สวัสดีค่ะ เราสมัครสมาชิกใหม่เพราะไม่อยากให้คุณพ่อมาเห็น ปัจจุบัน 23ปี
เราเพิ่งทะเลาะกับพ่อแม่ เหตุเพราะมี 2อาเป็นต้นเหตุค่ะ ด้วยเรื่องที่ดินที่เค้าอยากซื้อ
เลยมาปรึกษาพ่อแม่ว่าจะซื้อดีมั้ย พ่อแม่ก็มาเล่าให้เราฟัง พ่อก็บอกว่านั่นเงินอานี่ อยากซื้อก็ซื้อ มันไม่ใช่เงินพ่อ ให้คำปรึกษาได้แต่ไม่ฟันธงให้นะว่าตรงไหนมันดี
อาหญิงใหญ่อยากได้ที่ดินเปล่าไว้ปลูกสวนแต่สวนที่บ้านเค้าไม่เคยทำเองเลยค่ะ เค้ามาพูดลอยๆว่าอยากมีสวน แต่ไม่มีคนช่วย
เรารู้สึกโมโหค่ะ ที่ดินคุณ คุณทำเองสิ พ่อแม่ชั้นอายุ 50กว่าจนจะ 60อยู่ละ
เราเลยพูดว่า "ที่ดินใครก็ดูแลเอง อยากปลูกสวนก็ต้องดูแลเอง มีสวนแล้วงูมันมาอันตรานจะตาย เกิดให้ป๊าไปดูแลให้แล้วงกมันฉกแล้วใครตาย ก็ป๊าตาย"
อาหญิงคนเล็กเค้าก็เปิดประตูมาแล้วได้ยินค่ะ เค้าก็บอกว่า "งูฉกใคร คนนั้นก็ตายสิ ถามแปลกๆ(หัวเราะ) "เราได้ยินนี่อยากกระโดดถีบมาก แต่ก็ไม่พูดอะไร
พ่อก็บอกต่อว่า "อาหญิงใหญ่อยากปลูกต้นมะม่วงด้วย"
เรา "มันต้องดูพันธุ์นะ ไม่ใช่ศัพท์แต่ว่าเลือกปลูกพันธุ์เตี้ยแล้วไม่มีใครกินเสียดาย ไหนจะตัดกิ่งจะปลูกผลต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงอีก อีกอย่างบ้านเราอยู่ในเมืองตลอดไปอยู่แบบนั้นไม่ได้หรอก" (พ่อเองก็เคยบอกว่าไปเที่ยวได้นะ แต่ให้อยู่เลยทำไม่ได้แน่ๆ)
อาคนเล็ก "แต่ชั้นเห็นจนท.กทม.มาตัดกิ่ง ดูง่ายมากเลยนะ เครื่องมือสมัยนี้สะดวกออก" ค่ะ! ก็ทำเองสิ ปากดี
พูดเสร็จนางก็เดินออกไปค่ะ เราเลยหันมาบ่นว่า ทำพูดเหมือนเรื่องง่ายๆ แน่จริงก็ทำเอง
แม่เลยหันว่าเราค่ะ ผู้ใหญ่คุยกันไม่ต้องยุ่ง เงียบๆไป เอ้า!แล้วมาเล่าให้ฟังทำไมแต่แรก เราเลยโกรธค่ะ เงียบไม่พูด เดินหนี
ทั้งที่เราเป็นห่วงพ่อแม่ รักมาก เลยอยากให้อยู่สบายๆ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เหนื่อยทำงานมาทั้งชีวิต
ขอเล่าพื้นฐานครอบครัวซักหน่อยนะคะ บ้านเราเป็นครอบครัวคนจีนค่อยข้างจะจ๋าอยู่ค่ะ
คุณพ่อมีพี่น้องรวมคุณพ่อด้วยก็ 4คน ชาย2 หญิง2 คุณพ่อเป็นลูกชายคนโต เพราะงั้นเรื่องใหญ่ๆนอกบ้านที่ต้องตัดสินใจจะเป็นหน้าที่ของคุณพ่อ ในบ้านจะเป็นของคุณแม่ค่ะ
ทั้ง 2ท่านเก่งมาก ทำงานเก่งจนมีกิจการเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย จนปัจจุบันก็ยังดำเนินกิจการ
