เมื่อเราเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง...

เรื่องที่เกิดขึ้นคือ ...
เราเข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่หลังสงกรานต์ปีที่แล้ว เราไม่ชอบทำงานเป็นทีมแต่ที่ต้องตัดใจทำเพราะเราไม่อยากตกงานนานๆ
อดทนทำงานที่นี่ได้แค่ 7 เดือน เราก็มีปัญหาเพราะเข้ากับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้เลย ทำงานผิดพลาดบ่อยจนเครียด วิตกกังวล ขาดความมั่นใจ บางครั้งเราก็ลาป่วยสองสามวันติดต่อกัน ทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยจริง เพียงแค่อยากหนีปัญหา หนีการเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมทีมและเจ้านาย

เราก็เลยไปรึกษาจิตแพทย์ที่ศรีธัญญาจนรู้ว่าตัวเองกลายเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง เรารับการรักษาด้วยยาตั้งแต่วันนั้น
แต่เรามีประกันสังคมอีกรพ.หนึ่ง แพทย์ไม่อยากให้เราจ่ายเอง เลยแนะนำให้ไปใช้ประกันสังคมแทน
ตอนที่เรารักษากับศรีธัญญาเรารู้สึกว่าอาการดีขึ้น แต่พอย้ายรพ. และรักษามาจนถึงตอนนี้ เรากลับมีอาการเหมือนเดิม
ไม่กินข้าว นอนกลางวัน ตื่นกลางคืน กินยาแก้เครียดบ่อยๆจนเป็นไมเกรน ปวดหัวข้างเดียว แต่เราก็หยุดยาไม่ได้

อาการทางจิตของเราก็ไม่ดีขึ้นเลย เรายังมีอาการเก็บตัว เวลาไม่ไปทำงานก็จะขลุกอยู่กับห้อง อยู่กับลูกสาวสองคน
เรารู้สึกเหมือนเราคนเดิมหายไปแล้ว เราเป็นใครที่ตัวเราไม่รู้จัก หดหู่ เงียบขรึม ไม่พูดไม่จากับใคร เก็บกด ทุกข์วิตก ไม่อยากทำงาน
หมอพยายามบอกให้เราอดทน ห้ามลาออก ห้ามขาดงาน แต่เรารู้สึกว่าเราทนไม่ไหว เพื่อนร่วมงานก็เริ่มว่าเราลับหลัง (มีเพื่อนอีกคนบอก)

รู้สึกเหมือนความอดทนเราไม่มีอีกแล้ว วันๆคิดแต่จะลาออกจากงาน ไปหางานที่ใหม่ แต่เราก็ถามตัวเองตลอดว่าเราจะหนีไปนานแค่ไหน
เราตอบตัวเองไม่ได้ รู้แค่ว่าอยากอยู่เงียบๆ อยากหนีหน้าผู้คนไปไกลๆ ไปในที่ๆไม่มีใครรู้จัก ไม่อยากอดทน ไม่อยากเจอหน้าใครเลย
เคยสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน แต่จิตใจเราก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะสวดมนต์จนจบ เราบอกตัวเองว่าเราเป็นปรกติ เราไม่ได้ป่วยทางจิต
แต่เหมือนเรากำลังหลอกตัวเอง ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย เมื่อวานกับวันนี้เราก็ไม่ไปทำงานอีกจนเพื่อนร่วมงานไม่พอใจ  

คุยกับใครก็ไม่มีใครเข้าใจ ไปหาหมอๆก็ถามแค่ว่าดีขึ้นไหม แล้วก็จัดยามาให้กิน คุยกับคนในครอบครัวก็ไม่มีใครรับฟัง
ส่วนเพื่อน...เราเป็นคนมีเพื่อนไม่เยอะเลยหันหน้าไปคุยกับใคร ปรึกษาใครไม่ได้ นอกจากเก็บเงียบไว้กับตัวอย่างเดียว

เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่เราไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เราเข้าใจนะคะ เราก็เคยมี ปสก. แบบนี้มาก่อน
เราเป็น major depression ตั้งแต่สมัยเรียน ม.6 ได้
รับยามาทานตลอด แรกๆเครียดมาก รู้สึกว้าเหว่แบบคุณนี่แหละค่ะ
จนแทบไปเรียนไม่ได้ นั่งร้องให้ตลอดเวลา ข้าวก็ไม่กิน กลางคืนก็นอนไม่หลับ รู้สึกพะวง ใจสั่นตลอดเวลา
น้ำหนักลดจาก 48 เหลือ 43 ภายในเวลาไม่กี่เดือน ไม่มีใครเข้าใจ ไม่รู้จะคุยกับใคร

ช่วงนั้นไปหาจิตแพทย์ สัปดาห์ เว้นสัปดาห์ จนจิตแพทย์ผู้ดูแลแนะนำให้เข้ากลุ่มกับทางสมาคมสายใยครอบครัว
ตรงกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มสำหรับผู้ป่วยจิตเวช มารวมกลุ่ม ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยกัน
เรียนรู้ ปรับตัวไปพร้อมๆกัน ซึ่งถือว่าดีมากค่ะ ทำให้เจอคนที่แบบคล้ายๆเรา
บางคนแย่กว่าเรา แต่อย่างน้อยก็พอมีคนที่เข้าใจเรา

ตอนที่อาการเป็นหนักๆ เราคิดถึงขั้นอยากจะทำร้ายตัวเอง
ต้องคอยเอาเชือกรัดมือรัดเท้า ไม่ให้ทำร้ายตัวเองได้
ต้องกินยานอนหลับทุกคืนก่อนนอน เวลาไปเรียนก็จะมีปัญหากับเพื่อนบ่อยๆ
กินยาพยุงอาการตัวเองเรื่อยๆ เลือกอะไรไม่ได้ หมอบอกว่าไม่หายขาด ยังใงก็ต้องกินยาตลอดชีวิต ตอนนั้นได้แต่ทำใจ

ปัจจุบัน อาการดีขึ้นมาก มีเพื่อน มีสังคมเป็นของตัวเอง เรียนจบป.ตรี กำลังศึกษาป.โทภาคค่ำ ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ
กินยาเพื่อพยุงอาการวันละ 1 เม็ด ไปหาหมอ สามเดือน 1 ครั้ง
ที่ทำงานไม่มีใครรู้ว่าเราป่วย

ยังใงขอบอกให้จขกท. สู้ๆ ค่ะ พอผ่านตรงจุดนี้ไป อะไรจะสบายขึ้นเยอะ
และที่ผ่านมาจะเป็นประสบการณ์กับตัวเราเอง เอามาปรับปรุงใช้ในอนาคต
เพี่ะถ้าเราไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง และใครจะมาดูแลเราล่ะคะ มีอะไร ปรึกษาได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่