เมื่อฉัน “ยอม” จนกลายเป็นคน “โง่”

“เราจะไม่รักใครอีกแล้ว” เราบอกกับตัวเอง หลังจากที่ผ่านพ้นประสบการณ์อกหักครั้งแรก จากผู้ชายที่คบหาดูใจกันมา 11 ปี
จนกำลังจะแต่งงานกัน แต่เรากลับถูกหักหลัง จากคนที่รัก แอบไปคบหากับพี่คนที่เรานับถือ และยกมือไหว้ทุกครั้งที่เจอ
หลังจากที่จับได้ เหมือนโลกทั้งโลกมันพัง...แล้วเราก็เดินออกมาแบบใจสลาย

เราไม่ยอมเปิดใจรับใครอยู่ 3 ปี เต็มๆ ด้วยความคิดที่ว่า ชีวิตลูกผู้หญิง ก็ควรมีสามีเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต.......

จนกระทั่ง ปีใหม่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว... เราวางแผนไปเที่ยวกับเพื่อน เป็นกลุ่ม ที่วังน้ำเขียว วางแผนไว้ล่วงหน้า อยู่ 3 เดือน
และแล้ว เวลาแห่งความสนุกที่เรารอคอยก็มาถึง........

เราไปเค้าท์ดาวน์ที่วังน้ำเขียวกับเพื่อนประมาณสิบคน บรรยากาศที่รีสอร์ทที่เราจองไว้ดีมาก นอนเต้นท์กัน
มีดนตรีสด สนุกสนาน และนั่นทำให้เราได้เจอกับผู้ชายคนนึง ขอเรียกเค้าว่า บี และขอแทนตัวเองว่า ฟ้า แล้วกันค่ะ
เค้าเป็นนักดนตรี ที่ไปเล่นในงานเค้าท์ดาวน์ของรีสอร์ท แต่วันนั้น เราไม่ได้คุยกัน เราก็เล่นกับเพื่อนกัน
ไม่ได้ใส่ใจสิ่งรอบข้างอะไรนัก จนกระทั่งกลับมาจากวังน้ำเขียว และเราก็โพสต์รูปที่เราไปเที่ยวกันลง เฟสบุ๊ค
ก็มีโต้ตอบแซวเรื่องรูปถ่ายกันไปมา เฟสบุ๊กก็เด้งแนะนำเพื่อน มีชื่อบี ขึ้นมาคนแรก มีเพื่อนร่วมกัน 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเรา
และเจ้าของรีสอร์ทที่เราไปพัก พอเราคลิกเข้าไปดู ก็เจอว่า อ้อ ตานี่เป็นนักดนตรีที่เล่นในวันเค้าท์ดาวน์นี่เอง ก็แอดเพื่อนไป
ไม่ถึง 10นาที เค้าก็รับแอด แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นขึ้น

“คุณที่ใส่เสื้อสีเขียวคืนนั้นน่ะเอง นึกว่าใคร ชอบคุณมากเลย จำได้เลยตั้งแต่วันนั้น ไม่เคยลืมเลย”
“รูปนี้ยิ้มสวย น่ารักจัง”
“ถ้าคบกันแล้วจะรู้ ว่าผมไม่ได้มีใครจริงๆ”
บลาๆๆๆๆ ฯลฯ

เราคิดในใจว่า นักดนตรี ไว้ใจไม่ได้หรอก เจ้าชู้แน่ๆ เค้ารู้จักคนเยอะแยะ มีโอกาสเจอคนมากมาย ไม่มีทางมาจริงใจกับเราหรอก
สมอง...มันบอกอย่างนั้น แต่ใจ กลับทำอีกอย่าง...

เราเริ่มโต้ตอบเฟสกันไปมา เค้าจะชอบโทรมาตอนเค้าเล่นดนตรี ไม่พูดอะไร เปิดให้เราฟังเค้าร้องเพลง
โทรมาปลุกเราทุกเช้า ทำแบบนี้ซักพัก เราเริ่มสังเกตว่า เวลาที่เราโทรหาเค้า เค้าไม่เคยรับสายเค้าซักครั้งเดียว แต่จะรอเวลา แล้วโทรกลับมา
แต่เราก็ไม่เคยจิก โทรไปครั้งเดียว ไม่รับ เราก็ไม่โทรตาม เวลาที่เราเจอกัน เค้าไม่เคยเปิดเสียง ไม่เปิดสั่น
ไม่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือเวลาวางก็คว่ำหน้าไว้ ที่จริงแค่นี้ เราก็รู้แล้ว ว่าเค้าไม่ธรรมดา แต่ก็ฝืน ไปต่อ...