ซึ่งอาหญิงทั้ง 2คนก็ลาออกจากงานประจำมาทำตามพ่อแม่ โดยเปิดสาขาเพิ่มและรับผิดชอบสาขานั้นๆไป อาชายก็ดูแลงานอีกส่วนที่ไม่ใช่กิจการตรงนี้
ปัญหาแรกคือ พวกอาไม่เคยลงมืออะไรเองเลยค่ะ ดีแต่พูด
อาหญิงใหญ่นางเรียนจบโท เราก็นึกว่า โหจบโทต้องเก่งแน่ๆ ความคิดเค้าต้องมีตรรกะที่ดีและต้องเป็นขั้นเป็นตอนแน่ นั่นคือความคิดเราตอนเด็กๆ
แต่นี่ ไม่!เลยค่ะ
- แกเป็นชอบเซ้าซี้จนนน่ารำคาญ จนโดนพ่อแม่และพี่ชายด่าแรงมากก็แล้ว ทำเป็นหูทวนลม หน้าอึนๆมึนๆ สักพักก็เซ้าซี้ใหม่
- ไม่เคยคิดอะไรเองได้ ต้องปรึกษาทุกอย่าง
- ทำอะไรเองเล็กๆน้อยๆไม่ค่อยเป็น สมมติเรื่องเล็กน้อยที่งี่เง่ามาก แกย้อมผมไม่เป็นเลยมาขอให้แม่ช่วย แต่แม่คุยงานซีเรียสมากๆอยู่ แกจะมาเซ้าซี้ทุก10นาทีว่าคุยเสร็จรึยังๆจนกว่าจะได้ย้อมผม แม่ก็โมโหรีบๆทำให้ หรือทำกับข้าว อุ่นนู้นนี้ ไม่เคยคิดเองว่าต้องอุ่นกี่นาที เดินข้ามถามมาตลอด
- เป็นคนที่เชื่ออะไรก็จะเชื่อสุดโต่ง และมาบังคับให้บ้านเราทำตาม
- ทำอะไรก็หวังผล แกขับรถไม่เป็นค่ะ สมมติพี่ชายขับรถจะไปเอาของที่ร้านสาขาอาหญิงใหญ่เพราะฝั่งสาขาบ้านเราไม่มีและลูกค้าก็รีบอยากได้มากจะมาเอาตอนเย็นๆ เค้าก็จะมาแซะๆว่า โกวมีของเอาเข้าเยอะเลย หลานจะไปใช่มั้ยเดี๋ยวโกวไปด้วยนะเพราะหลานมาเอาของฝั่งโกวไปแล้ว โกวเลยไม่มีขาย ห๊า! จำได้นะว่าก่อนหน้านั้นขยั้นขยอให้ช่วยเอาไปหน่อยเพราะขายไม่ออก
- อยากได้อะไรต้องได้ แกนับถือพระรูปนึงที่อยุธยาค่ะ แล้วจะเอาของไปถวายซึ่งเยอะมากทั้งใหญ่และเล็กเลยจะขับรถตู้ไป แต่รถตู้คันนี้มันเก่ามากไม่เคยเชคสภาพ แกยืนยันคนเดียวว่าขับได้ แต่พ่อแม่พี่ชายบอกว่ามันขับระยะไกลไม่ปลอดภัย เพราะรถไม่เคยเชคเลยตั้งแต่ยกให้อาผู้ชายไป แต่แกก็ยังเถียงว่ามันยังใช้ได้ พ่อก็โมโหค่ะว่า เออ มันขับสั้นๆอ่ะได้ แต่ออกตจว.มันไม่ปลอดถัย ไม่งั้นมรุงก็ตายห-่าคนเดียวเลย ขับรถไม่เป็นยังมาเถียง น่ารำคาญ แต่สุดท้ายนางก็พ่ายแพ้นะคะ
- ทำอะไรคิดถึงแต่ตัวเอง ช่วงเรายังเด็กยังไม่ดีพอที่จะสามารุดูแลตัวเองได้เค้าชอบชวนพ่อแม่ไปปตท.ค่ะ แต่พ่อแม่ไม่ไปก็ลูกยังเด็ก ไหนน้องเพิ่งจะไม่เท่าไหร่ แกบอกไม่เห็นไรเป็นไรเลยอยู่ได้ พ่อแม่เลยด่าแกค่ะว่าไม่มีลูกก็หุบปาก
