ตอนแรกว่าจะนั่งอ่านกระทู้เก่าเฉยๆ แต่อ่านแล้วคึกคัก อยากส่งการบ้านมั่ง 555 อ่านการบ้านคนอื่นมันดีหยั่งงี้นี่เอง
ระยะหลังมานี้ การทำในรูปแบบ + เจริญสติระหว่างวันเหมือนเป็นไฟลท์บังคับ เป็นการศึกษาภาคบังคับ 555
ทำน้อยแล้วจะไม่ค่อยมีแรง ป้อแป้เป็นพิเศษ ส่งผลให้คิดงานไม่ค่อยออก เพราะงานก็ต้องใช้สมาธิ
สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา มีงานที่อยากทำ ก็รับมาเยอะเป็นพิเศษ
ปรากฏว่าหลังๆ แรงใจ แรงสมองไม่พอที่จะเคลียร์งานให้เสร็จตามเป้าโดยเร็วในแต่ละวัน
ยืดเยื้อมาก ยิ่งยืดเยื้อยิ่งเหนื่อย ยิ่งมีเวลาพักผ่อนน้อย เวลาทำความสงบก็จะไม่ค่อยสงบ โรคประจำตัวกำเริบหนัก
เหมือนว่าถ้าแบตเต็มคือ 10 ขีด ช่วงงานเยอะนี้ เราเติมแบตให้ตัวเองได้แค่ประมาณวันละ 3-5 ขีด พอทำงานเสร็จก็เหลือแค่ 1 ขีด ร่อแร่เต็มที 5555
งานชุดนั้นเสร็จไปแล้ว เลยบอกลูกค้าใหม่ว่างานหน้าถ้ามีขอลดปริมาณต่อวัน อิอิ
ซาบซึ้งในบทเรียนมาก ช่วงนี้ไม่มีงานเลยฟื้นฟูกำลังภายใน + สุขภาพทุกวัน
สุขภาพก็ดีขึ้นจมเลย สนุกกับการลองทำนั่นทำนี่ กินนั่นกินนี่ ว่าทำไงแล้วอาการดีขึ้น
มีอย่างนึงที่ค้นพบเอง ไม่เคยอ่านจากที่ไหน แต่ก็ตั้งสมมติฐานเอาจากสิ่งที่เคยได้ยินมา
คือเราเป็นภูมิแพ้ อาการหลักคือแน่นจมูก หายใจลำบาก
ตอนอยู่วัดได้อาบน้ำร้อนในบ่อ เราก็ตักน้ำร้อนมาราดๆ แถวหน้า แถวจมูก มันก็หายใจโล่งขึ้น
กลับมาบ้านลองดูอีก มีน้ำร้อนจากฝักบัว ก็ปล่อยให้มันไหลผ่านหน้าผ่านจมูกสักพัก เออ มันก็โล่งขึ้นเหมือนกัน
เคยได้ยินว่าอาบน้ำร้อนมันช่วยให้เลือด น้ำเหลืองไหลเวียนดี (มั้ง)
เราก็เดาว่ามันช่วยถ่ายเทอะไรที่มันคั่งอยู่แถวจมูกออกไปด้วย เอาของใหม่เข้ามา ไรงี้
ทำคู่กะหายใจแบบกระตุ้นการสันดาป วิ่ง โยคะ กินอาหาร/ยาบำรุงไฟ (เราไฟหย่อน)
ภาวนา อุทิศกุศล ล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น (พยายาม) เข้านอนไม่ดึก ดูแลเรื่องขับถ่าย
ก็หายใจคล่องขึ้นมาก สนุกดี สนุกแบบป่วยๆ แต่ถ้าป่วยมากๆ ก็ขำไม่ออกเหมือนกัน 555
ไอ้ที่พูดมานี่ใช้เวลารวมกันเยอะเลย เดี๋ยวงานเข้ามาก็ทำไม่ได้เต็มที่ละ ยกเว้นจะฝึกนอนให้น้อยลงได้ ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป
