(แปล/เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
ในสัปดาห์แรกของปี The Hobbit: The Battle of the Five Armies เถลิงแชมป์ประจำสัปดาห์อีกที กลายเป็นแชมป์รายแรกของศักราชใหม่ ขณะที่ The Woman in Black 2: Angel of Death เปิดตัวในอันดับที่ 4 ด้วยรายได้ 15.03 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่ารายได้เปิดตัวภาคแรกแบบจะๆ ส่วนรายได้รวมของหนัง 12 อันดับแรกนั้นอยู่ที่ 134.2 ล้านเหรียญ มากกว่าช่วงเดียวกันของปีกลายถึง 5%
หนังภาคสุดท้ายในชุดThe Hobbit ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ 21.7 ล้านเหรียญ ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อน 47% ตอนนี้หนังฟันรายได้ไปเน้นๆ 220.6 ล้านเหรียญ และน่าจบที่ราวๆ 260 – 270 ล้านเหรียญ
หนังเพลง Into the Woods ยังเกาะแน่นในอันดับ 2 รายได้ตกเพียง 40% ทำรายได้ไป 18.7 ล้านเหรียญ ผ่าน 11 วันหนังทำเงินไปถึง 90.9 ล้านเหรียญ ตามมาด้วยหนังแองเจลินา โจลี กำกับ Unbroken ที่ทำเงินตามมาไม่ห่าง 18.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมอยู่ที่ 87.7 ล้านเหรียญ จากรายได้ที่เห็นๆ กัน หนังทั้งสองเรื่องน่าจะทำเงินได้อย่างน้อยเรื่องละ 120 ล้านเหรียญ
The Woman in Black 2: Angel of Death เปิดตัว 2,602 โรง ทำเงินไป 15.03 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่ารายได้เปิดตัวของภาคแรกที่ทำไว้ 20.9 ล้านหรียญถึง 28% แถมต่ำกว่าหนังเปิดตัวเดือนมกราฯ ปีที่แล้ว Paranormal Activity: The Marked Ones (18.3 ล้านเหรียญ) อีกต่างหาก รายได้ของหนังถึง 51% มาจากวันศุกร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นหนังที่ทำรายได้วันแรกๆ ที่ดีเว่อร์วังมากๆ เรื่องหนึ่ง แล้วถึงรายได้จะน้อยกว่าภาคแรก แต่นี่ก็ถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวที่เยี่ยมมากๆ สำหรับหนังที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมาก แล้วการโปรโมทก็ไม่ได้หวือหวาอะไร หากก็ต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่า ในระยะยาวแล้วหนังไม่น่าจะไปได้ดี แล้วเมื่อย้อนดูหนังสยองเปิดตัวในสัปดาห์แรกของปี ตลอด 3 ปีหลังจะพบว่าแต่ละเรื่องรายได้ร่วงกราวในสัปดาห์ต่อมา ไม่น้อยกว่า 50% ยิ่งได้คะแนนจากซีนีมาสกอร์แค่ C แบบนี้สถาการณ์ยิ่งไม่ดีใหญ่ หนังได้คนดูรุ่นๆ เป็นหลัก (65% อายุต่ำกว่า 25) ท้ายที่สุดแล้วหนังไม่น่ามีชะตากรรมดีกว่าเรื่องอื่นๆ และรายได้คงไปไม่ถึง 30 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ต่ำมากๆ สำหรับหนังที่เปิดตัวมากกว่า 2,500 โรง
อันดับ 5 เป็น Night at the Museum: Secret of the Tomb รายได้ตก 28% ทำเงิน 14.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมเพิ่มเป็น 89.8 ล้านเหรียญ และยังอยู่ในเส้นทางปิดตัวที่มากกว่า 110 ล้านเหรียญ ขณะที่ Annie ทำเงินอีก11.25 ล้านเหรียญตกลงไป 32% รายได้ 17 วันอยู่ที่ 72.5 ล้านเหรียญ