มีอีกเยอะแยะตาแปะไก่ค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพ่อแม่ชอบมาด่าแกให้เราฟัง โมโหโกรธการกระทำของแกนู้นนี้ แต่ก็ยังชอบปกป้องแกในสิ่งที่ไม่ควรตลอด เลยทำให้เราพี่ชาย(28ปี)และน้องสาว(15ปี)ทะเลาะกับพ่อแม่บ่อยมาก
อาหญิงเล็ก เราเกลียดมากเป็นพิเศษแบบไม่ใส่เส้นเลยค่ะ อย่างที่เล่าเป็นน้ำจิ้มข้างบน
- ไม่ให้ความช่วยเหลือ พ่อเคยสั่งดีวีดีกับบริษัท แล้วแกก็ได้ยินแกเลยสั่งด้วยและให้รวมเอาไปส่งที่สาขาบ้านเราก่อนค่ะ แต่ทีนี้พนง.ดันส่งผิดมาส่งให้ที่บ้านแล้ววันนั้นเราอยู่บ้านกับน้องสาวและแกค่ะ จู่ๆก็มา เรามีเงินติดตัวไม่เยอะเพราะกะว่าวันนั้นไม่เข้าร้าน แต่บริษัทเรียกเก็บเงินเลยค่ะเพราะไม่ได้เยอะมากอะไร โทรหาแม่ก็ไม่ติด เลยตัดติดใจไปยืมเงินแกบอกว่าดีวีดีมาส่งข้างล่าง หลานไม่มีเงิน แต่แกไม่ให้ค่ะถามว่าเอาไปทำอะไร ถามซ้ำๆซากๆ จนเราไม่เอาละ โมโหเดินหนี วิ่งไปถามน้องสาวว่ามีเงินเก็บให้ยืมก่อนมั้ยบริษัทมาส่งของ เดี๋ยวเจ๊เอาตังมาคืนตอนดึกนะน้องก็หยิบให้ค่ะ เรียนร้อยแล้วเราก็รีบอาบน้ำเข้าร้านไปบอกว่าพ่อแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ปากดี แกทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นเหมือนกับอาหญิงใหญ่เลยค่ะ พูดเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายๆ
- ไม่เคยดูแลหลานๆแต่ชอบอ้างว่าเป็นอานะเธอต้องดูแล ทั้งที่อายุแกห่างจากพ่อพอสมควรซึ่งยังสามารถดำรงชีวิตด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องยืมมือใคร ครั้งนึงเราโดนทั้งบ้างทิ้งไปญี่ปุ่น โดยเราอยู่บ้านกับแก 2คน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ เราต้องเข้าร้านทุกวันแทนและกลับดึกมาก ต้องตื่นเช้าเพื่อจัดการให้อาหารสัตว์รดน้ำต้นไม้กวาดพื้น รีบทำกับข้าวทำแค่อย่างเดียวและรีบเข้าร้าน แกก็จะมาถามมีไรให้กินมั้งทั้งที่แกไม่ได้ออกไปไหนนะคะ หิวก็เดินไปที่ตลาดสิ ใกล้มากด้วยซ้ำ
- ชอบสอน แต่ตัวเองไม่เคยทำได้
เกลียดพวกอายิ่งไปอีกเพราะพ่อแม่นี่แหละค่ะ ชอบปกป้องอะไรผิดๆ 1สิ่งเลยที่เราไม่เข้าใจคนเป็นพ่อแม่คือ อะไรคือคำด่าที่ว่า "โดเป็นผู้ใหญ่แล้วคิดเอง""ผู้ใหญ่คุยอยู่ เด็กไม่เกี่ยว" จะให้เป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็ก?
