US BOX OFFICE March 27-29, 2015
(แปล/เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
แอนิเมชันจากบ้านดรีมเวิร์คส์ Home กลายเป็นงานฮิตในสัปดาห์นี้ เมื่อเข้าวินอันดับ 1 ด้วยรายได้ 52.1 ล้านเหรียญ ขณะที่หนังวิลล์ ฟาร์เรลล์/เควิน ฮาร์ท Get Hard ก็ทำได้ดี แต่ไม่มากพอเลยหยุดอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนหนังสยองอินดี ที่ได้รับคำชมมากมาย It Follows เปิดตัวในวงกว้างได้งดงามเช่นกัน
ในกลุ่มหนังครอบครัวที่ออกฉายล่าสุด รายได้เปิดตัว 52.1 ล้านเหรียญของ Home อยู่ในระดับเดียวกับ Big Hero 6 (56.2 ล้านเหรียญ) และ The SpongeBob Movie: Sponge Out of Water (55.4 ล้านเหรียญ) และรั้งอันดับ 3 หนังไม่ใช่ภาคต่อเปิดตัวมากที่สุดของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชัน เป็นรองแค่ Kung Fu Panda (60.2 ล้านเหรียญ) และ Monsters Vs. Aliens (59.3 ล้านเหรียญ) แล้วยังเป็นการเปิดตัวที่ดีที่สุดของแอนิเมชันดรีมเวิร์คส์ นับตั้งแต่โยกมาให้ฟ็อกซ์จัดจำหน่าย ตอนต้นปี 2013 เหนือกว่า How to Train Your Dragon 2 ซึ่งทำสถิติเอาไว้ 49.5 ล้านเหรียญเมื่อเดือนมิถุนายนปีกลาย
ถ้า Home ทำเงินได้ในแบบเดียวกับ Monsters vs. Aliens และ Mr. Peabody & Sherman หนังน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 180 ล้านเหรียญ และคะแนน A จากซีนีมา สกอร์ บวกกับการที่ไม่มีคู่แข่งโดยตรงเลยในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หนังน่าจะยืนระยะได้ดีกว่าที่คาดๆ กันไว้ด้วยซ้ำ และหากมองถึงหนังครอบครัวที่ออกฉายในปีนี้ จะเห็นว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหนังแนวนี้ โดยในปีที่ผ่านมามีหนังครอบครัวแค่ 4 เรื่องที่ทำเงินเกิน 150 ล้านเหรียญในอเมริกา แต่ปีนี้ The SpongeBob Movie: Sponge Out of Water และ Cinderella ต่างก็ทำเงินได้ในระดับนั้นแล้ว และหากมองไปที่กำหนดฉายในอนาคต ถือว่ามีโอกาสมากๆ ที่ Inside Out และ Minions, The Peanuts Movie และ The Good Dinosaur จะทำรายได้ในระดับเดียวกัน
เมื่อ Home ครองอันดับ 1 แบบสบายๆ Get Hard ที่เปิดตัว 3,175 โรงก็ไม่มีทางอื่นที่ดีที่สุดนอกจากอันดับ 2 หนังเบาสมองเรท-อาร์ทำเงินได้ 33.8 ล้านเหรียญ ครองอันดับ 3 หนังคนแสดงของวิลล์ ฟาร์เรลล์ทำเงินมากที่สุด และทำเงินมากสุดอันดับ 2 ในกลุ่มของหนังที่เควิน ฮาร์ทเป็นดารานำรองจาก Ride Along โดย Get Hard ได้คนดู 54% เป็นชาย และ 61% อายุ 25 ปีขึ้นไป แต่เสียงบอกปากต่อปากน่าจะก้ำกึ่งเมื่อได้คะแนนแค่ B จากซีนีมาสกอร์ คำวิจารณ์ก็ออกมาแย่ และเมื่อเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง Fast & Furious 7 หนังน่าจะหล่นอันดับอย่างรวดเร็ว และทำให้โอกาสทำเงินถึงระดับร้อยล้านยังน่าสงสัย
The Divergent Series: Insurgent รายได้ตก 59% ทำเงินอีก 21.5 ล้านเหรียญ โดยหนังภาคแรกทำได้ดีกว่า เมื่อรายได้ตกที่ 53% และทำเงิน 25.6 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำรายได้รวมไปแล้ว 85.9 ล้านเหรียญ โดยน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 130 - 140 ล้านเหรียญ ขณะที่ Cinderella ซึ่งฉายมาเป็นสัปดาห์ที่สามแล้ว รายได้ตก 51% ทำเงิน 17 ล้านเหรียญ และกับคำวิจารณ์ที่ดี ปากต่อปากที่ใช้ได้ หนังน่าจะยืนระยะไปได้อีก แต่อย่างน้อยๆ ในสัปดาห์ Cinderella ก็จะกลายเป็นหนังปี 2015 ทำเงินสูงสุดแน่ๆ .