หนัง The Imitation Game ไม่ได้เพิ่มโรงอะไรมากมาย แต่รายได้ก็ตกลงแค่ 2% ทำเงินอีก 7.8 ล้านเหรียญ หนังประวัติของอลัน ทูริงเรื่องนี้ ทำเงินไปแล้ว 30.5 ล้านเหรียญ และหากทำได้แบบที่ The King's Speech ทำเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งในสัปดาห์เดียวกันนี้ ทำเงินไปอีก 7.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 22.9 ล้านเหรียญ บวกกับแรงส่งจากการเข้าชิงรางวัลใหญ่ๆ The Imitation Game มีแววว่าน่าจะทำรายได้ถึงร้อยล้าน
The Gambler รายได้ตก 31% ทำเงินอีก 6.3 ล้านเหรียญ รายได้ 8 วันรวมแล้วเท่ากับ 27.6 ล้านเหรียญ ส่วน Big Eyes ยืนระยะได้ดี รายได้ลดลงแค่ 13% ทำเงินมาอีก 2.6 ล้านเหรียญรายได้รวม 9.9 ล้านเหรียญแล้ว ทางด้าน Selma หนังล่ารางวัลที่เพิ่มโรงอีก 3 แห่ง กลายเป็น 22 โรง ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ 633,173 เหรียญ หนังทำเงินผ่าน 2 ล้านเหรียญไปแล้ว และจะเพิ่มโรงเป็นวงกว้างในสัปดาห์หน้า
American Sniper ยังไม่เพิ่มโรงฉาย มีเพียง4 โรงเท่าเดิม หนังได้เงินอีก 676,909 เหรียญ คิดเป็น 169,227 เหรียญต่อโรง ซึ่งเป็นรายได้เฉลี่ยในสัปดาห์ที่สองที่มากที่สุด สำหรับหนังคนแสดง โดยแชมป์เก่าคือ Moulin Rouge 96,549 เหรียญต่อโรง อาจจะเป็นการสันนิษฐานที่งี่เง่าไปบ้าง หากจะมองถึงรายได้ในวงกว้างด้วยการประเมินจาก 4 โรงฉาย แต่จากที่เห็นหนัง Sniper มีแววที่จะไปได้ดีมากๆ ในระยะยาว โดยหนังจะเปิดตัวในวงกว้าง 16 มกราคมนี้ และน่าจะทำรายได้พอๆ กับ Zero Dark Thirty ที่เปิดตัววงกว้างสัปดาห์แรกที่ 24.4 ล้านเหรียญ แล้วก็มีโอกาสที่จะทำได้ในระดับของ Lone Survivor (37.8 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวแค่ 4 โรง หนังของค่าย เอทะเว็นตีโฟร์ - A Most Violent Year ทำรายได้ 188,000 ล้านเหรียญ คิดเป็น 47,000 เหรียญต่อโรง ซึ่งถือว่าโอเคสำหรับการเปิดฉายในลักษณะนี้ และหากรวมรายได้วันพุธ และพฤหัสฯ หนังทำเงินไปแล้ว 300,000 เหรียญ โดยจะมีการเปิดตัวเพิ่มไปเรื่อยๆ ตลอดเดือนนี้ จนถึงวันที่ 30 มกราคม จึงจะเปิดตัวในวงกว้าง
ในตลาดนอกอเมริกา The Hobbit: The Battle of the Five Armies ยังคว้าแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สี่ โดยทำเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 52.5 ล้านเหรียญ จาก 65 แห่ง รายได้รวมตอนนี้ไปถึง 502.1 ล้านเหรียญแล้ว หนังเปิดตัวที่อาร์เจนตินา 2.1 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังวอร์เนอร์เปิดตัวมากสุดที่นี่ หนังจะเปิดตัวที่จีน 23 มกราคม ซึ่งน่าจะทำให้รายได้นอกอเมริกาทะลุ 700 ล้านเหรียญได้ โดยรายได้รวมทั่วโลกตอนนี้ผ่าน 723 ล้านเหรียญไปแล้ว รั้งอันดับ 5 หนังทำเงินสูงสุดของปี 2014 และสัปดาห์หน้า น่าจะขยับเป็นอันดับ 2 รองจาก Guardians of the Galaxy.
