คุณเคยไหม...โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเราๆที่ออกเรือนแล้ว เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่แต่งงานออกจากเรียนปริญญาตรีจบพอดีเลย แฟนเราไปขอเราจากแม่กะป๊าเองเลยนะ นี่เป็นความรู้สึกภูมิใจมากๆ เพราะเค้าขอเรากับป๊ากะแม่เพียงลำพัง หมายถึงไม่มีผู้ใหญ่มาขอให้ เค้าเอ่ยปากขอเราจากพ่อแม่ขอเราเอง ^^ เพื่อ...เราจะได้ออกมาทำงานแล้วก็อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกันก่อนแต่งงานจริงๆ ช่วงนั้นก็ประมาณปีนึงก่อนแต่ง ...หลังจากเราอยู่ด้วยกัน ก็ธรรมดาของชีวิตคู่ที่สุขบ้างทุกข์บ้าง แต่รวมๆเราสุขมากกว่านะที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ดำเนินชีวิตไปพร้อมๆกัน ตื่นและนอนพร้อมๆกัน สำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยในชีวิตมันก็เป็นเรื่องยากนะที่จู่ๆจะมาอยู่กับผู้ชายคนละพ่อคนล่ะแม่ คนละบ้าน คนละการสั่งสอนเลี้ยงดู กระทั่งการกินการอยู่ต่างกันไปหมด เราเป็นลูกสาวคนเล็ก เค้าเป็นลูกชายคนโต นั้นยิ่งยาก...ไม่ใช่เหมือนคำที่โบราณพูดนะที่เค้าบอกว่าดีแล้ว ลูกสาวคนเล็กะลูกชายคนโตเป็นแฟนกันจะรับกันได้ แต่ความคิดเรายิ่งตรงกันข้าม เราไม่ได้เป็นลูกสาวคนเล็กที่โดนเอาแต่ใจ และเค้าก็ไม่ใช่ลูกชายคนโตที่จะตามใจน้อง ทุกอย่างจึงเริ่มขึ้นหลังแต่งงาน........#
เราไม่ได้ฮันนี่มูนอะไรกันหรอก เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไร เงินเดือนเราก็แค่หมื่นต้นๆแต่แฟนตอนนั้นประมาณ สามสี่หมื่นกว่าๆ แต่ถึงเราจะไม่ได้เงินเดือนแพงอะไรแต่ก็ไม่มีหนี้อะไรเลย แต่เค้ามีภาระเยอะเลยทีเดียว แต่เราไม่เคยคิดนะ คิดแต่ว่าเราจะช่วยเค้าใช้ให้หมดเลย ถามว่ารู้ไหมว่าเค้าสภาพเงินหรือภาระเป็นยังไง รู้ค่ะ เพราะเราอยู่กันมาก่อนแต่งเป็นปี เขาไม่เคยโกหกหรอก แต่เรามีหนี้ร่วมกันก้อนนึงนะ หนี้แต่งงานน่ะ เราไม่เคยกวนฝั่งทางแฟนหรอก เราตกลงจะออกให้ทุกอย่างกระทั่งค่าเดินทางมางานแต่งงานบ้านเรา มีแต่ทางบ้านเราออกช่วย แต่บ้านเรา เราก็ให้สินสอดแม่ไปหมดเลย แต่แม่ก็คืนมานะครึ่งนึง นี่คือ หนี้ร่วมซึ่งเป็นหนี้ก้อนแรกของเราเลย แน่นอนล่ะตั้งแต่ทำงานมาเราไม่เคยได้ให้พ่อแม่เราเลย จะเอาจากไหนให้ล่ะ หนี้ท่วมหัว....