สำหรับพ่อแม่ เรารักมากเลยน้อยใจมากและก็เกลียดมาก
- เวลาไปไหนไกลๆ ชอบทิ้งเราไว้ที่บ้านและให้ดูแลร้านคนเดียวค่ะ หรือถ้าพี่ชายไม่ไป ก็จะสั่งให้เราอยู่กับพี่ชาย
- เวลาทะเลาะกับพี่ชายน้องสาว เราผิดเสมอค่ะ ทะเลาะกับพี่"เป็นน้องต้องเชื่อฟังพี่" ทะเลาะกับน้อง"เป็นพี่ต้องใจเย็นกับน้อง"
- ปัญหาเรื่องการพูดคุยค่ะ ที่ดิน... พ่อแม่ชอบมาเล่าให้เราฟังว่าเนี่ย ที่นี้ๆๆจะโอนเป็นชื่อเฮีย คือจะบอกทำไม จนครั้งนึงเราพ่อแม่ทะเลาะกัน(น่าจะเรามากกว่า)เราบอกว่า ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าที่ดินตรงไหนจะยกให้ใคร ไหนๆลูกก็ไม่ได้อยู่ล่ะ คิดเยอะๆบ้างนะว่าลูกจะเสียใจมั้ยฟังแบบนี้ ม๊าเองก็ทำโดนจากอาหวั่วม่าไม่ใช่หรอ ตัวเองก็ไม่ชอบ แล้วไหงมาทำกับลูกอีก แต่บอกไว้ตรงนี้เลยนะ สมบัติบ้าบออะไรยกให้เฮียกับน้องไปเลย ลูกไม่เอาสักชิ้น! ร้านก็ด้วยเงินทุกบาทที่ลูกทำก็เข้าบัญชีเฮียหมด โอนเป็นชื่อเฮียไปเลยไม่ต้องมาเอาชื่อลูก อนาคตมันไม่ใช่ของลูกอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาชื่อลูกมาเสียภาษี พวกท่านก็พูดแค่คำว่า ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ๆ ไม่มีอะไรจริงๆนะ(มาเป็นนิโคลเลย) ไม่ใช่แล้วค่ะ พวกท่านบอกว่า "ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างลูกคิด" แต่มันก็เห็นๆกันอยู่
บางทีลูกค้ามารับของก็จะมีการพูดคุยกัน โดยเฉพาะมาแบบพ่อแม่ลูกนี่จะคุยกันนานมาก นอกจากคุยเรื่องของยังคุยเรื่องปัญหาครอบครัวด้วยค่ะ แม่มักจะยอมรับว่าหลายครั้งทำกับเรามากไปจริงๆ แต่เวลาถัดมาก็ลืมในสิ่งที่ตัวเองพูด
เราพยายามไม่เข้าไปร่วมสนทนากับครอบครัวไม่อยากทะเลาะ แต่ทุกคนก็ชอบมาอยู่กับเราเพราะเงียบค่ะ เช่น เราเป็นคนดูทีวีที่เงียบมากจะไม่เป็นหนูจำไมระหว่างหนังฉายอยู่เด็ดขาด แต่คนที่บ้านจะชอบทำไมอ่ะ ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมตัวละครนี้ชื่อนี้ สุดท้ายก็รำคาญทะเลาะกันเอง
ตามจริงยังอยากระบายอีกเยอะค่ะ แต่โมโหจนทุกอย่างตีร่วมกันมั่วไปหมด
ยาวไปหน่อยแต่ขอบคุณล่วงหน้าที่เสียสละเวลามาอ่านค่ะ
แท็กชานเรือน ตามชื่อเลยค่ะ"ปัญหาครอบรัว"
แท็กบางรัก ศาลาคนเศร้า ไม่จำเป็นต้องอกหักเนอะ ทะเลาะกับที่บ้านนี่แหละเศร้ากว่า
แท็กสวนลุมพินี สุขภาพจิตใกล้เสียเต็มที่จริงๆค่ะ
