สวัสดีค่ะ คือปกติเป็นคนทานคลีนและไม่ชอบทานหวาน
ถ้าทานกาแฟที่บ้านจะทานกาแฟดำร้อน
แต่บางทีไปข้างนอกมันร้อนก็อยากทานกาแฟเย็นกะเค้าบ้าง
เวลาเปลี่ยนร้านกาแฟที่ไม่ใช่ร้านประจำมักประสบปัญหา เรื่องได้กาแฟหวานเกินไป
หลายครั้งพอถามถึงส่วนผสม Barista ก็ดูเหมือนไม่พอใจจะตอบ
คือบางทีดิฉันก็พอทราบว่ามันอาจน่ารำคาญไปบ้าง ...
แต่ถ้าในเวลานั้นมีลูกค้าท่านอื่นรอคิวด้านหลัง ดิฉันก็มีมารยาทพอ
ที่จะบอกว่า ขอคาปูชิโน่เย็นไม่หวานเลย ไม่หวานเลยละกัน ง่ายๆ จะได้ไม่เป็นภาระของคนรอข้างหลัง
พอบอกไม่หวาน แต่สูตรบางร้านก็ฟาดคาร์เนชั่นมาค่อนแก้ว
ถึงไม่หวานแต่ก็มัน .... ดิฉันก็กินมั่งทิ้งมั่งตามความสามารถ
ดิฉันเองก็ไม่อยากจะไปจู้จี้จุกจิกกับคนชงกาแฟมาก เพราะหลายร้านก็จะยึดติดกับสูตรนั้น สูตรนี้
โดยไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจความต้องการของลูกค้า พอถามก็ไม่ค่อยจะตอบ เช่น
ดิฉัน: ขอโทษนะคะปกติคาปูพี่ใส่ไรบ้างคะ
Barista: อ๋อเป็นสูตรของทานร้านค่ะ
ดิฉัน: คิดในใจ (แต่น้องแรดเผือกอยากรู้นี่นา...ทำไงดี ทำไงดี!! เออช่างเถอะไม่ตอบก็ไม่ตอบ เลยบอกไปว่า) อืมงั้นขอหวานน้อยนะคะ
พอแหลกทีไร แม่มหวานทุกที ทั้งหวานทั้งมัน ก็ได้แต่ทำใจ และคิดว่า ช่างเถอะเราไม่คอยดูเวลาเค้าชงเองแหละ
บางทีก็ไม่อยากจะไปจ้องอะไรเค้ามาก แต่เผลอเป็นไม่ได้ "หวานทุกที"

โดยทั่วไปร้านกาแฟที่ดิฉันทานประจำก็มักจะตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันละแวกบ้านเนี่ยแหละค่ะ
ร้านที่ซื้อบ่อยๆ เช่น ราบิก้า หรือ ดิโอโร่ มักไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะซื้อกันประจำ เห็นหน้าก็จะเข้าใจทันที
ขอยกตัวอย่างนะคะโดยปกติ ถ้าสั่งกาแฟเย็นจากร้าน Rabika Coffee ไม่ว่าจะเป็น สูตร เข้ม กลาง หรือ อ่อน
ครั้งแรกที่สั่งดิฉัน จะถามว่า ใส่อะไรบ้างคะ ทาง Barista ก็จะแจ้งว่า ใส่ เป็น นมสด นมคาเนชั่น นมข้น น้ำตาล น้ำเชื่อมอะไรก็ว่าไป
แล้วดิฉันก็จะแจ้งก่อนชงว่า
ขอนมข้นกับ คาร์เนชั่นแค่อย่างละช้อนนะคะ
แรกๆก้อ งง แต่ ร้านประจำพอได้ชงบ่อยๆ ก็จะจำได้ไม่ต้องสั่งกันใหม่
ส่วนร้าน D ORO ถ้าสั่ง คาปูชิโน่เย็น เวลาบอกหวานน้อย ดิฉันก็ว่ายังหวาน คือบางทีก็ไม่อยากจะจ้ำจี้จ้ำไชมากเลยแจ้งไปแบบง่ายๆว่า
ขอคาปูชิโน่เย็นแบบไม่หวานเลย ก็จะใส่แค่ กาแฟกับนมสด ดิฉันก็แฮปปี้
กินขมก็ดี ดีกว่ากินหวาน
----------------------------------------------------------------------------------------