แต่ไม่เคยขอนะถึงจะเป็นลูกสาวคนเล็กก็ตาม เขาให้ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งน้องๆเราก็ไม่เคยบ่นหรอก แอบมีพูดบ้างเวลาที่ไม่มีจริงๆเขาก็ไม่ให้ถ้าเราเดือดร้อน เคยไม่ได้กินข้าวเลยนะทั้งวัน แต่ก็ทนได้เพราะว่ามีความสุขดี จนกระทั่งครั้งนึงเราทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะอะไรอ่ะหรอ??เพราะเราเป็นผู้หญิงเราอยากได้เงินไปชอปปิ้งซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์บ้าง เดือนล่ะห้าร้อยเดือนล่ะพันก็ได้ เราได้เงินไปใช้วันละร้อยส่วนมากบางวันก็ไม่ถึงหรอกแล้วแต่มี แต่พอเราพูดขอเงินส่วนต่างจากเงินเดือนเราก็จะทะเลาะขึ้นมาทันที ส่วนต่างคือ เงินที่นอกเหนือจากเงินเดือนหลัก อาจจะเป็นทริปหรือโอทีที่เราทำ เค้าก็จะบ่นว่า""""ทำไมต้องเอาไปด้วยอยากได้อะไรก็ได้ ทำไมต้องหาวิธีแบ่งเงินอย่างเดียว"""" เราก็บอกว่าไม่อยากขอ อยากได้มีโอกาสไปซื้อเอง เลือกเองคนเดียว เพราะเวลาไปกับเค้า ไม่เคยได้ซื้อหรอก เค้าจะพูดว่าจำเป็นไหม แล้วจะตบท้ายด้วยว่าเราสวยแล้วไม่ต้องแต่งอะไรหรอก(แต่ผู้หญิงอย่างเรามีใครไหมที่จะไม่อยากแต่งตัวสวยๆยิ่งแต่งงานแล้วยิ่งต้องสวย ไม่งั้นเค้าคงจะเบื่อแล้วก็มองคนอื่นที่สวยกว่าเรา จากความคิดของเรานะ) จากคำพูดที่เค้าว่าเราว่าทำไมต้องแบ่งเงิน เราได้ตอบกลับไปว่าอยากได้บ้างอยากถือเงินบ้าง แล้วเราก็พูดประมาณว่าเงินเดือนก็ให้หมดแล้วขอส่วนต่างไม่ได้หรอ เค้าเลยตอบกลับมาว่า.....งั้นก็แบ่งเงินกันไปเลย จ่ายค่าหอคนละครึ่ง จ่ายหนี้ทั้งหมดที่เป็นหนี้แต่งงานด้วย! แค่ใช้หนี้เงินเดือนเธอก็ไม่เหลือแล้ว ที่เป็นหนี้เนี่ยก็เพราะแต่งงานนี่แหละ...พอถึงจุดๆนี้ น้ำตามาจากไหนหนักหนาไม่รู้ ก็เสียใจมากถึงมากที่สุด จุกจนกลืนน้ำลายไม่ลง คิดได้เลยว่าเค้าไม่ได้อยากแต่งงานกับเราเลย แค่คงอยากรับผิดชอบ เพราะเราไม่เคยผ่านผู้ชายหรือเปล่า เสียใจสุดๆค่ะ พึงรู้ว่าคนมีแฟนต้องเจ็บขนาดนี้ วางตัวไม่ถูก แต่ไม่โวยวาย ไม่ทำลายของ หรือลงไม้ลงมือ เราไม่ชอบความรุนแรง ได้แต่ร้องไห้บ้าบออยู่แบบนั้น แล้วเราก็คิดขึ้นได้ว่า เงินสินสอดนั้นที่เค้าบอกให้เราใช้หนี้เนี่ยคือเงินที่เราให้แม่ไป แม่ก้แม่เรา ชั่งมัน...ดีซะอีกจะได้คิดซะว่าเงินที่เสียไปคือเงินที่ทดแทนบุญคุณแม่กับป๊า ไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร ชีวิตเราคือของเรา แต่สรุปเราก็เป็นคนง้ออีกนะ ความรู้สึกคือไม่อยากอยู่แบบอึดอัดชอบเคลียร์ให้โล่งๆไปเลย พออารมณ์ดีเลยคุยในคืนนั้นเลย แล้วเค้าก็ขอโทษ...