ไปเที่ยวด้วยกัน เราจะแชร์กันตลอด เค้าไม่เคยยอมเสียเปรียบ “เดี๋ยวฟ้าจ่ายค่าข้าวนะ แล้วเดี๋ยวบีเลี้ยงหนัง” “เดี๋ยวหารกันนะ”
ที่เจอแล้วอึ้งที่สุด หลังจากที่เราคบหากันซักระยะ เค้าให้เราจ่ายค่าโรงแรมค่า..”บีไม่มีตังอ่ะ เดี๋ยวฟ้าออกไปก่อนนะ”

นัดเรา แล้วก็ชอบปล่อยให้เราไปรอ บางที นัด 5 โมงเย็น เราก็รอถึงทุ่มกว่า ค่อยออกมา แล้วขอโทษ บอกตื่นสาย
แต่ความจริง เราว่า เค้าน่าจะติดอย่างอื่นมากกว่า...

ที่จริงแค่นี้ เราก็น่าจะหยุดนะ แต่ไม่จ้า...ไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจให้เราเดินหน้าต่อ
ทั้งที่ตอนนั้น มีคุณหมอ มาขอแต่งงาน แต่เรากลับปฏิเสธ มาเลือกนักดนตรี ที่เราไม่รู้จะฝากใจไว้ได้หรือเปล่า
แล้วเค้าจะทิ้งเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

คิดแต่ว่าความดีของเรา ต้องชนะใจเค้าได้สิ เราจะใช้ความรักเของเราเนี่ยแหละ เปลี่ยนใจเค้า
(ความคิดควายมากค่า โลกสวยยยยยย บรม -..-)

ตอนนั้นคิดอะไรรู้มั้ยคะ คิดว่า....เอาน่ะ แฟนเก่าไม่เคยเจ้าชู้ ไม่มีประวัติเรื่องผู้หญิงเลย
แต่พอเจอมารยาหญิงที มันตามไม่ทันจ้า มันเตลิดไปเลย คิดไรไม่เป็นเลย แต่อินี่ มานเจนจัดเรื่องผู้หญิง
มันคงไม่หลงมารยาหญิงง่ายๆ แน่ แต่ลืมคิดไปค่า ว่าเค้าเนี่ยแหละ ตัวเล่ห์เหลี่ยมตัวพ่อเลย

หลังจากที่คบกันประมาณ 3-4 เดือน เราแอบเห็นโทรศัพท์เค้า ช่วงสงกรานต์ ตอนนั้นเค้าใช้ บีบี กำลังฮิตมาก โห้!!!!! แม่จ้าว
คุยกับผู้หญิง เป็นสิบๆ คน เลย ใน บีบี แล้วก็มีคนนึง ที่น่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะในแชท พูดถึงเรื่องครอบครัวของฝ่ายหญิง
แปลว่านี่น่าจะลึกซึ้งแฮะ แต่ก็เก็บเงียบค่ะ ไม่บอกให้เค้ารู้ตัว ว่าเห็นอะไรบ้าง

“เหงาจังเลย สงกรานต์ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่คนเดียวเนี่ย” โน่น นี่ นั่น
แต่เอ๊ะ นี่แกมาเล่นสงกรานต์กะชั้น ตัวติดกันตลอดเว ยังบอกสาวๆ ว่าเหงา อยู่คนเดียวอีก กล้ามากอ่ะ
เราก็ปล่อยผ่านค่ะ คิดว่า ก็เค้าเพิ่งคบเราไม่นาน เดี๋ยวคงค่อยๆ เลิกไปเองแหละ

เวลาผ่านไป เดือน พ.ค. เรากำลังนั่งทำงานอยู่ มี ผญ โทรเข้ามาหาเราค่ะ ขอเรียกเธอว่า ดี ค่ะ

