ความตายมันอยู๋ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด จงทำทุกๆวันให้มีค่า momentก่อนหมดลมจะได้ไม่เสียใจ

ความตายมันอยู๋ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด จงทำทุกๆวันให้มีค่า momentก่อนหมดลมจะได้ไม่เสียใจ

หลายคนคงมีทัศนะในการมองโลกแตกต่างกันไป สำหรับปูนแล้ว คิดว่าชีวิตที่รอดตายมาได้ มันเป็นกำไรที่จะทำสิ่งดีๆเพื่อคนอื่นๆ และอยากแชร์ประสบการณ์

ปูนก็เป็นเด็กม.1หน้าตาบ้องแบ้วเหมือนๆคนอื่น มีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น มีเพื่อนที่น่ารัก และที่สำคัญเรียนดีเกรด4ตลอดในโรงเรียนดัง

ในคืนวันหนึ่งประมาณเดือนพฤศจิกายน ปูนก็เข้านอนตามปกติ (โดยที่บ้านมีมาตรการณ์ประหยัดแอร์โดยให้เด็กๆทั้ง3คนนอนห้องเดียวกัน) คืนนี้เป็นคิวห้องนอนพี่ปั้น ปูนและน้องชายจึงนอนที่พื้นรอบๆเตียง

ระหว่างที่นอนหลับ ปูนก็รู้สึกว่าตัวปูนชา นิ้วต่างๆไม่สามารถทำตามคำสั่งได้ แต่ก็คิดว่าคงเป็นเน็บชาธรรมดา จึงเปลี่ยนท่านอน(ตอนนั้นปวดหัวเล็กๆก็คิดว่านอนก็คงหาย)  แล้วนอนต่อซักพัก ปูนก็รู้สึกว่าไม่ดีขึ้น จึงรู้แล้วว่ามีความผิดปกติในร่างกายแน่ๆ

ตอนนั้นต้องการจะลุกขึ้นเพื่อเรียกพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียงแต่ก็ลุกไม่ได้ ปูนเริ่มรู้แล้วว่าต้องรีบไปโรงพยาบาล แต่การลุกขึ้นเพื่อไปเรียกพี่ชายนั้นยากมาก เพราะขานั้นเหมือนจะเป็นตะคริวทั้ง2ข้าง มือก็เกร็งมาก แต่ก็อดทนลุกไปปลุกพี่ปั้น (โชคดีคะที่พี่ปั้นตื่น เพราะปกติพี่ปั้นเป็นคนหลับลึก) เมื่อพี่ปั้นรู้สึกตัว ปูนก็ปวดหัวจะระเบิดแล้ว พี่ปั้นไปปลุกคุณพ่อกับคุณแม่

พ่ออุ้มปูนขึ้นรถ แล้วก็ให้แม่ขับไปส่งโรงพยาบาลพยาไท2 (โรงพยาบาลประจำตัว) ในทันที
โชคดีคะที่ตอนนั้นเป็นเวลาก่อนรถติดนิดหน่อย คุณแม่เลยพาปูนไปโรงพยาบาลได้ไว
ตอนนั้นก็ปวดหัว เหมือนมีใครจุดระเบิดฝัวไว้ใในหัว

ระหว่างทางจากบ้าน ไปถึงโรงพยาบาล เป็นเวลาวิกฤติ ปูนปวดหัวหนัก คุณแม่ให้ปูนคิดแต่สิ่งดีๆที่เคยทำ แล้วก็บอกว่าปูนอดทนอีกหน่อย จะถึงโรงพยาบาลแล้ว เวลานี้แหละคะ ทำให้ปูนรู้เลยว่าปูนยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งหลายอย่าง ถ้ารอดไป ปูนจะทำทันที!!!

พอไปถึงโรงพยาบาล คุณแม่พาปูนไปหาพยาบาล จากนั้นปูนก็ชัก!!! แล้วก็หมดสติไป .............................

รู้สึกตัวอีกที ได้ยินคุญแม่มาเรียกข้างๆหู
"ปูน!! ปูน!! วันนี้วันเกิดปูนนะคะ (8 ธ.ค.)  พี่พยาบาลเอาเค้กมาให้ปูนด้วย ปูนตื่นมากินเค้กก่อนลูก"
ตอนนั้นพูดไม่ได้ ลืมตาก็ไม่ขึ้น ทำได้เพียงกระดิกมือ
(คุณแม่เพิ่งมาเล่าให้ฟังตอนหลังว่าปูนหลับไปถึง3 สัปดาห์ คุณหมอได้ฝังปั๊มไว้บนหัว ซึ่งปูนเรียกว่าน้องโน!! เพราะมันคล้ายๆหัวโน)
ปูนเป็นเส้นเลือดในสมองแตก

ปูนทำกายภาพ ฝึกเดิน ฝึกพูด ฝึกเขียนหนังสือ โดยคุณหมอให้เขียนแดรี่ทุกวัน ตัวหนังสือตอนนั้น มันคือลายมือป.1เพราะกล้ามเนื้อมือมีปัญหา ฝึกเดินโดยนักกายภาพ  แล้วปูนก็ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนปีใหม่ ยิ้ม  ความทรงจำระยะสั้น เช่นเมื่อกี้กินข้าวกับอะไร หรือเมื่อกี้ใครมาหานั้น ปูนจำไม่ได้

เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็คิดถึงโรงเรียนที่แสนผูกพันธ์ คิดถึงเพื่อนๆ รบเร้าให้คุณแม่พาไปโรงเรียน แม้คุณหมอจะไม่อยากให้ไปก็ตาม

ตอนนี้ 10ปีผ่านมาแล้ว เพื่อนๆที่สาธิตจุฬาก็ยังคงเรียกปูนว่า"แม่ชี" เพราะหลังจากกลับบ้านปูนก็ไปโรงเรียน ผมก็โดนคุณหมอโกณออก เพราะดูแลยาก(ตอนนอนอยู่ในห้องICU 3สัปดาห์)

ปูนทำทุกวันให้ดีที่สุด ต่อสู้กับสภาพร่างกายว่ายากแล้ว ต่อสู้กับจิตใจตัวเองยากกว่าคะ
อีก2 สัปดาห์ก็ถึงเวลาเช็คน้องโน เข้าmri แล้ว หวังว่าน้องโนยังคงน่ารักอยู่นะคะ

ขอให้ทุกคนดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท อยากทำอะไรก็ทำเลยคะ
ไม่ต้องรอ เพราะไม่รู้ว่าคุณจะอยู่บนโลกนี้ได้นานเท่าไหร่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่