หนังอินดีสยองขวัญ It Follows เพิ่มโรงฉายเป็น 1,218 โรง ทำเงินมากพอจะขึ้นมาถึงอันดับ 5 ด้วยรายได้ 3.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีมาก เมื่อมองดูว่าหนังได้รับเสียงบอกปากต่อปากในวงจำกัดมากๆ แล้วก็พึ่งพาแค่การทำตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีคำวิจารณ์ที่ดีเสริม ในสัปดาห์หน้ามีแววว่าหนังจะเพิ่มโรงออกไปอีก
แม้จะเปิดฉายแค่ 4 โรงในนิว ยอร์ค และแอลเอ แต่หนังของผู้เขียนบท/กำกับ โนอาห์ บอมบัค While We're Young ก็ทำได้รายได้ถึง 227,688 เหรียญ คิดเป็น 56,922 ต่อโรงซึ่งดีมากๆ และดีกว่าหนังทุกเรื่องของบอมบัค ที่หนังเรื่องก่อน Frances Ha ทำสถิติเอาไว้ 34,350 เหรียญจากการเปิดตัวฉายในนิว ยอร์ค/ แอลเอ นอกจากนี้ยังเป็นรายได้ต่อโรงมากที่สุดอันดับ 2 ของผู้จัดจำหน่าย A24 เป็นรองแค่ Spring Breakers เมื่อปี 2013 ที่ทำสถิติไว้ 87,667 เหรียญ ในสัปดาห์หน้า หนังจะเพิ่มโรงฉายไปในบางตลาด ก่อนจะเปิดตัวทั่วประเทศในวันที่ 10 เมษายน หนังสองเรื่องก่อนของบอมบัค Frances Ha และ Greenberg ต่างทำรายได้ราวๆ 4 ล้านเหรียญ และดูท่าว่า While We're Young น่าจะทำได้ดีกว่า
ในตลาดต่างประเทศ Cinderella คว้าแชมป์ด้วยรายได้ 38.7 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวอันดับ 1 ที่อังกฤษ (5.5 ล้านเหรียญ), ออสเตรเลีย (3.7 ล้านเหรียญ), บราซิล (3.4 ล้านเหรียญ) และสเปน (2.8 ล้านเหรียญ) แล้วก็ไปได้สวยที่ฝรั่งเศส (3.7 ล้านเหรียญ) มาถึงวันนี้ หนังทำเงินไปแล้วถึง 186.2 ล้านเหรียญในตลาดต่างประเทศ และยังไม่เปิดตัวในญี่ปุ่น ที่เป็นตลาดสำคัญของดิสนีย์ ซึ่งหนังสามเรื่องล่าสุด Frozen, Maleficent และ Big Hero 6 ล้วนฮิตระเบิด หากมองว่า Cinderella น่าจะทำได้ไม่แพ้กัน หนังก็น่าจะทำรายได้นอกอเมริกาได้ถึง 300 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
ฉายอยู่ 81 ตลาด The Divergent Series: Insurgent ได้เงินมาอีก 29.9 ล้านเหรียญ โดยมีตลาดหลักใหม่ๆ แค่ที่เกาหลีใต้ ซึ่งเปิดตัวได้พอประมาณ 1.5 ล้านเหรียญ โดยตลาดที่ทำเงินได้มากสุดในสัปดาห์นี้คือ ฝรั่งเศส 3.1 ล้านเหรียญ และทำให้รายได้รวมที่นี่ทำไปถึง 10.2 ล้านเหรียญ ตอนนี้ Insurgent ทำเงินนอกอเมริกาไปแล้ว 93.7 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวที่สเปนในสัปดาห์หน้า