“สวัสดีค่ะ”
“ฮัลโหล ......เธอชื่อ ฟ้า ใช่มั้ย”  เอาแล้วไง ลางสังหรณ์ไม่ดีละ “ใช่ค่ะ”
“เธอเป็นอะไรกับบี” ...เหมือนฟ้าผ่าค่ะ ขนาดเตรียมใจแล้วนะ ว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้ซักวัน “แฟนค่ะ...แล้วคุณล่ะ เป็นใคร”
เหมือนละครน้ำเน่าหลังข่าวค่ะ “เราเป็นเมียบี.....นี่เธอไม่รู้หรอ ว่าบีมีเมียแล้ว”....”ไม่ทราบค่ะ เค้าไม่ได้บอก เค้าบอกว่าเค้าโสด”
“เธอรู้จักกันได้ยังไง เจอกันที่ไหน คบกันนานหรือยัง” ดีถาม......”ไม่นานค่ะ รู้จักกันตอนปีใหม่ เจอที่วังน้ำเขียว เพิ่งคบกันไม่กี่เดือน”  
บีลากเสียง........”อ้อออออ....เราคบกับบีมา 7 -8 เดือนแล้ว เลิกยุ่งกับบีซะ”
“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ เสียใจจริงๆ ถ้าเรารู้ ว่าเค้ามีเมียแล้ว เราคงไม่ยุ่งกับเค้าขอโทษจริงๆค่ะ”
“อืม ค่ะ จะคุยกับมันมั้ยล่ะ มันอยู่ข้างๆ เนี่ย” ..... “เอ่อ...ไม่หละค่ะ เราไม่มีอะไร จะพูดกับเค้าอีก”
เสียงกุกกักๆๆ เหมือนทะเลาะกันอยู่ปลายสาย ......
เสียงบีพูด “เดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะ บีขอเก็บของก่อน”....เราเงียบ......ตรู๊ดๆๆๆๆๆ

เราช็อคนิดนึงค่ะ แต่ยังมีสติ น้องที่ทำงาน จับมือไว้ รู้เลย ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องเล่า นางคงเข้าใจ น้ำตาซึมค่ะ ยังไม่ถึงกับร่วง
ในใจแป้วๆ คิดว่า .....นี่ชั้นโดนหลอกฟันฟรีหรือนี่.........T^T บ้าจริง!!!

3 วันค่ะ ....... 3 วันเต็มๆ ที่บีหายไป เราถอดใจแล้วค่ะ ยังไงก็คงต้องเลิกสินะ เค้ามีเจ้าของแล้ว  
เราไปนอนค้างบ้านเพื่อน ตอนนั้น อยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ น้ำตาจะแตก และแล้ว โทรศัพท์ก็ดังขึ้น !!! เบอร์บีค่ะ!!!

“ฮัลโหล.......ฟ้า” สูดหายใจลึกๆ ทำเสียงให้ไม่สั่น “อืมม..ค่ะ”
“บี...ขอโทษนะ”......เราเงียบ “บี...ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี......”
“มีอะไร ก็พูดมาค่ะ” ทำเสียงไม่โกรธนะ นิ่งๆ “คือ บี ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกฟ้านะ ...... บี กำลังจะเลิกกับเค้า ....”
เราสวนเบาๆ “แต่ยังไม่ได้เลิก......ฟ้าเป็นมือที่สามสินะ”
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ บีมีปัญหากับเค้า ตั้งแต่ก่อนที่จะเจอกับฟ้าแล้ว เค้าคุยกับผู้ชาย หลายคน เค้าไม่ได้มีบีคนเดียว
แต่บีไม่อยากดึงฟ้าเข้ามาเกี่ยว มันเป็นปัญหาระหว่างบี กับเค้า พี่ๆ(ที่ร่วมงานด้วยกัน) บี ก็รู้นิสัยเค้า
บีจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย  ให้เวลาบีนะ”

เท่านั้นแหละค่ะ เกมส์พลิก!!! เราเข้าข้างเค้าแล้วยังสงสารเค้าอีก
“ค่ะ ฟ้าเข้าใจ ไม่เป็นไรนะ เรื่องทุกอย่าง ฟ้าไม่โกรธ เอาเป็นว่า ฟ้าเคารพการตัดสินใจของบีนะ
บีจะตัดสินใจยังไงก็ตาม ฟ้ายอมรับมัน” มาถึงตอนนี้ น้ำตาไหลแล้วค่ะ
ไม่ได้อยากเป็นนะ นางเอกอ่ะ ไม่ได้อยากเสียไป แต่ก็ไม่อยากไปแย่งชิงกับใครเหมือนกัน...

