http://news.voicetv.co.th/thailand/186156.html
CFR ชี้เศรษฐกิจไทยทรุดหนักหลังรัฐประหาร
นักวิจัยอาวุโสของซีเอฟอาร์ วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยหลังการรัฐประหารปี 57 ว่าไทยไม่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
โจชัวร์ คูร์แลนท์ซิกค์ นักวิจัยอาวุโส จากองค์กรคณะมนตรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ ซีเอฟอาร์ วิเคราะห์ เศรษฐกิจประเทศไทย หลังการรัฐประหาร 2557
โดยเปรียบเทียบว่า ตลอด 15 ปี ก่อนหน้านี้ ไทยมีสาร "เทฟลอน" เคลือบไว้ ทำให้ยังประคองเศรษฐกิจได้ แม้จะเกิดวิกฤติการเมือง และภัยธรรมชาติ แต่อัตราการเติบโตของจีดีพี ก็ยังคงเพิ่มขึ้น แต่หลังรัฐประหารปี 2557 สารเคลือบดังกล่าว ไม่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
ถือเป็นช่วงเวลาที่จบสิ้นแล้ว ที่ไทยจะสามารถทนทานต่อความวุ่นวายทางการเมือง และเรียกนักท่องเที่ยวและนักลงทุน แม้มีความดึงดูดในแง่ทรัพยากร แต่ความวุ่นวายทางการเมือง ก็ทำให้นักลงทุนถอยหนี ตรงข้ามกับ ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีนโยบาย ดึงดูดนักลงทุนมากกว่า
ขณะที่ ญี่ปุ่น แม้ยังคงสนับสนุนไทย ให้กู้ยืมเงินสร้างทางรถไฟ แต่ก็เป็นไปเพราะต้องการขจัดอิทธิพลจากจีน โดยภาคเอกชนญี่ปุ่น เริ่มหันไปลงทุนในประเทศอื่นของภูมิภาค เช่นเดียวกับนักลงทุนประเทศอื่นๆ ที่เริ่มระมัดระวังการลงทุนโครงการใหม่ๆ ในไทย
ต้องฟังคนกลาง คนนอกพูดแล้วจะเห็นความจริง ผมว่าเขาพูดถูกต้องนะ--------->CFR ชี้เศรษฐกิจไทยทรุดหนักหลังรัฐประหาร
CFR ชี้เศรษฐกิจไทยทรุดหนักหลังรัฐประหาร
นักวิจัยอาวุโสของซีเอฟอาร์ วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยหลังการรัฐประหารปี 57 ว่าไทยไม่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
โจชัวร์ คูร์แลนท์ซิกค์ นักวิจัยอาวุโส จากองค์กรคณะมนตรีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือ ซีเอฟอาร์ วิเคราะห์ เศรษฐกิจประเทศไทย หลังการรัฐประหาร 2557
โดยเปรียบเทียบว่า ตลอด 15 ปี ก่อนหน้านี้ ไทยมีสาร "เทฟลอน" เคลือบไว้ ทำให้ยังประคองเศรษฐกิจได้ แม้จะเกิดวิกฤติการเมือง และภัยธรรมชาติ แต่อัตราการเติบโตของจีดีพี ก็ยังคงเพิ่มขึ้น แต่หลังรัฐประหารปี 2557 สารเคลือบดังกล่าว ไม่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้
ถือเป็นช่วงเวลาที่จบสิ้นแล้ว ที่ไทยจะสามารถทนทานต่อความวุ่นวายทางการเมือง และเรียกนักท่องเที่ยวและนักลงทุน แม้มีความดึงดูดในแง่ทรัพยากร แต่ความวุ่นวายทางการเมือง ก็ทำให้นักลงทุนถอยหนี ตรงข้ามกับ ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีนโยบาย ดึงดูดนักลงทุนมากกว่า
ขณะที่ ญี่ปุ่น แม้ยังคงสนับสนุนไทย ให้กู้ยืมเงินสร้างทางรถไฟ แต่ก็เป็นไปเพราะต้องการขจัดอิทธิพลจากจีน โดยภาคเอกชนญี่ปุ่น เริ่มหันไปลงทุนในประเทศอื่นของภูมิภาค เช่นเดียวกับนักลงทุนประเทศอื่นๆ ที่เริ่มระมัดระวังการลงทุนโครงการใหม่ๆ ในไทย