แท็กชายคา อยากทราบคะว่าที่ทั้งหมดทั้งมวลถ้าลงชื่อพี่ชายทั้งหมด ต้องเสียภาษีที่ดินขนาดไหน
<<ระบาย>>เกลียดอาหญิงที่บ้านมาก ทำอย่างไรให้เค้าคิดเยอะๆบ้างค่ะ
เราเพิ่งทะเลาะกับพ่อแม่ เหตุเพราะมี 2อาเป็นต้นเหตุค่ะ ด้วยเรื่องที่ดินที่เค้าอยากซื้อ
เลยมาปรึกษาพ่อแม่ว่าจะซื้อดีมั้ย พ่อแม่ก็มาเล่าให้เราฟัง พ่อก็บอกว่านั่นเงินอานี่ อยากซื้อก็ซื้อ มันไม่ใช่เงินพ่อ ให้คำปรึกษาได้แต่ไม่ฟันธงให้นะว่าตรงไหนมันดี
อาหญิงใหญ่อยากได้ที่ดินเปล่าไว้ปลูกสวนแต่สวนที่บ้านเค้าไม่เคยทำเองเลยค่ะ เค้ามาพูดลอยๆว่าอยากมีสวน แต่ไม่มีคนช่วย
เรารู้สึกโมโหค่ะ ที่ดินคุณ คุณทำเองสิ พ่อแม่ชั้นอายุ 50กว่าจนจะ 60อยู่ละ
เราเลยพูดว่า "ที่ดินใครก็ดูแลเอง อยากปลูกสวนก็ต้องดูแลเอง มีสวนแล้วงูมันมาอันตรานจะตาย เกิดให้ป๊าไปดูแลให้แล้วงกมันฉกแล้วใครตาย ก็ป๊าตาย"
อาหญิงคนเล็กเค้าก็เปิดประตูมาแล้วได้ยินค่ะ เค้าก็บอกว่า "งูฉกใคร คนนั้นก็ตายสิ ถามแปลกๆ(หัวเราะ) "เราได้ยินนี่อยากกระโดดถีบมาก แต่ก็ไม่พูดอะไร
พ่อก็บอกต่อว่า "อาหญิงใหญ่อยากปลูกต้นมะม่วงด้วย"
เรา "มันต้องดูพันธุ์นะ ไม่ใช่ศัพท์แต่ว่าเลือกปลูกพันธุ์เตี้ยแล้วไม่มีใครกินเสียดาย ไหนจะตัดกิ่งจะปลูกผลต้องตัดท่อน้ำเลี้ยงอีก อีกอย่างบ้านเราอยู่ในเมืองตลอดไปอยู่แบบนั้นไม่ได้หรอก" (พ่อเองก็เคยบอกว่าไปเที่ยวได้นะ แต่ให้อยู่เลยทำไม่ได้แน่ๆ)
อาคนเล็ก "แต่ชั้นเห็นจนท.กทม.มาตัดกิ่ง ดูง่ายมากเลยนะ เครื่องมือสมัยนี้สะดวกออก" ค่ะ! ก็ทำเองสิ ปากดี
พูดเสร็จนางก็เดินออกไปค่ะ เราเลยหันมาบ่นว่า ทำพูดเหมือนเรื่องง่ายๆ แน่จริงก็ทำเอง
แม่เลยหันว่าเราค่ะ ผู้ใหญ่คุยกันไม่ต้องยุ่ง เงียบๆไป เอ้า!แล้วมาเล่าให้ฟังทำไมแต่แรก เราเลยโกรธค่ะ เงียบไม่พูด เดินหนี
ทั้งที่เราเป็นห่วงพ่อแม่ รักมาก เลยอยากให้อยู่สบายๆ ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เหนื่อยทำงานมาทั้งชีวิต
ขอเล่าพื้นฐานครอบครัวซักหน่อยนะคะ บ้านเราเป็นครอบครัวคนจีนค่อยข้างจะจ๋าอยู่ค่ะ
คุณพ่อมีพี่น้องรวมคุณพ่อด้วยก็ 4คน ชาย2 หญิง2 คุณพ่อเป็นลูกชายคนโต เพราะงั้นเรื่องใหญ่ๆนอกบ้านที่ต้องตัดสินใจจะเป็นหน้าที่ของคุณพ่อ ในบ้านจะเป็นของคุณแม่ค่ะ