Kingsman: The Secret Service ทำเงินอีก 25.4 ล้านเหรียญ พาให้รายได้รวมขยับไปที่ 208.3 ล้านเหรียญ โดยรายได้หลักๆ มาจากจีน ที่หนังทำเงินเปิดตัวถึง 20.2 ล้านเหรียญ ท้ายที่สุดแล้วหนังน่าจะทำเงินราวๆ 250 ล้านเหรียญเมื่อปิดโปรแกรม
Home ฉายใน 63 ตลาด ทำเงินได้ 23.4 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้ดีที่เม็กซิโก 3 (ล้านเหรียญ) แต่ไปไม่สวยในเยอรมันนีกับอิตาลี ที่เปิดตัวแค่ล้านเดียว สำหรับตลาดที่หนังยืนระยะฉายอยู่ มีที่อังกฤษที่ทำได้ดี (3.7 ล้านเหรียญ) และรัสเซีย (3.4 ล้านเหรียญ) โดยมี 10 ตลาดที่หนังทำเงินติดห้าอันดับแรก ขณะที่ Get Hard ที่เปิดฉายใน 9 ตลาดพร้อมอเมริกา ทำเงินไป 4.6 ล้านเหรียญโดยทำเงินได้ดีที่อังกฤษ (2 ล้านเหรียญ) และออสเตรเลีย (1.35 ล้านเหรียญ)
อ่านแล้วชอบ กดไลค์ Like ติดตามเพจสะเด่าส์ ได้ที่
https://www.facebook.com/Sadaos 
Home ขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้ ขณะที่ Get Hard เข้าอันดับ 2
(แปล/เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
แอนิเมชันจากบ้านดรีมเวิร์คส์ Home กลายเป็นงานฮิตในสัปดาห์นี้ เมื่อเข้าวินอันดับ 1 ด้วยรายได้ 52.1 ล้านเหรียญ ขณะที่หนังวิลล์ ฟาร์เรลล์/เควิน ฮาร์ท Get Hard ก็ทำได้ดี แต่ไม่มากพอเลยหยุดอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนหนังสยองอินดี ที่ได้รับคำชมมากมาย It Follows เปิดตัวในวงกว้างได้งดงามเช่นกัน
ในกลุ่มหนังครอบครัวที่ออกฉายล่าสุด รายได้เปิดตัว 52.1 ล้านเหรียญของ Home อยู่ในระดับเดียวกับ Big Hero 6 (56.2 ล้านเหรียญ) และ The SpongeBob Movie: Sponge Out of Water (55.4 ล้านเหรียญ) และรั้งอันดับ 3 หนังไม่ใช่ภาคต่อเปิดตัวมากที่สุดของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชัน เป็นรองแค่ Kung Fu Panda (60.2 ล้านเหรียญ) และ Monsters Vs. Aliens (59.3 ล้านเหรียญ) แล้วยังเป็นการเปิดตัวที่ดีที่สุดของแอนิเมชันดรีมเวิร์คส์ นับตั้งแต่โยกมาให้ฟ็อกซ์จัดจำหน่าย ตอนต้นปี 2013 เหนือกว่า How to Train Your Dragon 2 ซึ่งทำสถิติเอาไว้ 49.5 ล้านเหรียญเมื่อเดือนมิถุนายนปีกลาย
