เครียดงาน เครียดเรียน เครียดชีวิต เอ้า เข้ามาอ่านมาตะโกนกัน

กระทู้นี้อาจไร้สาระครับ

ผมแค่เครียดเรื่องชีวิต เรื่องเรียน เรื่องงานในอนาคต
เรื่องธีสิสจบจะจบไหม เรื่องเงิน เรื่องความรักห่าเหวที่ไม่รู้จะมีทำไม

เลยคิดว่า คงจะมีอีกหลายคนที่มีปัญหาแบบเราและมากกว่าเราและน้อยกว่าเรา
เลยมีอะไรจะบอกครับ

1.อยากทำอะไรถ้าไม่เดือดร้อนใครทำแมร่งเลยครับ
ชีวิตเราอย่าไปฟังขี้ปากคนอื่นมาก ทำไมไม่เรียนนั่น ทำไมไม่ขายนี่ ทำไมไม่อยู่ที่นี่
ข้อบังคับในชีวิตคนจริงๆมีแค่2ข้อครับ
-เลี้ยงพ่อแม่
-เลี้ยงลูก
ฉะนั้นถ้าสิ่งที่เราอยากทำมันไม่ได้เดือดร้อนกับสองคนนี้
ทำไปเลยครับ
ใครที่ไม่มีลูกก็ยินดีด้วย เงื่อนไขในชีวิตหายไป1
แต่ถ้าพร้อมแล้วอยากมีก็ยินดีด้วยเช่นกัน

ผมกำลังหงุดหงิดตัวเอง คือผมกำลังจะจบตรี
แล้วอยากเรียนต่อ หาเงินส่งตัวเองนี่แหละ
อยากเรียนนั่นนี่ อยากเรียนมันทุกอย่างที่อยากเรียน
เวลาเซิดข้อมูลก็จะเจอpatternที่ว่า เรียนจบทำงานสามปีค่อยต่อโท
หรือถ้าไม่ได้มีผลต่องานที่ทำก็อย่าต่อ ถ้ามีเงินก็ต่อไป
ทำอันนั้นอนนี้จะได้มั่นคง ตอนเกษียน

คือผมคิดว่าถ้าคนเราหาเงินพอเลี้ยงตัวเองได้
ดูแลพ่อแม่ได้ และไม่มีลูก ไม่สร้างพันธะ

จะใช้ชีวิตยังไงก็ได้เลยไม่ใช่หรอ ไม่ต้องตามแพทเทินสังคมก็ได้
การมีลูกไม่ได้รับประกันว่าแก่ตัวไปจะสบาย
วัย15-50ตังหากที่โลกเป็นของเรา วัยที่เราจะใช้ชีวิตมากที่สุด
หลังจากนั้นเป็นการหาวิธีมีความสุขกับการนับถอยหลัง
หยุดการเดินทางของชีวิต เพราะร่างกาย บ่ เอื้อแล้ว

บางทีเราเครียดกับความมั่นคงในชีวิตมากไป
จนลืมไปว่าเราเป็นแค่ฝุ่นผงจ้อยร้อยในล้านๆฝุ่น
ที่มีอายุขัย80ปีและอาจจะน้อยกว่านั้น

ยังจะมัวไปแคร์ขี้ปากยายแช่ม ไปแคร์ภาพลักษณ์ทางสังคมอีกรึ
เอาเป็นว่า ถ้ามันไม่ได้ใช้เงินใคร ไม่เดือดร้อนใคร
ทำแมร่งเลย เรียนเลย ไม่ต้องฟังใคร ก็เรียนเพราะอยากรู้ไง
ไปเลย ก็ไปเพราะอยากไปไง
ทำเลย ทำเพราะอยากทำไง
ขายเลย ซื้อเลย ย้ายเลย ใส่เลย ตัดเลย โกนเลย

แต่อย่าลืม!!ให้มีคนเดือดร้อนจากการเลือกของเราได้แค่คนเดียว
คือตัวเราเอง และใช้เงินตัวเอง

ไปโดดน้ำซะอากาศมันร้อน เราจะเป็นบ้ากัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่