สวัสดีค่ะคุณ สมาชิกหมายเลข 2168439
ทีมงานได้พบว่าท่านได้โพสข้อความปรากฎในกระทู้
33446884
เนื่องจากเนื้อหาที่ปรากฎในกระทู้ดังกล่าว อาจเข้าข่ายมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎ กติกา มารยาท
และเป็นการรบกวนการใช้งานของเพื่อนสมาชิกเป็นอย่างมาก ตามที่ได้ประกาศไว้ในไกด์ไลน์
ทีมงานจึงทำการลบกระทู้ดังกล่าวออกไปและมีความจำเป็นต้องระงับการใช้งานของท่านชั่วคราว
เพื่อทำการแจ้งให้ท่านรับทราบเงื่อนไขในการใช้งานของเว็บพันทิปเสียก่อน
ทั้งนี้ทีมงานขอความกรุณาท่านสมาชิกตอบกลับมายัง contact.pantip.com เพื่อแจ้งเหตุผลในการโพสต์ข้อความลักษณะดังกล่าวค่ะ
..............................
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เขียนใหม่ก็ได้ โดยลบชื่อบางคนออกไป หวังว่าคงไม่โดนอีกนะขะรับ)
ตอนนี้ประเทศไทยล้าหลังเพื่อนบ้านในอาเซียนแทบทุกด้านครับ
ที่เป็นปัญหาหนักสุด ในขณะนี้ก็คือปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ไทยกลายเป็นแมวป่วยแห่งอาเซียนไปแล้ว
ลี กวน ยู ใช้เวลาสามสิบปีสร้างสิงคโปร์จนกลายเป็นเสือแห่งเอเชีย
ประเทศไทย แค่สิบปี กลายเป็นแมวป่วยอย่างสมบูรณ์แบบ !!!
ทุกครั้งที่เห็นใครบางคนอ้างเรื่องคนโกง คนนั้นคนนี้ไม่ซื่อต่อบ้านเมือง เน้นย้ำว่าคือปัญหาที่ทำให้บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า
ผมได้ยินทีไร ก็แทบอ้วกทีนั้น
เพราะมันเหมือนเป็นการพูดเพื่อ "เอาดีใส่ตัว" เท่านั้น พูดเพื่อสร้างเสริมยี่ห้อซื่อสัตย์ของใครบางคนเองให้เด่นขึ้นเท่านั้น
แต่ผมไม่เคยเห็นใครคนนั้นทำอะไรจริงจังกับเรื่องพวกนี้สักที
จริงครับ เรื่องคอรัปชั่นนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง
แต่มันเป็นเรื่องคู่โลกครับ ไม่ใช่ที่ไหนมีแล้วจะแปลกประหลาดอะไร
สิงคโปร์ว่าแน่ ๆ ยังมีเลยครับ เพียงแต่น้อยที่สุดเท่านั้นเอง
ใครบางคนพยายามเน้นทุกครั้งว่าการคอรัปชั่นคือปัญหาหลักที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม แต่ผมว่าไม่ใช่
สมัยใครบางคนเป็นนายกฯ กว่าแปดปีที่เป็นนายกฯ
ก็ล้วนแต่นักการเมืองตัวดี ๆ ทั้งนั้นครับ ที่ลงหลักฝังรากทั้งด้านการเงิน อิทธิพล บารมี
ซึ่งล้วนมีมาด้วยการคอรัปชั่นทั้งนั้น
ไล่เรียงรายชื่อดู ทั้งที่ตายไปแล้ว และทั้งที่ยังไม่ตาย ล้วนเติบใหญ่และวางฐานรากมาจากยุคของใครคนนั้นทั้งนั้นครับ
ก็ไม่เห็นคน ๆ นั้นห่วงเรื่องโกง เห็นแต่ห่วงเรื่องอื่น และบ้านเมืองก็ยังเดินมาได้
และในช่วงปี 2544 - 2548 บ้านเมืองเราก็ทำท่าจะก้าวกระโดด
แล้วใครหน้าไหนล่ะ ออกมาทำลายซะยับเยิน
แถมเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา ก็ออกมาทำลายซ้ำอีกรอบ
ไอ้หน้าไหนครับ รู้ไหม ???
ปัญหาของบ้านเมืองจนเป็นแมวป่วยอยู่ทุกวันนี้
มันคือความขัดแย้งครับ
ขัดแย้งทางการเมือง ชนิดที่ว่า ถึงขนาดแอบอ้างสถาบันที่คนไทยเคารพรักมาสร้างความเข้าใจผิดกันไปหมด
แล้วก็ลุกลามจากการเมือง นักการเมือง ขยายตัวไปสู่สังคมโดยรวม
บ้านเมืองขาดความเชื่อมั่น ทำให้ชะงักงันไปหมด
นี่คือปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองครับ
ไอ้หน้าไหนมันทำให้บ้านเมืองขัดแย้งแตกแยกหนัก ไอ้หน้าไหนที่ไม่คิดคำนึงอะไร คำก็แผ่นดิน สองคำก็แผ่นดิน
แต่คิดและทำอะไรเพียงเพื่อสถานะและอำนาจของตนเท่านั้น
รู้ไหมครับว่าใคร ???