Exodus: Gods and Kings ทำรายได้ 31.4 ล้านเหรียญ โดยหลักๆ มาจากการเปิดตัวที่แข็งแรงในรัสเซีย 8 ล้านเหรียญ รวมไปถึงยืนระยะในอันดับ 1 สำเร็จที่บราซิล 4.5 ล้านเหรียญ หนังทำรายได้รวมอยู่ที่ 141.5 ล้านเหรียญ โดยเหลือตลาดหลักๆ อีก 6 แห่ง ซึ่งก็มีอิตาลีกับญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย ดูแล้วหนังน่าจะผ่าน 200 ล้านเหรียได้ แต่ยากถ้าจะไปถึง 261 ล้านเหรียญที่ Noah ทำไว้
Night at the Museum: Secret of the Tomb ได้เงินมาอีก 25.7 ล้านเหรียญ แถมยังครองอันดับ 1 อีกสัปดาห์ที่เม็กซิโกด้วยรายได้ 4 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวได้ที่บราซิล 3.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 91.2 ล้านเหรียญ โดยเหลือตลาดใหญ่อีก 5 แห่งให้เล่นซึ่งก็รวมถึงจีนด้วย
Penguins of Madagascar ทำรายได้ 23 ล้านเหรียญจาก 43 ตลาด โดยเปิดตัวได้น่าประทับใจที่เกาหลีใต้ 6 ล้านเหรียญ แต่ที่ออสเตรเลียทำได้แค่งั้นๆ3.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาตอนนี้เท่ากับ 192.6 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าน่าพอใจเมื่อเทียบกับแอนิเมชันของดรีมเวิร์คส์ ที่คว่ำอนาถในช่วงหลังๆ โดยชนะ Mr. Peabody & Sherman และน่าจะแซง Turbo กับ Rise of the Guardians ในสัปดาห์หน้า ในอีก 2 เดือนนับจากนี้ หนังจะขยายตลาดไปเรื่อยๆ อีกรวมๆ 14 แห่ง
Big Hero 6 ไปช้าๆ แต่มั่นคงต่อไป เมื่อทำเงินได้อีก 20.2 ล้านเหรียญ โดยที่ญี่ปุ่นรายได้เพิ่มขึ้นถึง 38% และทำเงินที่นี่ไปแล้ว 34.6 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้รวมนอกอเมริกาหนังทำไปแล้ว 167.4 ล้านเหรียญ และมีตลาดใหญ่รออยู่อีก 6 แห่ง
หนัง Seventh Son เปิดตัวนอกอเมริกาก่อนในบ้าน เพิ่มอีกเพียงไม่กี่แห่ง และทำรายได้ 18.6 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ที่รัสเซีย ด้วยรายได้ที่ดี 8.9 ล้านเหรียญ แต่ไปไม่สวยที่สเปน 1.3 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 5 บวกกับรายได้สัปดาห์ที่ผ่านมา หนังทำเงินไปแล้ว 22 ล้านเหรียญ และในสัปดาห์หน้าจะเปิดตัวอีก 9 ตลาด
Taken 3 เปิดตัวในเกาหลีใต้แล้วด้วยรายได้ 8.2 ล้านเหรียญ และ 1.3 ล้านเหรียญในฮ่องกง ซึ่งทำได้ดีกว่าหนัง Taken 2 ทั้งสองแห่ง โดยหนังภาค 2 นั้นทำเงินนอกอเมริกาไปถึง 236 ล้านเหรียญดูแล้วเป็นไปได้ว่า หนังภาคนี้น่าจะทำได้ดีกว่า โดยในสัปดาห์หน้าหนังจะเปิดตัวในอเมริกา พร้อมๆ กับอีก 27 แห่ง แต่หนัง American Sniper ดูจะไปได้ไม่สวยเท่า เมื่อดูจากหนังอย่าง Lone Survivor กับ Zero Dark Thirty ที่ต่างทำรายได้ไม่ถึง 40 ล้านเหรียญนอกอเมริกา แต่อย่างน้อยการเปิดตัวของหนังที่อิตาลี ก็พอแสดงให้เห็นด้านบวกขึ้นมาบ้าง เมื่อทำเงินไปถึง 6.3 ล้านเหรียญจากการเปิดฉายตั้งแต่วันพุธ หนังจะเข้าฉายในอังกฤษ 16 มกราคม วันเดียวกับการเปิดตัววงกว้างที่บ้านเกิด แล้วสัปดาห์ถัดไปก็เป็นออสเตรเลีย