แล้วก็จบไป แฟนเราเป็นคนที่มีบุคคลิกที่เหมือนเป็นหัวหน้าเอาแต่ใจ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดมาก ไม่เชื่อคนอื่นถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่เชื่อ ส่วนคำพูด บอกเลยถนอมน้ำใจไม่เคยมีหรอก ถ้าพลาดคือด่าซ้ำ เสียใจเพราะคำพูดเป็นร้อยๆครั้ง เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องร้องไห้แทบทุกครั้ง เหนื่อยนะเบื่อด้วย อยากเข้มแข็ง เค้าก็ปลอบเราว่าอยากคิดทุกคำที่พี่พูด อยากรู้นะว่ามีผู้หญิงคนไหนที่ไม่คิดถึงคำพูดของผู้ชายที่เรารักได้บ้าง ...ล่าสุดเราไม่สบายบ่อยมาก อาจเป็นเพราะเราทำงานในห้องที่มีอากาศเย็นตลอดเวลาเพราะต้องดูสินค้า จนออ่นแอมาก 3 เดือนลาป่วย 6 วัน อยากจะบ้าตาย...แต่ไม่อยากบ้าเท่าคำพูดเค้า ยิ่งเห็นเค้ามีความสุขกับการที่คุยกับคนอื่นหัวเราะเวลาคุยโทรศัพท์ พูดดีคุยสนุกสนาน กับคนอื่น แต่กับเราเค้าพูดไม่ดี ด่าเลยแหละ

เอ้ยบ้าง สากกะเบือบ้าง เยอะแยะมากมาย ทั้งที่เคยขอไว้ว่าอย่าพูดไม่ดีต่อกันแต่ดีที่ไม่พูดกุ งั้นเราคงลา แต่ถ้าเราบ่นๆเล็กๆน้อยๆเค้าจะปรี๊ดด่าสวนจนเราสะอึกไปเลย ครั้งนี้เราไม่ร้องนะ อ่านหนังสืออาบน้ำแล้วนอน ถามว่าหลับสนิทไหม หลับได้เพราะเพลียจากความไม่สบาย เวลาเค้าป่วยเราดูแลทุกอย่างนะ เช็ดตัวให้ ทำกับข้าว หายา ทุกอย่างที่ทำได้...แต่เราป่วย เราก็ทำเองทุกอย่างเหมือนเดิม เค้าบอกเราว่าไม่ได้ป่วยขนาดเดินไม่ได้สักหน่อย ทำไมทำเองไม่ได้ ...พอเราทำกับข้าวให้ เราก็บอกให้ช่วย เค้าไม่ช่วยเราก็ทำเอง ทั้งที่เค้าสัญญาว่าจะทำให้กินในครั้งนั้น พอเราพูดเล่นๆว่าไหนใครบอกจะให้กิน เค้าก็พูดว่าจะบ่นอะไรหนักหนา ไม่ทำก็ไม่ต้องทำ จะบ่นทำแป๊ะอะไร ...เราเลยลุกเลยไม่แรงจะกินหรอก คงกลืนไม่ลง เค้าเลยทำต่อแล้วบ่นหนักกว่าเราเป็นสองเท่า เราก็นิ่ง จากเราเป็นคนอารณ์ร้อนเราต้องกลายเป็นคนที่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆแล้วก็ยอมทุกอย่าง เราจะยอมขอโทษก่อนทุกครั้งเพื่อรักษาความรู้สึกดีๆของเขาไว้ ทั้งที่เราควาทรู้สึกเสียมาหลายครั้งนับไม่ถ้วน ...เขามีคำพูดนึงนะ ที่เราสงสัยแล้วก็เป็นคำถามเพื่อนๆที่แต่งงานแล้ว เขาบอกเราว่าถ้าไม่ทำงานบ้าน ทำกับข้าวทุกอย่าง เค้า
ไม่รู้ว่าจะแต่งงานกับเรามาเพื่ออะไร...