ทั้ง 2ท่านเก่งมาก ทำงานเก่งจนมีกิจการเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย จนปัจจุบันก็ยังดำเนินกิจการ
ซึ่งอาหญิงทั้ง 2คนก็ลาออกจากงานประจำมาทำตามพ่อแม่ โดยเปิดสาขาเพิ่มและรับผิดชอบสาขานั้นๆไป อาชายก็ดูแลงานอีกส่วนที่ไม่ใช่กิจการตรงนี้
ปัญหาแรกคือ พวกอาไม่เคยลงมืออะไรเองเลยค่ะ ดีแต่พูด
อาหญิงใหญ่นางเรียนจบโท เราก็นึกว่า โหจบโทต้องเก่งแน่ๆ ความคิดเค้าต้องมีตรรกะที่ดีและต้องเป็นขั้นเป็นตอนแน่ นั่นคือความคิดเราตอนเด็กๆ
แต่นี่ ไม่!เลยค่ะ
- แกเป็นชอบเซ้าซี้จนนน่ารำคาญ จนโดนพ่อแม่และพี่ชายด่าแรงมากก็แล้ว ทำเป็นหูทวนลม หน้าอึนๆมึนๆ สักพักก็เซ้าซี้ใหม่
- ไม่เคยคิดอะไรเองได้ ต้องปรึกษาทุกอย่าง
- ทำอะไรเองเล็กๆน้อยๆไม่ค่อยเป็น สมมติเรื่องเล็กน้อยที่งี่เง่ามาก แกย้อมผมไม่เป็นเลยมาขอให้แม่ช่วย แต่แม่คุยงานซีเรียสมากๆอยู่ แกจะมาเซ้าซี้ทุก10นาทีว่าคุยเสร็จรึยังๆจนกว่าจะได้ย้อมผม แม่ก็โมโหรีบๆทำให้ หรือทำกับข้าว อุ่นนู้นนี้ ไม่เคยคิดเองว่าต้องอุ่นกี่นาที เดินข้ามถามมาตลอด
- เป็นคนที่เชื่ออะไรก็จะเชื่อสุดโต่ง และมาบังคับให้บ้านเราทำตาม
- ทำอะไรก็หวังผล แกขับรถไม่เป็นค่ะ สมมติพี่ชายขับรถจะไปเอาของที่ร้านสาขาอาหญิงใหญ่เพราะฝั่งสาขาบ้านเราไม่มีและลูกค้าก็รีบอยากได้มากจะมาเอาตอนเย็นๆ เค้าก็จะมาแซะๆว่า โกวมีของเอาเข้าเยอะเลย หลานจะไปใช่มั้ยเดี๋ยวโกวไปด้วยนะเพราะหลานมาเอาของฝั่งโกวไปแล้ว โกวเลยไม่มีขาย ห๊า! จำได้นะว่าก่อนหน้านั้นขยั้นขยอให้ช่วยเอาไปหน่อยเพราะขายไม่ออก
- อยากได้อะไรต้องได้ แกนับถือพระรูปนึงที่อยุธยาค่ะ แล้วจะเอาของไปถวายซึ่งเยอะมากทั้งใหญ่และเล็กเลยจะขับรถตู้ไป แต่รถตู้คันนี้มันเก่ามากไม่เคยเชคสภาพ แกยืนยันคนเดียวว่าขับได้ แต่พ่อแม่พี่ชายบอกว่ามันขับระยะไกลไม่ปลอดภัย เพราะรถไม่เคยเชคเลยตั้งแต่ยกให้อาผู้ชายไป แต่แกก็ยังเถียงว่ามันยังใช้ได้ พ่อก็โมโหค่ะว่า เออ มันขับสั้นๆอ่ะได้ แต่ออกตจว.มันไม่ปลอดถัย ไม่งั้นมรุงก็ตายห-่าคนเดียวเลย ขับรถไม่เป็นยังมาเถียง น่ารำคาญ แต่สุดท้ายนางก็พ่ายแพ้นะคะ
- ทำอะไรคิดถึงแต่ตัวเอง ช่วงเรายังเด็กยังไม่ดีพอที่จะสามารุดูแลตัวเองได้เค้าชอบชวนพ่อแม่ไปปตท.ค่ะ แต่พ่อแม่ไม่ไปก็ลูกยังเด็ก ไหนน้องเพิ่งจะไม่เท่าไหร่ แกบอกไม่เห็นไรเป็นไรเลยอยู่ได้ พ่อแม่เลยด่าแกค่ะว่าไม่มีลูกก็หุบปาก