เอ้อ ช่วงนี้สังเกตได้อีกอย่างว่า บางที ฟังเสียงเทศน์ครูบาอาจารย์แล้วตัวเบาขึ้น สวดอิติปิโสก็เบาขึ้น
สนทนาธรรมประจำสัปดาห์คับ
ระยะหลังมานี้ การทำในรูปแบบ + เจริญสติระหว่างวันเหมือนเป็นไฟลท์บังคับ เป็นการศึกษาภาคบังคับ 555
ทำน้อยแล้วจะไม่ค่อยมีแรง ป้อแป้เป็นพิเศษ ส่งผลให้คิดงานไม่ค่อยออก เพราะงานก็ต้องใช้สมาธิ
สองสามอาทิตย์ที่ผ่านมา มีงานที่อยากทำ ก็รับมาเยอะเป็นพิเศษ
ปรากฏว่าหลังๆ แรงใจ แรงสมองไม่พอที่จะเคลียร์งานให้เสร็จตามเป้าโดยเร็วในแต่ละวัน
ยืดเยื้อมาก ยิ่งยืดเยื้อยิ่งเหนื่อย ยิ่งมีเวลาพักผ่อนน้อย เวลาทำความสงบก็จะไม่ค่อยสงบ โรคประจำตัวกำเริบหนัก
เหมือนว่าถ้าแบตเต็มคือ 10 ขีด ช่วงงานเยอะนี้ เราเติมแบตให้ตัวเองได้แค่ประมาณวันละ 3-5 ขีด พอทำงานเสร็จก็เหลือแค่ 1 ขีด ร่อแร่เต็มที 5555
งานชุดนั้นเสร็จไปแล้ว เลยบอกลูกค้าใหม่ว่างานหน้าถ้ามีขอลดปริมาณต่อวัน อิอิ
ซาบซึ้งในบทเรียนมาก ช่วงนี้ไม่มีงานเลยฟื้นฟูกำลังภายใน + สุขภาพทุกวัน
สุขภาพก็ดีขึ้นจมเลย สนุกกับการลองทำนั่นทำนี่ กินนั่นกินนี่ ว่าทำไงแล้วอาการดีขึ้น
มีอย่างนึงที่ค้นพบเอง ไม่เคยอ่านจากที่ไหน แต่ก็ตั้งสมมติฐานเอาจากสิ่งที่เคยได้ยินมา
คือเราเป็นภูมิแพ้ อาการหลักคือแน่นจมูก หายใจลำบาก
ตอนอยู่วัดได้อาบน้ำร้อนในบ่อ เราก็ตักน้ำร้อนมาราดๆ แถวหน้า แถวจมูก มันก็หายใจโล่งขึ้น
กลับมาบ้านลองดูอีก มีน้ำร้อนจากฝักบัว ก็ปล่อยให้มันไหลผ่านหน้าผ่านจมูกสักพัก เออ มันก็โล่งขึ้นเหมือนกัน
เคยได้ยินว่าอาบน้ำร้อนมันช่วยให้เลือด น้ำเหลืองไหลเวียนดี (มั้ง)
เราก็เดาว่ามันช่วยถ่ายเทอะไรที่มันคั่งอยู่แถวจมูกออกไปด้วย เอาของใหม่เข้ามา ไรงี้
ทำคู่กะหายใจแบบกระตุ้นการสันดาป วิ่ง โยคะ กินอาหาร/ยาบำรุงไฟ (เราไฟหย่อน)
ภาวนา อุทิศกุศล ล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น (พยายาม) เข้านอนไม่ดึก ดูแลเรื่องขับถ่าย
ก็หายใจคล่องขึ้นมาก สนุกดี สนุกแบบป่วยๆ แต่ถ้าป่วยมากๆ ก็ขำไม่ออกเหมือนกัน 555
ไอ้ที่พูดมานี่ใช้เวลารวมกันเยอะเลย เดี๋ยวงานเข้ามาก็ทำไม่ได้เต็มที่ละ ยกเว้นจะฝึกนอนให้น้อยลงได้ ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป
เอ้อ ช่วงนี้สังเกตได้อีกอย่างว่า บางที ฟังเสียงเทศน์ครูบาอาจารย์แล้วตัวเบาขึ้น สวดอิติปิโสก็เบาขึ้น