เรียกร้องสิทธิ์ของตัวเอง โดยใช้อนาคตคนอื่นเป็นเครื่องต่อรองถือว่าน่าเกลียดมั้ยครับ

เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้เข้าไปที่ศูนย์บริการรถยนต์ A เพื่อขอเครมกระจกมองข้างที่มีระบบพับเก็บด้วยไฟฟ้าทางด้านขวา
เพราะมีอาการพับไม่ติดเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเวลาฝนตกใหม่ๆ เหมือนอากาศมีความชื้น
โดยใช้สิทธิ์ ประกัน 3 ปี หรือ 1 แสน กม.

ทางศูนย์ A ก็คุยดีครับ แจ้งว่าผมสามารถเครมได้ แต่เนื่องจากใช้เวลาในการเปลี่ยนนาน
ผมจึงขอเลื่อนเป็นอีก 2 วัน ข้างหน้า ซึ่งทางศูนย์ A ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ต่อมาศูนย์ A โทรมาแจ้งว่า ทางบริษัทแม่ไม่อนุญาตให้เครม เพราะเวลาอากาศร้อนจัดจะทำให้มอเตอร์ตัดการทำงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แต่ผมไม่ได้พูดอะไรมาก ผมแจ้งศูนย์ A ไปแค่ว่า
“รบกวนแจ้งบริษัทแม่ว่าผมขอดูเอกสารสัญญาที่มีลายเซ็นผมที่ระบุว่า ผมเครมด้วยสาเหตุนี้ไม่ได้ ใช้แค่คำพูดลอยๆแบบนี้ผมไม่เอา”
ทางศูนย์ A ก็รับเรื่องจะไปแจ้งให้ครับ

ผมคิดไปคิดมา จะไปบี้ที่ศูนย์ A ก็ไม่ได้ เพราะผมซื้อรถที่ศูนย์ B และผมนำรถเข้าศูนย์ B มาโดยตลอดถึง 7 ครั้ง
ดังนั้นผมก็ควรจะไปบี้ที่ศูนย์ B มากกว่า ศูนย์ A

ทีนี้ผมก็นึกถึงผู้จัดการฝ่ายบริการของศูนย์ B สมมุติว่าชื่อคุณทอม
ที่ศูนย์ B มีรูปคุณทอมรับรางวัลพนักงานดีเด่นของยี่ห้อนั้นๆ คุณทอมที่ไม่เคยทำให้ลูกค้าผิดหวังและ ได้ 5 ดาวมาโดยตลอด
คุณทอมเป็นความภาคภูมิใจของศูนย์ B และรางวัลนี้ทำให้คุณทอมภาคภูมิใจใส่สูทผูกไทค์ออกไปสวัสดีลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มทุกคน

ยกเว้นผม

เมื่อ 2-3 ปีก่อน ก่อนคุณทอมเคยเป็นพนักงานบริการหน้าเคาเตอร์และผมได้ใช้บริการกับคุณทอม
ตอนนั้นผมได้นำรถเข้าศูนย์และระบุชัดเจนกับคุณทอมว่า
1. ตอนนี้เวลา 10.00 น. ผมต้องการนำรถออกก่อน 12.00 น. เพราะต้องไปประชุมตอน 13.00 น.
2. ถ้าล้างรถไม่ทันไม่ต้องล้าง ผมไม่ตำหนิใคร เป็นความต้องการของผมเอง แต่ขอให้ออกก่อน 12.00 น. พอละ

คุณทอมรับปากผมเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าต้องเสร็จก่อน 12.00 น. แน่นอน
ผมรอตั้งแต่ 10.00 น. จนถึง 11.45 น. ผมก็รอไม่ไหวเพราะมันใกล้ 12.00 น. แล้ว

ผมจึงไปถามกับคุณทอมว่ารถผมใกล้เสร็จแล้วหรือยัง
คุณทอมตอบผมว่า ไม่ทราบ และขอตัวไปทานข้าวก่อน เพราะเพื่อนๆกำลังไปทานข้าว เดี๋ยวไปไม่ทัน

ผมรู้สึกของคุณคุณทอมมาก ที่บอกว่าตนเองหิว แต่ไม่ได้คิดว่า แล้วผมหละหิวหรือเปล่า
แล้วที่รับปากผมไว้ว่ารถจะได้ 12.00 น. หละ จะว่ายังไง

เวลา 11.50 น. คุณทอมก็ไปกินข้าวกับเพื่อนสบายใจเฉิบ ไม่มีพนักงานอยู่ในบริเวณนั้นเลย
ผมจึงต้องเดินไปตามหาว่ารถผมอยู่ที่ไหน และไปเจออยู่ที่ลานล้างรถในสภาพที่ยังไม่ล้าง

มีพนักงานมาคุยกับผมและรับทราบว่าผมต้องการรถทันที แต่ต้องรอพนักงานเพื่อจ่ายเงินก่อนนั่นก็คือคุณทอม
เวลา 12.30 น. คุณทอมเดินหน้าชื่นตาบานมากับเพื่อนๆพร้อมกับกาแฟแก้วใหญ่
คุณทอมแจ้งกับผมสั้นๆง่ายๆว่า รถลูกค้ายังไม่ได้ล้าง และพูดปัดไปว่าพนักงานล้างรถทำผิด ไม่เกี่ยวกับคุณทอม

ผมตอบคุณทอมในใจได้แค่ว่า olo

ต่อมาผมไม่พอใจคุณทอมมากจึงแจ้งคอมเพลนไปกับศูนย์ B
ทางตัวแทนศูนย์ B ได้กล่าวขอโทษต่อผม และจะตักเตือนคุณทอมให้ดีกว่านี้

หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่ได้แค้นเคืองคุณทอมแต่ประการใด เจอหน้าก็คุยกันธรรมดา
ถึงแม้คุณทอมจะเกร็งๆไปบ้างก็ตาม

พอมาวันนี้ มองในมุมของผม ผมกำลังโดนบริษัทแม่ไม่ยอมเครมอะไหล่ตามสิทธิ์ของผม
ผมก็คิดๆอยู่ว่าควรโทรไปหาศูนย์ B ดีหรือเปล่า แล้วศูนย์ B จำเรื่องผมกับคุณทอมได้มั้ย
รบกวนศูนย์ B ช่วยดันเรื่องนี้ให้ผมหน่อยได้มั้ย
เพราะผมคิดว่าศูนย์ B เองก็คงไม่อยากให้ผู้จัดการระดับ 5 ดาว ถูกรื้อเรื่องเก่าๆว่าเคยทิ้งลูกค้า

ลูกค้าที่คุณทอมเคยยิ้มหน้าชื่นตาบาน คงหันกลับมาถามคุณทอมว่าใช่คุณทอมหรือเปล่า
แล้วรางวัลที่บริษัทแม่ให้ ถือว่าเหมาะสมหรอ?

แต่ในอีกมุมนึงก็เหมือนเอาอนาคตคุณทอมมาเดิมพัน และถ้าเรื่องดันไม่ผ่าน ผมคงทำแน่เพราะผมแค่รักษาสิทธิ์ของผม
และผมคงเลือกวิธีอื่นๆเพื่อรักษาสิทธิ์ต่อไป
เลยอยากลองถามคนในพันทิพย์ว่า วิธีการนี้ควรทำมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่