ถ้า Home ทำเงินได้ในแบบเดียวกับ Monsters vs. Aliens และ Mr. Peabody & Sherman หนังน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 180 ล้านเหรียญ และคะแนน A จากซีนีมา สกอร์ บวกกับการที่ไม่มีคู่แข่งโดยตรงเลยในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หนังน่าจะยืนระยะได้ดีกว่าที่คาดๆ กันไว้ด้วยซ้ำ และหากมองถึงหนังครอบครัวที่ออกฉายในปีนี้ จะเห็นว่าเป็นปีที่ดีสำหรับหนังแนวนี้ โดยในปีที่ผ่านมามีหนังครอบครัวแค่ 4 เรื่องที่ทำเงินเกิน 150 ล้านเหรียญในอเมริกา แต่ปีนี้ The SpongeBob Movie: Sponge Out of Water และ Cinderella ต่างก็ทำเงินได้ในระดับนั้นแล้ว และหากมองไปที่กำหนดฉายในอนาคต ถือว่ามีโอกาสมากๆ ที่ Inside Out และ Minions, The Peanuts Movie และ The Good Dinosaur จะทำรายได้ในระดับเดียวกัน
เมื่อ Home ครองอันดับ 1 แบบสบายๆ Get Hard ที่เปิดตัว 3,175 โรงก็ไม่มีทางอื่นที่ดีที่สุดนอกจากอันดับ 2 หนังเบาสมองเรท-อาร์ทำเงินได้ 33.8 ล้านเหรียญ ครองอันดับ 3 หนังคนแสดงของวิลล์ ฟาร์เรลล์ทำเงินมากที่สุด และทำเงินมากสุดอันดับ 2 ในกลุ่มของหนังที่เควิน ฮาร์ทเป็นดารานำรองจาก Ride Along โดย Get Hard ได้คนดู 54% เป็นชาย และ 61% อายุ 25 ปีขึ้นไป แต่เสียงบอกปากต่อปากน่าจะก้ำกึ่งเมื่อได้คะแนนแค่ B จากซีนีมาสกอร์ คำวิจารณ์ก็ออกมาแย่ และเมื่อเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง Fast & Furious 7 หนังน่าจะหล่นอันดับอย่างรวดเร็ว และทำให้โอกาสทำเงินถึงระดับร้อยล้านยังน่าสงสัย
The Divergent Series: Insurgent รายได้ตก 59% ทำเงินอีก 21.5 ล้านเหรียญ โดยหนังภาคแรกทำได้ดีกว่า เมื่อรายได้ตกที่ 53% และทำเงิน 25.6 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำรายได้รวมไปแล้ว 85.9 ล้านเหรียญ โดยน่าจะปิดตัวที่ราวๆ 130 - 140 ล้านเหรียญ ขณะที่ Cinderella ซึ่งฉายมาเป็นสัปดาห์ที่สามแล้ว รายได้ตก 51% ทำเงิน 17 ล้านเหรียญ และกับคำวิจารณ์ที่ดี ปากต่อปากที่ใช้ได้ หนังน่าจะยืนระยะไปได้อีก แต่อย่างน้อยๆ ในสัปดาห์ Cinderella ก็จะกลายเป็นหนังปี 2015 ทำเงินสูงสุดแน่ๆ .