ให้กำลังใจด้วยการกด Like ที่
www.facebook.com/Sadaos
Hobbit ภาค 3 คว้าอันดับ 1 3 สัปดาห์รวด แถมประเดิมแชมป์หนังทำเงินอเมริกา สัปดาห์แรกของปีใหม่
(แปล/เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
ในสัปดาห์แรกของปี The Hobbit: The Battle of the Five Armies เถลิงแชมป์ประจำสัปดาห์อีกที กลายเป็นแชมป์รายแรกของศักราชใหม่ ขณะที่ The Woman in Black 2: Angel of Death เปิดตัวในอันดับที่ 4 ด้วยรายได้ 15.03 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่ารายได้เปิดตัวภาคแรกแบบจะๆ ส่วนรายได้รวมของหนัง 12 อันดับแรกนั้นอยู่ที่ 134.2 ล้านเหรียญ มากกว่าช่วงเดียวกันของปีกลายถึง 5%
หนังภาคสุดท้ายในชุดThe Hobbit ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ 21.7 ล้านเหรียญ ซึ่งตกจากสัปดาห์ก่อน 47% ตอนนี้หนังฟันรายได้ไปเน้นๆ 220.6 ล้านเหรียญ และน่าจบที่ราวๆ 260 – 270 ล้านเหรียญ
หนังเพลง Into the Woods ยังเกาะแน่นในอันดับ 2 รายได้ตกเพียง 40% ทำรายได้ไป 18.7 ล้านเหรียญ ผ่าน 11 วันหนังทำเงินไปถึง 90.9 ล้านเหรียญ ตามมาด้วยหนังแองเจลินา โจลี กำกับ Unbroken ที่ทำเงินตามมาไม่ห่าง 18.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมอยู่ที่ 87.7 ล้านเหรียญ จากรายได้ที่เห็นๆ กัน หนังทั้งสองเรื่องน่าจะทำเงินได้อย่างน้อยเรื่องละ 120 ล้านเหรียญ
The Woman in Black 2: Angel of Death เปิดตัว 2,602 โรง ทำเงินไป 15.03 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่ารายได้เปิดตัวของภาคแรกที่ทำไว้ 20.9 ล้านหรียญถึง 28% แถมต่ำกว่าหนังเปิดตัวเดือนมกราฯ ปีที่แล้ว Paranormal Activity: The Marked Ones (18.3 ล้านเหรียญ) อีกต่างหาก รายได้ของหนังถึง 51% มาจากวันศุกร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นหนังที่ทำรายได้วันแรกๆ ที่ดีเว่อร์วังมากๆ เรื่องหนึ่ง แล้วถึงรายได้จะน้อยกว่าภาคแรก แต่นี่ก็ถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวที่เยี่ยมมากๆ สำหรับหนังที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมาก แล้วการโปรโมทก็ไม่ได้หวือหวาอะไร หากก็ต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่า ในระยะยาวแล้วหนังไม่น่าจะไปได้ดี แล้วเมื่อย้อนดูหนังสยองเปิดตัวในสัปดาห์แรกของปี ตลอด 3 ปีหลังจะพบว่าแต่ละเรื่องรายได้ร่วงกราวในสัปดาห์ต่อมา ไม่น้อยกว่า 50% ยิ่งได้คะแนนจากซีนีมาสกอร์แค่ C แบบนี้สถาการณ์ยิ่งไม่ดีใหญ่ หนังได้คนดูรุ่นๆ เป็นหลัก (65% อายุต่ำกว่า 25) ท้ายที่สุดแล้วหนังไม่น่ามีชะตากรรมดีกว่าเรื่องอื่นๆ และรายได้คงไปไม่ถึง 30 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ต่ำมากๆ สำหรับหนังที่เปิดตัวมากกว่า 2,500 โรง