สำหรับเราเราแต่งกับเค้า เพราะเรารักเค้าอยากดูแลเค้า อยากมีที่ปรึกษาชีวิตครอบครัวไปด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน ไม่เคยหวังอะไรจากเค้าขอแค่น้ำใจของสามีที่จะถนอมใจเมียบ้าง...
แล้วผู้ชายเค้าแต่งงานกับผู้หญิงเพราะอะไรหรอ??? ยินดีกับชีวิตคู่ของพวกคุณนะถ้าแต่งด้วยความรักบริสุทธิ์ๆเหมือนๆกัน มีความคิดยังไงกันบ้างเราอยากรู้...
คุณแต่งงานกันเพราะอะไร ?? ช่วยบอกเราที
เราไม่ได้ฮันนี่มูนอะไรกันหรอก เพราะไม่ได้ร่ำรวยอะไร เงินเดือนเราก็แค่หมื่นต้นๆแต่แฟนตอนนั้นประมาณ สามสี่หมื่นกว่าๆ แต่ถึงเราจะไม่ได้เงินเดือนแพงอะไรแต่ก็ไม่มีหนี้อะไรเลย แต่เค้ามีภาระเยอะเลยทีเดียว แต่เราไม่เคยคิดนะ คิดแต่ว่าเราจะช่วยเค้าใช้ให้หมดเลย ถามว่ารู้ไหมว่าเค้าสภาพเงินหรือภาระเป็นยังไง รู้ค่ะ เพราะเราอยู่กันมาก่อนแต่งเป็นปี เขาไม่เคยโกหกหรอก แต่เรามีหนี้ร่วมกันก้อนนึงนะ หนี้แต่งงานน่ะ เราไม่เคยกวนฝั่งทางแฟนหรอก เราตกลงจะออกให้ทุกอย่างกระทั่งค่าเดินทางมางานแต่งงานบ้านเรา มีแต่ทางบ้านเราออกช่วย แต่บ้านเรา เราก็ให้สินสอดแม่ไปหมดเลย แต่แม่ก็คืนมานะครึ่งนึง นี่คือ หนี้ร่วมซึ่งเป็นหนี้ก้อนแรกของเราเลย แน่นอนล่ะตั้งแต่ทำงานมาเราไม่เคยได้ให้พ่อแม่เราเลย จะเอาจากไหนให้ล่ะ หนี้ท่วมหัว....แต่ไม่เคยขอนะถึงจะเป็นลูกสาวคนเล็กก็ตาม เขาให้ทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งน้องๆเราก็ไม่เคยบ่นหรอก แอบมีพูดบ้างเวลาที่ไม่มีจริงๆเขาก็ไม่ให้ถ้าเราเดือดร้อน เคยไม่ได้กินข้าวเลยนะทั้งวัน แต่ก็ทนได้เพราะว่ามีความสุขดี จนกระทั่งครั้งนึงเราทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะอะไรอ่ะหรอ??เพราะเราเป็นผู้หญิงเราอยากได้เงินไปชอปปิ้งซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์บ้าง เดือนล่ะห้าร้อยเดือนล่ะพันก็ได้ เราได้เงินไปใช้วันละร้อยส่วนมากบางวันก็ไม่ถึงหรอกแล้วแต่มี แต่พอเราพูดขอเงินส่วนต่างจากเงินเดือนเราก็จะทะเลาะขึ้นมาทันที ส่วนต่างคือ เงินที่นอกเหนือจากเงินเดือนหลัก อาจจะเป็นทริปหรือโอทีที่เราทำ เค้าก็จะบ่นว่า""""ทำไมต้องเอาไปด้วยอยากได้อะไรก็ได้ ทำไมต้องหาวิธีแบ่งเงินอย่างเดียว"""" เราก็บอกว่าไม่อยากขอ อยากได้มีโอกาสไปซื้อเอง เลือกเองคนเดียว เพราะเวลาไปกับเค้า ไม่เคยได้ซื้อหรอก เค้าจะพูดว่าจำเป็นไหม