มีอีกเยอะแยะตาแปะไก่ค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพ่อแม่ชอบมาด่าแกให้เราฟัง โมโหโกรธการกระทำของแกนู้นนี้ แต่ก็ยังชอบปกป้องแกในสิ่งที่ไม่ควรตลอด เลยทำให้เราพี่ชาย(28ปี)และน้องสาว(15ปี)ทะเลาะกับพ่อแม่บ่อยมาก
อาหญิงเล็ก เราเกลียดมากเป็นพิเศษแบบไม่ใส่เส้นเลยค่ะ อย่างที่เล่าเป็นน้ำจิ้มข้างบน
- ไม่ให้ความช่วยเหลือ พ่อเคยสั่งดีวีดีกับบริษัท แล้วแกก็ได้ยินแกเลยสั่งด้วยและให้รวมเอาไปส่งที่สาขาบ้านเราก่อนค่ะ แต่ทีนี้พนง.ดันส่งผิดมาส่งให้ที่บ้านแล้ววันนั้นเราอยู่บ้านกับน้องสาวและแกค่ะ จู่ๆก็มา เรามีเงินติดตัวไม่เยอะเพราะกะว่าวันนั้นไม่เข้าร้าน แต่บริษัทเรียกเก็บเงินเลยค่ะเพราะไม่ได้เยอะมากอะไร โทรหาแม่ก็ไม่ติด เลยตัดติดใจไปยืมเงินแกบอกว่าดีวีดีมาส่งข้างล่าง หลานไม่มีเงิน แต่แกไม่ให้ค่ะถามว่าเอาไปทำอะไร ถามซ้ำๆซากๆ จนเราไม่เอาละ โมโหเดินหนี วิ่งไปถามน้องสาวว่ามีเงินเก็บให้ยืมก่อนมั้ยบริษัทมาส่งของ เดี๋ยวเจ๊เอาตังมาคืนตอนดึกนะน้องก็หยิบให้ค่ะ เรียนร้อยแล้วเราก็รีบอาบน้ำเข้าร้านไปบอกว่าพ่อแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
- ปากดี แกทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นเหมือนกับอาหญิงใหญ่เลยค่ะ พูดเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายๆ
- ไม่เคยดูแลหลานๆแต่ชอบอ้างว่าเป็นอานะเธอต้องดูแล ทั้งที่อายุแกห่างจากพ่อพอสมควรซึ่งยังสามารถดำรงชีวิตด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องยืมมือใคร ครั้งนึงเราโดนทั้งบ้างทิ้งไปญี่ปุ่น โดยเราอยู่บ้านกับแก 2คน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ เราต้องเข้าร้านทุกวันแทนและกลับดึกมาก ต้องตื่นเช้าเพื่อจัดการให้อาหารสัตว์รดน้ำต้นไม้กวาดพื้น รีบทำกับข้าวทำแค่อย่างเดียวและรีบเข้าร้าน แกก็จะมาถามมีไรให้กินมั้งทั้งที่แกไม่ได้ออกไปไหนนะคะ หิวก็เดินไปที่ตลาดสิ ใกล้มากด้วยซ้ำ
- ชอบสอน แต่ตัวเองไม่เคยทำได้
เกลียดพวกอายิ่งไปอีกเพราะพ่อแม่นี่แหละค่ะ ชอบปกป้องอะไรผิดๆ 1สิ่งเลยที่เราไม่เข้าใจคนเป็นพ่อแม่คือ อะไรคือคำด่าที่ว่า "โดเป็นผู้ใหญ่แล้วคิดเอง""ผู้ใหญ่คุยอยู่ เด็กไม่เกี่ยว" จะให้เป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็ก?