ตอนนั้น สับสนมากค่ะ เค้าโทรมาหาทุกวันๆ แล้วก็บอกเราว่า เค้าเลิกกับดีแล้ว แต่หลังจากนั้น ดี ก็ยังโทรมาหาเราอีกเป็นพักๆ
โทรมาด่า เราก็ฟัง  ถึงแม้เค้าจะไม่ได้มีบีคนเดียว แต่เค้าก็มาก่อนเรา เราคิด ยังไง เราก็ผิดอยู่ดี บีบอกเราว่า ขอให้เราอดทน

เราจะไปซื้อของ กับบี เลยแวะเข้าไปบ้านบีก่อน บีให้เรารอในบ้าน บอกว่าจะออกไปเติมเงินเซเว่น ออกไปประมาณ 5 นาที
เบอร์บี ก็โทรเข้ามา “ฮัลโหล...บี ว่างายยยย” เสียงดีดังขึ้น “นี่เธอยังไม่เลิกยุ่งกับ...ชั้นอีกหรอ หน้าด้านมากนะ บอกแล้วใช่มั้ย บลาๆๆๆ”
เราตัวชาค่ะ นั่งฟังเค้าด่า ซักพัก ได้ยินเสียงบีดังมาจากข้างหลัง ... เอาโทรศัพท์บีมาๆๆ แล้วเงียบไป ดีก็ด่าเราต่อ
แป๊บเดียว 2-3 นาที เราได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์บีจอดหน้าบ้าน เปิดประตูตรงมาหาเรา(นึกสงสัยอยู่ในใจ ว่าทำไมถึงเร็วขนาดนี้ แสดงว่าใกล้มาก)
บี ดึงโทรศัพท์จากเราไป แล้วกดวาง ถามว่า นั่งฟังเค้าด่าอยู่ทำไม เงยหน้าไปมอง บีเลือดกบปากกลับมา น่าจะถูกดีทำร้ายมา
เราก็เช็ดเลือดให้ เค้าร้องไห้ แล้วบอกว่า ฟ้าอดทนอีกหน่อยนะ อย่าทิ้งบีไปไหนนะ... เราก็ใจอ่อนอีกตามเคย

เวลาเดียวกัน ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ แอบดูคลิปในโทรศัพท์ มีคลิปที่ถ่ายตอนฝนตกเหมือนถ่ายมาจากห้องไหนซักที่นึง
เราก็ดูจากวิวที่ถ่าย แล้วเริ่มสังเกตรอบๆ บ้านบี รัศมี ซัก 1 กม ว่าที่ไหน มีวิวประมาณนี้ ไม่กี่วันก็ได้คำตอบ

มีตึกๆ นึง เป็นอพาร์ทเม้นท์ ซอยติดกับบ้านบี ซึ่งบีพาเราขับรถผ่านแทบทุกวัน โห มันใกล้แค่ปลายจมูก แต่เรากลับไม่ฉุกคิดเลย อึ้งมากๆ เค้าเช่าห้อง อยู่ด้วยกัน ซอยข้างบ้านเค้านี่เอง....
แต่เมื่อมันผ่านไปแล้ว เราก็ไม่อยากรื้อฟื้น

เวลาผ่านไปไม่นาน บีเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่เคยเห็นแก่ตัวกับเรา ไม่ค่อยห่วงเรา เค้าก็ห่วงใยเรามากขึ้น
เริ่มเลี้ยงข้าว เริ่มทำกับข้าวให้กิน ส่วนดีค่อยๆ หายไปจากชีวิต เราแอบสืบรู้มาว่า เค้าไปคบหากับวิศวกร
เค้าได้ดีไปแล้ว เราค่อยรู้สึกดีขึ้น โล่งใจขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกผิดน้อยลงเลย ..

แต่พอทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ก็มีเรื่องใหม่เข้ามาแทรก จากผู้หญิงที่เค้าคุยด้วยใน บีบี ที่เราบอกว่าเค้าดูสนิทกันเป็นพิเศษ
เริ่มจากตอนที่เราไปดูคอนเสิร์ตกับบี บีดูลุกลี้ลุกลน คุยบีบีตลอดเวลา ดูหงุดหงิด จนเราเอ่ยปากถามว่ามีอะไรมั้ย
ทะเลาะกับใครหรือเปล่า เค้าก็บอกว่า ทะเลาะกับคนๆ นึง มันชอบมายุ่งตอแยกับน้องที่สนิทกันมาก (เราขอเรียกว่า น้องนุ่น)
เราเลยแกล้งแหย่ว่า ทำไมล่ะ หึงน้องมันหรอ แล้วเริ่มซักไปซักมา เลยแย็บออกมาว่า แฟนเก่า...............อ้อออ แบบนี้เอง
แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร บีบอกว่า