แล้วจะตบท้ายด้วยว่าเราสวยแล้วไม่ต้องแต่งอะไรหรอก(แต่ผู้หญิงอย่างเรามีใครไหมที่จะไม่อยากแต่งตัวสวยๆยิ่งแต่งงานแล้วยิ่งต้องสวย ไม่งั้นเค้าคงจะเบื่อแล้วก็มองคนอื่นที่สวยกว่าเรา จากความคิดของเรานะ) จากคำพูดที่เค้าว่าเราว่าทำไมต้องแบ่งเงิน เราได้ตอบกลับไปว่าอยากได้บ้างอยากถือเงินบ้าง แล้วเราก็พูดประมาณว่าเงินเดือนก็ให้หมดแล้วขอส่วนต่างไม่ได้หรอ เค้าเลยตอบกลับมาว่า.....งั้นก็แบ่งเงินกันไปเลย จ่ายค่าหอคนละครึ่ง จ่ายหนี้ทั้งหมดที่เป็นหนี้แต่งงานด้วย! แค่ใช้หนี้เงินเดือนเธอก็ไม่เหลือแล้ว ที่เป็นหนี้เนี่ยก็เพราะแต่งงานนี่แหละ...พอถึงจุดๆนี้ น้ำตามาจากไหนหนักหนาไม่รู้ ก็เสียใจมากถึงมากที่สุด จุกจนกลืนน้ำลายไม่ลง คิดได้เลยว่าเค้าไม่ได้อยากแต่งงานกับเราเลย แค่คงอยากรับผิดชอบ เพราะเราไม่เคยผ่านผู้ชายหรือเปล่า เสียใจสุดๆค่ะ พึงรู้ว่าคนมีแฟนต้องเจ็บขนาดนี้ วางตัวไม่ถูก แต่ไม่โวยวาย ไม่ทำลายของ หรือลงไม้ลงมือ เราไม่ชอบความรุนแรง ได้แต่ร้องไห้บ้าบออยู่แบบนั้น แล้วเราก็คิดขึ้นได้ว่า เงินสินสอดนั้นที่เค้าบอกให้เราใช้หนี้เนี่ยคือเงินที่เราให้แม่ไป แม่ก้แม่เรา ชั่งมัน...ดีซะอีกจะได้คิดซะว่าเงินที่เสียไปคือเงินที่ทดแทนบุญคุณแม่กับป๊า ไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร ชีวิตเราคือของเรา แต่สรุปเราก็เป็นคนง้ออีกนะ ความรู้สึกคือไม่อยากอยู่แบบอึดอัดชอบเคลียร์ให้โล่งๆไปเลย พออารมณ์ดีเลยคุยในคืนนั้นเลย แล้วเค้าก็ขอโทษ...แล้วก็จบไป แฟนเราเป็นคนที่มีบุคคลิกที่เหมือนเป็นหัวหน้าเอาแต่ใจ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดมาก ไม่เชื่อคนอื่นถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่เชื่อ ส่วนคำพูด บอกเลยถนอมน้ำใจไม่เคยมีหรอก ถ้าพลาดคือด่าซ้ำ เสียใจเพราะคำพูดเป็นร้อยๆครั้ง เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องร้องไห้แทบทุกครั้ง เหนื่อยนะเบื่อด้วย อยากเข้มแข็ง เค้าก็ปลอบเราว่าอยากคิดทุกคำที่พี่พูด อยากรู้นะว่ามีผู้หญิงคนไหนที่ไม่คิดถึงคำพูดของผู้ชายที่เรารักได้บ้าง ...ล่าสุดเราไม่สบายบ่อยมาก อาจเป็นเพราะเราทำงานในห้องที่มีอากาศเย็นตลอดเวลาเพราะต้องดูสินค้า จนออ่นแอมาก 3 เดือนลาป่วย 6 วัน อยากจะบ้าตาย...แต่ไม่อยากบ้าเท่าคำพูดเค้า ยิ่งเห็นเค้ามีความสุขกับการที่คุยกับคนอื่นหัวเราะเวลาคุยโทรศัพท์ พูดดีคุยสนุกสนาน กับคนอื่น แต่กับเราเค้าพูดไม่ดี ด่าเลยแหละ