อันดับ 5 เป็น Night at the Museum: Secret of the Tomb รายได้ตก 28% ทำเงิน 14.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมเพิ่มเป็น 89.8 ล้านเหรียญ และยังอยู่ในเส้นทางปิดตัวที่มากกว่า 110 ล้านเหรียญ ขณะที่ Annie ทำเงินอีก11.25 ล้านเหรียญตกลงไป 32% รายได้ 17 วันอยู่ที่ 72.5 ล้านเหรียญ
หนัง The Imitation Game ไม่ได้เพิ่มโรงอะไรมากมาย แต่รายได้ก็ตกลงแค่ 2% ทำเงินอีก 7.8 ล้านเหรียญ หนังประวัติของอลัน ทูริงเรื่องนี้ ทำเงินไปแล้ว 30.5 ล้านเหรียญ และหากทำได้แบบที่ The King's Speech ทำเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งในสัปดาห์เดียวกันนี้ ทำเงินไปอีก 7.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 22.9 ล้านเหรียญ บวกกับแรงส่งจากการเข้าชิงรางวัลใหญ่ๆ The Imitation Game มีแววว่าน่าจะทำรายได้ถึงร้อยล้าน
The Gambler รายได้ตก 31% ทำเงินอีก 6.3 ล้านเหรียญ รายได้ 8 วันรวมแล้วเท่ากับ 27.6 ล้านเหรียญ ส่วน Big Eyes ยืนระยะได้ดี รายได้ลดลงแค่ 13% ทำเงินมาอีก 2.6 ล้านเหรียญรายได้รวม 9.9 ล้านเหรียญแล้ว ทางด้าน Selma หนังล่ารางวัลที่เพิ่มโรงอีก 3 แห่ง กลายเป็น 22 โรง ทำเงินสุดสัปดาห์นี้ 633,173 เหรียญ หนังทำเงินผ่าน 2 ล้านเหรียญไปแล้ว และจะเพิ่มโรงเป็นวงกว้างในสัปดาห์หน้า
American Sniper ยังไม่เพิ่มโรงฉาย มีเพียง4 โรงเท่าเดิม หนังได้เงินอีก 676,909 เหรียญ คิดเป็น 169,227 เหรียญต่อโรง ซึ่งเป็นรายได้เฉลี่ยในสัปดาห์ที่สองที่มากที่สุด สำหรับหนังคนแสดง โดยแชมป์เก่าคือ Moulin Rouge 96,549 เหรียญต่อโรง อาจจะเป็นการสันนิษฐานที่งี่เง่าไปบ้าง หากจะมองถึงรายได้ในวงกว้างด้วยการประเมินจาก 4 โรงฉาย แต่จากที่เห็นหนัง Sniper มีแววที่จะไปได้ดีมากๆ ในระยะยาว โดยหนังจะเปิดตัวในวงกว้าง 16 มกราคมนี้ และน่าจะทำรายได้พอๆ กับ Zero Dark Thirty ที่เปิดตัววงกว้างสัปดาห์แรกที่ 24.4 ล้านเหรียญ แล้วก็มีโอกาสที่จะทำได้ในระดับของ Lone Survivor (37.8 ล้านเหรียญ)
เปิดตัวแค่ 4 โรง หนังของค่าย เอทะเว็นตีโฟร์ - A Most Violent Year ทำรายได้ 188,000 ล้านเหรียญ คิดเป็น 47,000 เหรียญต่อโรง ซึ่งถือว่าโอเคสำหรับการเปิดฉายในลักษณะนี้ และหากรวมรายได้วันพุธ และพฤหัสฯ หนังทำเงินไปแล้ว 300,000 เหรียญ โดยจะมีการเปิดตัวเพิ่มไปเรื่อยๆ ตลอดเดือนนี้ จนถึงวันที่ 30 มกราคม จึงจะเปิดตัวในวงกว้าง
ในตลาดนอกอเมริกา The Hobbit: The Battle of the Five Armies ยังคว้าแชมป์เป็นสัปดาห์ที่สี่ โดยทำเงินสัปดาห์นี้ไปอีก 52.5 ล้านเหรียญ จาก 65 แห่ง รายได้รวมตอนนี้ไปถึง 502.1 ล้านเหรียญแล้ว หนังเปิดตัวที่อาร์เจนตินา 2.1 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังวอร์เนอร์เปิดตัวมากสุดที่นี่ หนังจะเปิดตัวที่จีน 23 มกราคม ซึ่งน่าจะทำให้รายได้นอกอเมริกาทะลุ 700 ล้านเหรียญได้ โดยรายได้รวมทั่วโลกตอนนี้ผ่าน 723 ล้านเหรียญไปแล้ว รั้งอันดับ 5 หนังทำเงินสูงสุดของปี 2014 และสัปดาห์หน้า น่าจะขยับเป็นอันดับ 2 รองจาก Guardians of the Galaxy.