มีอยู่ครั้งนึงไปเจอร้านกาแฟบ้านๆในตลาด ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว คนขายดูอารมไม่ดีแต่ดิฉันก็ไม่คิดอะไรมาก
ก็เดินไปด้วยหน้าตายิ้มแย้ม พร้อมพูดว่า ขอโทษนะคะ "ขอคาปูเย็นหวานน้อยแก้วนึงค่ะ"
แล้วน้องคนขายก็บรรจง บดกาแฟและชงกาแฟมาใส่แก้วตวงใสๆ
ตักน้ำตาลทรายแดงพูนแบบช้อนโต๊ะ 2 ช้อน
น้ำตาลทราย อีก 2 ช้อน พร้อมเทคาร์เนชั่นอย่างเมามัน
ดิฉันก็ได้แต่หวังใจว่าอาจจะเป็นน้ำตาลสูตรใหม่แคลอรี่ต่ำไรงี้ เลยต้องใส่เยอะ อาจจะดีก็ได้ พอดิฉันจ่ายตัง 30 บาท
ได้รับกาแฟมาก็ ดูดไปด้วยความคิดว่าเอาน่า ไม่หวานหรอก
ดูดปื๊ดดดด .... อี ด...ก นี่หรือคือไม่หวาน แล้วดิฉันก็โยนแก้วกาแฟลงไปในถังขยะหน้าร้านต่อหน้าคนขาย
คือดิฉันทราบนะคะว่ามันดูหยาบคาย แต่ดิฉันแค่คิดว่าถ้านี่หวานน้อย แล้วหวานปกติมันคืออะไร
คือเงินไม่ได้เสียดาย แต่หงุดหงิดที่ต้องไปหาซื้อกาแฟแก้วใหม่
แล้วบอกกับตัวเองว่า มันคงเป็นความผิดของ ฉันเอง
ต่อไปนี้ชั้นจะสู้เเพื่อกาแฟของชั้นด้วยการบอกว่า
พี่คะ ขอคาปูเย็น นมข้นช้อนเดียวไม่ใส่คาเนชั่น
ดิฉันจะสู้เพื่อคาปูในแบบที่ดิฉันอยากกิน
ขอบคุณค่ะ
สั่งกาแฟเย็นหวานน้อย ไม่เคยหวานน้อยเลย แก้ปัญหากันยังไงคะ
ถ้าทานกาแฟที่บ้านจะทานกาแฟดำร้อน
แต่บางทีไปข้างนอกมันร้อนก็อยากทานกาแฟเย็นกะเค้าบ้าง
เวลาเปลี่ยนร้านกาแฟที่ไม่ใช่ร้านประจำมักประสบปัญหา เรื่องได้กาแฟหวานเกินไป
หลายครั้งพอถามถึงส่วนผสม Barista ก็ดูเหมือนไม่พอใจจะตอบ
คือบางทีดิฉันก็พอทราบว่ามันอาจน่ารำคาญไปบ้าง ...
แต่ถ้าในเวลานั้นมีลูกค้าท่านอื่นรอคิวด้านหลัง ดิฉันก็มีมารยาทพอ
ที่จะบอกว่า ขอคาปูชิโน่เย็นไม่หวานเลย ไม่หวานเลยละกัน ง่ายๆ จะได้ไม่เป็นภาระของคนรอข้างหลัง
พอบอกไม่หวาน แต่สูตรบางร้านก็ฟาดคาร์เนชั่นมาค่อนแก้ว
ถึงไม่หวานแต่ก็มัน .... ดิฉันก็กินมั่งทิ้งมั่งตามความสามารถ
ดิฉันเองก็ไม่อยากจะไปจู้จี้จุกจิกกับคนชงกาแฟมาก เพราะหลายร้านก็จะยึดติดกับสูตรนั้น สูตรนี้
โดยไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจความต้องการของลูกค้า พอถามก็ไม่ค่อยจะตอบ เช่น
ดิฉัน: ขอโทษนะคะปกติคาปูพี่ใส่ไรบ้างคะ
Barista: อ๋อเป็นสูตรของทานร้านค่ะ
ดิฉัน: คิดในใจ (แต่น้องแรดเผือกอยากรู้นี่นา...ทำไงดี ทำไงดี!! เออช่างเถอะไม่ตอบก็ไม่ตอบ เลยบอกไปว่า) อืมงั้นขอหวานน้อยนะคะ
