเห็นว่ามาเลยคิดถึง และได้พูดจาโน้มน้าว จนยายเสียรู้ มารู้อีกทีเงินในบัญชีซึ่งเป็นของยายและตาควรจะใช้จ่ายก็หมดแล้วเงินเก็บทั้งหลาย

3. "น้า" ได้หลอกเอาทองมาฝากขายให้อาที่รู้จัก (อ้างว่าเป็นทองของน้าเอง) แต่ปรากฏว่าเป็นทองของคุณยาย จากนั้นจึงนำเงินไปใช้เอง

4. "ป้า1" ไม่เคยให้เงินตาและยายเลย แต่ปรากฎจากการวางแผนกันของ3คน หายไปเลยห๊ะ 200,000 .-  พอเมื่อตรวจบัญชีดูก็พบ

5. ก่อนสงกรานต์ เกิดเหตุการณ์ตอนกลางคืนยายชักแล้วเข้า รพ. ผมและแม่เป็นคนปฐมพยาบาลและรีบพาส่ง รพ.ตอนตี2 แล้วต้องตรวจสมองทำ MRI CT  scan หมดไปพอสมควรจนยายโทรขอเงินจาก "น้า"ผู้ถือบัตร ATM และยายก็ขอ ATM คืนเพราะยายไม่มีเงินจะใช้จ่ายแล้ว ก็ได้แต่อ้างว่า ลืมบ้าง หายบ้าง จนยายเกิดอาการเครียด อาการก็ทรุด มาเยี่ยมทีก็มาทั้งหมดอยู่กันคนละ ชม............แต่ผมกับแม่นี่อยู่กันข้ามวันข้ามคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน

6. เมื่อวาน "น้า"ขับรถมาบ้านผม เอาเงินมาให้ยายประมาณ 5,000 .- เพราะยายโทรขอชนิดอ้อนวอน แล้วยายก็บอกว่าขอ ATM คืนด้วย ยายต้องไปรพ. แต่เมื่อมาถึงแล้วก็บอกเหมือนเดิมว่า ลืม (แล้วกดเงินแบงค์ใหม่ๆมาได้อย่างไร) จนขึ้นเสียงด่าแม่ผมซึ่งดูแลตายายมา7ปี แล้วบอกว่า กูไม่ให้!!!!! จนมีปากเสียงกันแล้ววิวาทต่อกันตัดพี่ตัดน้องและซ้ำยังกล่าวหาว่า แม่ผมเอาเงินยายไปหมด (ซึ่งแม่ผมไม่เคยเอาเงินยายไปอย่างที่ว่า)
และ "น้า" ก็โทรไปพูดให้ "ป้า1และป้า2 และคนอื่นๆไม่รู้ว่าใครบ้าง" ว่าแม่ผม ตบ!!!! (ถ้าแม่ผมตบ คงไม่มีแรงขับรถกลับหรอกครับ) แล้วยายก็ร้องไห้ เครียดและเป็นลมไป


***************** ผมควรทำยังไงดีครับ สงสารแม่ สงสารยาย ที่ว่า ถ้าเกิดเหตุล้มเข้า รพ.อีก จะเอาเงินตรงไหนไป เพราะบ้านผมก็ค่าใช้จ่ายสูง เงินของยายและตา ซึ่งในบัญชีที่น้าถืออยู่ ยายกับตาควรจะได้กลับได้ไม่ครบเลย คือ น้าและป้าทั้งสอง เอาไปใช้หมด **************


***เนี่ยหรอกครับ คนกตัญญูเขาทำกันแบบนี้หรอครับ ใจดำใจร้ายกระทั่งแม่ตัวเอง แล้วไหงแม่ผมซึ่งเป็นผู้ดูแลขนาดนี้ต้องได้รับคำพูดคำใส่ร้ายในสิ่งที่พวกนั้นกล่าวกัน แม่ทั้งเสียใจทั้งน้อยใจ ผมก็ได้แต่ปลอบให้แม่ใจเย็นทำนิ่งๆไว้เพราะ "คนดี ยังไงก็ต้องได้ดี คนชั่วทำอย่างไรก็ได้เองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแช่งเขา" ผมจะดูแลแม่เองเดี๋ยวทำงานก็จะไม่ทำตัวแบบผู้ใหญ่ที่เคยเคารพแน่นอน ***

ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ ขออภัยนะครับที่ยาวนิดนึง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่