สำหรับพ่อแม่ เรารักมากเลยน้อยใจมากและก็เกลียดมาก
- เวลาไปไหนไกลๆ ชอบทิ้งเราไว้ที่บ้านและให้ดูแลร้านคนเดียวค่ะ หรือถ้าพี่ชายไม่ไป ก็จะสั่งให้เราอยู่กับพี่ชาย
- เวลาทะเลาะกับพี่ชายน้องสาว เราผิดเสมอค่ะ ทะเลาะกับพี่"เป็นน้องต้องเชื่อฟังพี่" ทะเลาะกับน้อง"เป็นพี่ต้องใจเย็นกับน้อง"
- ปัญหาเรื่องการพูดคุยค่ะ ที่ดิน... พ่อแม่ชอบมาเล่าให้เราฟังว่าเนี่ย ที่นี้ๆๆจะโอนเป็นชื่อเฮีย คือจะบอกทำไม จนครั้งนึงเราพ่อแม่ทะเลาะกัน(น่าจะเรามากกว่า)เราบอกว่า ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าที่ดินตรงไหนจะยกให้ใคร ไหนๆลูกก็ไม่ได้อยู่ล่ะ คิดเยอะๆบ้างนะว่าลูกจะเสียใจมั้ยฟังแบบนี้ ม๊าเองก็ทำโดนจากอาหวั่วม่าไม่ใช่หรอ ตัวเองก็ไม่ชอบ แล้วไหงมาทำกับลูกอีก แต่บอกไว้ตรงนี้เลยนะ สมบัติบ้าบออะไรยกให้เฮียกับน้องไปเลย ลูกไม่เอาสักชิ้น! ร้านก็ด้วยเงินทุกบาทที่ลูกทำก็เข้าบัญชีเฮียหมด โอนเป็นชื่อเฮียไปเลยไม่ต้องมาเอาชื่อลูก อนาคตมันไม่ใช่ของลูกอยู่แล้ว ทำไมต้องเอาชื่อลูกมาเสียภาษี พวกท่านก็พูดแค่คำว่า ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่ๆ ไม่มีอะไรจริงๆนะ(มาเป็นนิโคลเลย) ไม่ใช่แล้วค่ะ พวกท่านบอกว่า "ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างลูกคิด" แต่มันก็เห็นๆกันอยู่
บางทีลูกค้ามารับของก็จะมีการพูดคุยกัน โดยเฉพาะมาแบบพ่อแม่ลูกนี่จะคุยกันนานมาก นอกจากคุยเรื่องของยังคุยเรื่องปัญหาครอบครัวด้วยค่ะ แม่มักจะยอมรับว่าหลายครั้งทำกับเรามากไปจริงๆ แต่เวลาถัดมาก็ลืมในสิ่งที่ตัวเองพูด
เราพยายามไม่เข้าไปร่วมสนทนากับครอบครัวไม่อยากทะเลาะ แต่ทุกคนก็ชอบมาอยู่กับเราเพราะเงียบค่ะ เช่น เราเป็นคนดูทีวีที่เงียบมากจะไม่เป็นหนูจำไมระหว่างหนังฉายอยู่เด็ดขาด แต่คนที่บ้านจะชอบทำไมอ่ะ ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมตัวละครนี้ชื่อนี้ สุดท้ายก็รำคาญทะเลาะกันเอง
ตามจริงยังอยากระบายอีกเยอะค่ะ แต่โมโหจนทุกอย่างตีร่วมกันมั่วไปหมด
ยาวไปหน่อยแต่ขอบคุณล่วงหน้าที่เสียสละเวลามาอ่านค่ะ
แท็กชานเรือน ตามชื่อเลยค่ะ"ปัญหาครอบรัว"
แท็กบางรัก ศาลาคนเศร้า ไม่จำเป็นต้องอกหักเนอะ ทะเลาะกับที่บ้านนี่แหละเศร้ากว่า
แท็กสวนลุมพินี สุขภาพจิตใกล้เสียเต็มที่จริงๆค่ะ
แท็กชายคา อยากทราบคะว่าที่ทั้งหมดทั้งมวลถ้าลงชื่อพี่ชายทั้งหมด ต้องเสียภาษีที่ดินขนาดไหน