หนังอินดีสยองขวัญ It Follows เพิ่มโรงฉายเป็น 1,218 โรง ทำเงินมากพอจะขึ้นมาถึงอันดับ 5 ด้วยรายได้ 3.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีมาก เมื่อมองดูว่าหนังได้รับเสียงบอกปากต่อปากในวงจำกัดมากๆ แล้วก็พึ่งพาแค่การทำตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีคำวิจารณ์ที่ดีเสริม ในสัปดาห์หน้ามีแววว่าหนังจะเพิ่มโรงออกไปอีก
แม้จะเปิดฉายแค่ 4 โรงในนิว ยอร์ค และแอลเอ แต่หนังของผู้เขียนบท/กำกับ โนอาห์ บอมบัค While We're Young ก็ทำได้รายได้ถึง 227,688 เหรียญ คิดเป็น 56,922 ต่อโรงซึ่งดีมากๆ และดีกว่าหนังทุกเรื่องของบอมบัค ที่หนังเรื่องก่อน Frances Ha ทำสถิติเอาไว้ 34,350 เหรียญจากการเปิดตัวฉายในนิว ยอร์ค/ แอลเอ นอกจากนี้ยังเป็นรายได้ต่อโรงมากที่สุดอันดับ 2 ของผู้จัดจำหน่าย A24 เป็นรองแค่ Spring Breakers เมื่อปี 2013 ที่ทำสถิติไว้ 87,667 เหรียญ ในสัปดาห์หน้า หนังจะเพิ่มโรงฉายไปในบางตลาด ก่อนจะเปิดตัวทั่วประเทศในวันที่ 10 เมษายน หนังสองเรื่องก่อนของบอมบัค Frances Ha และ Greenberg ต่างทำรายได้ราวๆ 4 ล้านเหรียญ และดูท่าว่า While We're Young น่าจะทำได้ดีกว่า
ในตลาดต่างประเทศ Cinderella คว้าแชมป์ด้วยรายได้ 38.7 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวอันดับ 1 ที่อังกฤษ (5.5 ล้านเหรียญ), ออสเตรเลีย (3.7 ล้านเหรียญ), บราซิล (3.4 ล้านเหรียญ) และสเปน (2.8 ล้านเหรียญ) แล้วก็ไปได้สวยที่ฝรั่งเศส (3.7 ล้านเหรียญ) มาถึงวันนี้ หนังทำเงินไปแล้วถึง 186.2 ล้านเหรียญในตลาดต่างประเทศ และยังไม่เปิดตัวในญี่ปุ่น ที่เป็นตลาดสำคัญของดิสนีย์ ซึ่งหนังสามเรื่องล่าสุด Frozen, Maleficent และ Big Hero 6 ล้วนฮิตระเบิด หากมองว่า Cinderella น่าจะทำได้ไม่แพ้กัน หนังก็น่าจะทำรายได้นอกอเมริกาได้ถึง 300 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
ฉายอยู่ 81 ตลาด The Divergent Series: Insurgent ได้เงินมาอีก 29.9 ล้านเหรียญ โดยมีตลาดหลักใหม่ๆ แค่ที่เกาหลีใต้ ซึ่งเปิดตัวได้พอประมาณ 1.5 ล้านเหรียญ โดยตลาดที่ทำเงินได้มากสุดในสัปดาห์นี้คือ ฝรั่งเศส 3.1 ล้านเหรียญ และทำให้รายได้รวมที่นี่ทำไปถึง 10.2 ล้านเหรียญ ตอนนี้ Insurgent ทำเงินนอกอเมริกาไปแล้ว 93.7 ล้านเหรียญ และจะเปิดตัวที่สเปนในสัปดาห์หน้า
Kingsman: The Secret Service ทำเงินอีก 25.4 ล้านเหรียญ พาให้รายได้รวมขยับไปที่ 208.3 ล้านเหรียญ โดยรายได้หลักๆ มาจากจีน ที่หนังทำเงินเปิดตัวถึง 20.2 ล้านเหรียญ ท้ายที่สุดแล้วหนังน่าจะทำเงินราวๆ 250 ล้านเหรียญเมื่อปิดโปรแกรม
Home ฉายใน 63 ตลาด ทำเงินได้ 23.4 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้ดีที่เม็กซิโก 3 (ล้านเหรียญ) แต่ไปไม่สวยในเยอรมันนีกับอิตาลี ที่เปิดตัวแค่ล้านเดียว สำหรับตลาดที่หนังยืนระยะฉายอยู่ มีที่อังกฤษที่ทำได้ดี (3.7 ล้านเหรียญ) และรัสเซีย (3.4 ล้านเหรียญ) โดยมี 10 ตลาดที่หนังทำเงินติดห้าอันดับแรก ขณะที่ Get Hard ที่เปิดฉายใน 9 ตลาดพร้อมอเมริกา ทำเงินไป 4.6 ล้านเหรียญโดยทำเงินได้ดีที่อังกฤษ (2 ล้านเหรียญ) และออสเตรเลีย (1.35 ล้านเหรียญ)
อ่านแล้วชอบ กดไลค์ Like ติดตามเพจสะเด่าส์ ได้ที่ https://www.facebook.com/Sadaos