Exodus: Gods and Kings ทำรายได้ 31.4 ล้านเหรียญ โดยหลักๆ มาจากการเปิดตัวที่แข็งแรงในรัสเซีย 8 ล้านเหรียญ รวมไปถึงยืนระยะในอันดับ 1 สำเร็จที่บราซิล 4.5 ล้านเหรียญ หนังทำรายได้รวมอยู่ที่ 141.5 ล้านเหรียญ โดยเหลือตลาดหลักๆ อีก 6 แห่ง ซึ่งก็มีอิตาลีกับญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย ดูแล้วหนังน่าจะผ่าน 200 ล้านเหรียได้ แต่ยากถ้าจะไปถึง 261 ล้านเหรียญที่ Noah ทำไว้
Night at the Museum: Secret of the Tomb ได้เงินมาอีก 25.7 ล้านเหรียญ แถมยังครองอันดับ 1 อีกสัปดาห์ที่เม็กซิโกด้วยรายได้ 4 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวได้ที่บราซิล 3.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมของหนังอยู่ที่ 91.2 ล้านเหรียญ โดยเหลือตลาดใหญ่อีก 5 แห่งให้เล่นซึ่งก็รวมถึงจีนด้วย
Penguins of Madagascar ทำรายได้ 23 ล้านเหรียญจาก 43 ตลาด โดยเปิดตัวได้น่าประทับใจที่เกาหลีใต้ 6 ล้านเหรียญ แต่ที่ออสเตรเลียทำได้แค่งั้นๆ3.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมนอกอเมริกาตอนนี้เท่ากับ 192.6 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าน่าพอใจเมื่อเทียบกับแอนิเมชันของดรีมเวิร์คส์ ที่คว่ำอนาถในช่วงหลังๆ โดยชนะ Mr. Peabody & Sherman และน่าจะแซง Turbo กับ Rise of the Guardians ในสัปดาห์หน้า ในอีก 2 เดือนนับจากนี้ หนังจะขยายตลาดไปเรื่อยๆ อีกรวมๆ 14 แห่ง
Big Hero 6 ไปช้าๆ แต่มั่นคงต่อไป เมื่อทำเงินได้อีก 20.2 ล้านเหรียญ โดยที่ญี่ปุ่นรายได้เพิ่มขึ้นถึง 38% และทำเงินที่นี่ไปแล้ว 34.6 ล้านเหรียญ สำหรับรายได้รวมนอกอเมริกาหนังทำไปแล้ว 167.4 ล้านเหรียญ และมีตลาดใหญ่รออยู่อีก 6 แห่ง
หนัง Seventh Son เปิดตัวนอกอเมริกาก่อนในบ้าน เพิ่มอีกเพียงไม่กี่แห่ง และทำรายได้ 18.6 ล้านเหรียญ หนังขึ้นอันดับ 1 ที่รัสเซีย ด้วยรายได้ที่ดี 8.9 ล้านเหรียญ แต่ไปไม่สวยที่สเปน 1.3 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 5 บวกกับรายได้สัปดาห์ที่ผ่านมา หนังทำเงินไปแล้ว 22 ล้านเหรียญ และในสัปดาห์หน้าจะเปิดตัวอีก 9 ตลาด
Taken 3 เปิดตัวในเกาหลีใต้แล้วด้วยรายได้ 8.2 ล้านเหรียญ และ 1.3 ล้านเหรียญในฮ่องกง ซึ่งทำได้ดีกว่าหนัง Taken 2 ทั้งสองแห่ง โดยหนังภาค 2 นั้นทำเงินนอกอเมริกาไปถึง 236 ล้านเหรียญดูแล้วเป็นไปได้ว่า หนังภาคนี้น่าจะทำได้ดีกว่า โดยในสัปดาห์หน้าหนังจะเปิดตัวในอเมริกา พร้อมๆ กับอีก 27 แห่ง แต่หนัง American Sniper ดูจะไปได้ไม่สวยเท่า เมื่อดูจากหนังอย่าง Lone Survivor กับ Zero Dark Thirty ที่ต่างทำรายได้ไม่ถึง 40 ล้านเหรียญนอกอเมริกา แต่อย่างน้อยการเปิดตัวของหนังที่อิตาลี ก็พอแสดงให้เห็นด้านบวกขึ้นมาบ้าง เมื่อทำเงินไปถึง 6.3 ล้านเหรียญจากการเปิดฉายตั้งแต่วันพุธ หนังจะเข้าฉายในอังกฤษ 16 มกราคม วันเดียวกับการเปิดตัววงกว้างที่บ้านเกิด แล้วสัปดาห์ถัดไปก็เป็นออสเตรเลีย
ให้กำลังใจด้วยการกด Like ที่ www.facebook.com/Sadaos