พอแหลกทีไร แม่มหวานทุกที ทั้งหวานทั้งมัน ก็ได้แต่ทำใจ และคิดว่า ช่างเถอะเราไม่คอยดูเวลาเค้าชงเองแหละ
บางทีก็ไม่อยากจะไปจ้องอะไรเค้ามาก แต่เผลอเป็นไม่ได้ "หวานทุกที"
โดยทั่วไปร้านกาแฟที่ดิฉันทานประจำก็มักจะตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันละแวกบ้านเนี่ยแหละค่ะ
ร้านที่ซื้อบ่อยๆ เช่น ราบิก้า หรือ ดิโอโร่ มักไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เพราะซื้อกันประจำ เห็นหน้าก็จะเข้าใจทันที
ขอยกตัวอย่างนะคะโดยปกติ ถ้าสั่งกาแฟเย็นจากร้าน Rabika Coffee ไม่ว่าจะเป็น สูตร เข้ม กลาง หรือ อ่อน
ครั้งแรกที่สั่งดิฉัน จะถามว่า ใส่อะไรบ้างคะ ทาง Barista ก็จะแจ้งว่า ใส่ เป็น นมสด นมคาเนชั่น นมข้น น้ำตาล น้ำเชื่อมอะไรก็ว่าไป
แล้วดิฉันก็จะแจ้งก่อนชงว่า ขอนมข้นกับ คาร์เนชั่นแค่อย่างละช้อนนะคะ
แรกๆก้อ งง แต่ ร้านประจำพอได้ชงบ่อยๆ ก็จะจำได้ไม่ต้องสั่งกันใหม่
ส่วนร้าน D ORO ถ้าสั่ง คาปูชิโน่เย็น เวลาบอกหวานน้อย ดิฉันก็ว่ายังหวาน คือบางทีก็ไม่อยากจะจ้ำจี้จ้ำไชมากเลยแจ้งไปแบบง่ายๆว่า
ขอคาปูชิโน่เย็นแบบไม่หวานเลย ก็จะใส่แค่ กาแฟกับนมสด ดิฉันก็แฮปปี้
กินขมก็ดี ดีกว่ากินหวาน
----------------------------------------------------------------------------------------
มีอยู่ครั้งนึงไปเจอร้านกาแฟบ้านๆในตลาด ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียว คนขายดูอารมไม่ดีแต่ดิฉันก็ไม่คิดอะไรมาก
ก็เดินไปด้วยหน้าตายิ้มแย้ม พร้อมพูดว่า ขอโทษนะคะ "ขอคาปูเย็นหวานน้อยแก้วนึงค่ะ"
แล้วน้องคนขายก็บรรจง บดกาแฟและชงกาแฟมาใส่แก้วตวงใสๆ
ตักน้ำตาลทรายแดงพูนแบบช้อนโต๊ะ 2 ช้อน
น้ำตาลทราย อีก 2 ช้อน พร้อมเทคาร์เนชั่นอย่างเมามัน
ดิฉันก็ได้แต่หวังใจว่าอาจจะเป็นน้ำตาลสูตรใหม่แคลอรี่ต่ำไรงี้ เลยต้องใส่เยอะ อาจจะดีก็ได้ พอดิฉันจ่ายตัง 30 บาท
ได้รับกาแฟมาก็ ดูดไปด้วยความคิดว่าเอาน่า ไม่หวานหรอก
ดูดปื๊ดดดด .... อี ด...ก นี่หรือคือไม่หวาน แล้วดิฉันก็โยนแก้วกาแฟลงไปในถังขยะหน้าร้านต่อหน้าคนขาย
คือดิฉันทราบนะคะว่ามันดูหยาบคาย แต่ดิฉันแค่คิดว่าถ้านี่หวานน้อย แล้วหวานปกติมันคืออะไร
คือเงินไม่ได้เสียดาย แต่หงุดหงิดที่ต้องไปหาซื้อกาแฟแก้วใหม่
แล้วบอกกับตัวเองว่า มันคงเป็นความผิดของ ฉันเอง
ต่อไปนี้ชั้นจะสู้เเพื่อกาแฟของชั้นด้วยการบอกว่า
พี่คะ ขอคาปูเย็น นมข้นช้อนเดียวไม่ใส่คาเนชั่น
ดิฉันจะสู้เพื่อคาปูในแบบที่ดิฉันอยากกิน
ขอบคุณค่ะ