“คนนี้ บีขอนะ น้องมันไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ น้องมันเป็นเด็กดี บีสงสารน้อง พ่อแม่ เค้าเสียหมดแล้ว ตอนก่อนแม่เค้าจะเสีย แม่เค้าก็ฝากบีไว้ ว่า อย่าทิ้งน้องนะ บีอยากให้ฟ้าเห็นน้องมันเป็นน้องของฟ้าคนนึง”  

“อ้าว แล้วทำไมบีถึงได้เลิกกับน้องเค้าล่ะ” บีตอบ “บีดูแลไม่ไหว น้องมันนิสัยเด็ก คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง”

เราพยายามเข้าใจ หลังจากนั้น เราก็ปล่อยให้เค้าคุยกัน ซึ่งบางที ก็เยอะนะ เค้าคุยแบบว่า คิดถึงกัน แล้วก็บางทีก็มีลงกันลึก
แต่ขอละไว้แล้วกัน

คบกันเกือบปี เราก็ย้ายไปอยู่บ้านบี โดยกลับบ้านอาทิตย์ละ 3-4 วัน เค้าขยันทำมาหากิน จนบางครั้งเรามองว่า
เค้าเห็นเงินสำคัญมากเกินไปด้วยซ้ำ เค้าบอกว่า เค้าอยากให้คนที่เค้ารัก มีความสุข ถ้าเค้ามีเงิน พ่อเค้า และเรา ก็จะมีความสุข
บีดูแลเราดีมาก เค้าเลิกงานมา ตี 1-2 ก็ไปซื้อกับข้าวมาทำให้เรากิน ตอนเช้า บางวันก็ห่อให้ไปทำงานด้วย
ถ้าวันไหนเราเหนื่อย เค้าก็ซักผ้า รีดผ้าให้เรา พับให้เรียบร้อย มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลอด
ถ้าเราอยากได้ หรือจำเป็นต้องใช้อะไร เค้าก็จะหามาให้ ถึงตอนนี้ เราเริ่มมั่นใจมากขึ้น ที่จะลงหลักปักฐาน กับบี
และคุยเรื่องงานแต่งงาน อนาคตของครอบครัว อนาคตของลูก ด้วยกัน...

แต่ระหว่างที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี เราก็ต้องทำใจ คือ .....บีเค้าไม่หยุด เค้ามีกิ๊กเรื่อยๆ พอเราจับได้ก็เลิก ๆ
เดี๋ยวก็มีใหม่ คุยกับผู้หญิงเยอะ ด้วยอาชีพเค้า ทำให้เค้ามีโอกาสเจอคนมากหน้าหลายตา
แต่มันไม่ใช่แค่ปัจจัยภายนอก เป็นเพราะตัวเค้าด้วย ที่ชอบหยอดไปทั่ว บางครั้ง เราจับได้ว่ามีกิ๊ก เราก็โกรธ
เค้าก็ซื้อตุ๊กตามาง้อ แต่ยังไม่ทันง้อเลย เราก็เห็นเค้าไปหยอดแม่ค้าที่ขายตุ๊กตาให้เค้าอีกแต่เค้าไม่รู้ กลายเป็นว่า
ตอนที่เค้าถือตุ๊กตามาง้อ เรานี่ยิ่งโกรธหนักไม่อยากคุยด้วยเลย....แล้วมันก็เป็นแบบนี้มาตลอด


ยังไม่จบนะคะ ยังมีต่อ....นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการถลำลึกลงไปสู่ก้นบึ้งของความโง่เท่านั้นค่ะ ยังโง่ได้มากกว่านี

ปล.แก้ไขค่ะ ขอตัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณแม่เราออกนะคะ เราทราบดีว่าแม่รักและหวังดีกับเราค่ะ แนวคิดของท่านอาจ
หัวโบราณ อาจไม่ถูกใจคนสมัยใหม่นัก แต่ท่านเรักและปรารถนาดีกับเราแน่นอนค่ะ และเราไม่อยากให้ใครมาวิจารณ์ท่าน
ในแง่ที่ไม่ดี ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่