จีดีพีเพื่อนบ้านปีที่แล้ว ปีนี้ ปีหน้า เขาระดับหกเปอร์เซนต์ขึ้นกันทั้งนั้น
ขณะที่เราปีที่แล้วไม่ถึงหนึ่ง ปีนี้ตั้งไว้สี่ แล้วก็ลดลงเหลือสามกว่า ปีหน้าตั้งเป้าสี่
ตามหลังชาวบ้านเขาต้อย ๆ
การเมืองไม่นิ่ง ความขัดแย้งแตกแยกยังฝังรากลึก
แต่ไม่คิดแก้ไข มีแต่พยายามสร้างกติกาเพิ่มความขัดแย้ง มีแต่การทำลายล้างสร้างความแตกแยก
เขาจะลงทุนใหญ่ ก็ขัด หยิบยกเรื่องโกงมาทำลายล้าง
ทั้งที่โดยหลักแล้ว ประเทศไหนก็ตาม เขาลงทุนใหญ่กันทั้งนั้นครับเพื่อกระตุ้นวงจร
เปรียบเสมือนการสตาร์ทเครื่อง ซึ่งหากเครื่องติด ก็วิ่งฉิว
แต่ก็มีการขัดขวางไม่ยอมให้เขาสตาร์ทเครื่อง มีแต่การทำลายล้าง
คนเขามีความสามารถจะทำ ก็ขัดเขา ล้มเขา เพราะกลัวเขาเด่นเกินหน้า
แต่กับพวกดีแต่พูด ปล่อยให้สวาปามกันไป เพราะยังไงมันก็ไม่เด่นเกินหน้า
เพื่ออำนาจและสถานะตัวเอง
ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองมันตรงนี้ ปัญหาที่ทำให้บ้านเมืองป่วยมันอยู่ตรงนี้
บ้านเมืองนั้น โดยธรรมชาติต้องเคลื่อนที่ ปรับตัว เปลี่ยนแปลงไปตามกาล ตามโลก
จากคนรุ่นหนึ่ง สู่คนรุ่นหนึ่ง ยุคหนึ่งสู่ยุคหนึ่งต่อไปและต่อไป
อย่าไปคิดว่า จะมีใครอยู่ยั้งยืนยงเป็นตราประทับบ้านเมืองไปตลอด
อย่าไปดึงบ้านเมืองให้หยุดนิ่งกับตัวเอง เพราะบ้านเมืองไม่ได้มีแต่ตัวเอง
ยังมีคนรุ่นหลัง รุ่นลูก รุ่นหลาน ที่เขามองเห็น เขาคิด เขามีมุมมอง มีความต้องการทิศทางของบ้านเมือง
อย่าไปติดยึดแต่ว่า ต้องไปตามทิศทางที่ตัวเองต้องการอย่างเดียว
ไอ้ประเภทคำก็แผ่นดิน สองคำก็แผ่นดิน อ้างแต่เรื่องรักชาติห่วงแผ่นดินความภักดี
นี่มันยุคดาวอังคารครับ ไม่ใช่ยุคอยุธยา
ลี กวน ยู มีอำนาจ เขาไม่นึกถึงตัวเอง มองบ้านเมืองเป็นหลัก นั่นแหละคือรัฐบุรุษตัวจริง
ส่วนคนที่มีอำนาจ แล้วนึกถึงแต่ตัวเอง บ้านเมืองวายป่วงก็ไม่สน ไม่ใช่รัฐบุรุษครับ
แค่นักการเมืองกาก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ถึงสองนาที หายวับ โดนแบนอีกแระ ไวขนาดหาใน cached ยังหาไม่เจอ ไม่เป็นไร เขียนใหม่ก็ได้
ทีมงานได้พบว่าท่านได้โพสข้อความปรากฎในกระทู้ 33446884
เนื่องจากเนื้อหาที่ปรากฎในกระทู้ดังกล่าว อาจเข้าข่ายมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎ กติกา มารยาท
และเป็นการรบกวนการใช้งานของเพื่อนสมาชิกเป็นอย่างมาก ตามที่ได้ประกาศไว้ในไกด์ไลน์
ทีมงานจึงทำการลบกระทู้ดังกล่าวออกไปและมีความจำเป็นต้องระงับการใช้งานของท่านชั่วคราว
เพื่อทำการแจ้งให้ท่านรับทราบเงื่อนไขในการใช้งานของเว็บพันทิปเสียก่อน
ทั้งนี้ทีมงานขอความกรุณาท่านสมาชิกตอบกลับมายัง contact.pantip.com เพื่อแจ้งเหตุผลในการโพสต์ข้อความลักษณะดังกล่าวค่ะ
..............................
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้ประเทศไทยล้าหลังเพื่อนบ้านในอาเซียนแทบทุกด้านครับ
ที่เป็นปัญหาหนักสุด ในขณะนี้ก็คือปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่ไทยกลายเป็นแมวป่วยแห่งอาเซียนไปแล้ว
ลี กวน ยู ใช้เวลาสามสิบปีสร้างสิงคโปร์จนกลายเป็นเสือแห่งเอเชีย
ประเทศไทย แค่สิบปี กลายเป็นแมวป่วยอย่างสมบูรณ์แบบ !!!
ทุกครั้งที่เห็นใครบางคนอ้างเรื่องคนโกง คนนั้นคนนี้ไม่ซื่อต่อบ้านเมือง เน้นย้ำว่าคือปัญหาที่ทำให้บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า
ผมได้ยินทีไร ก็แทบอ้วกทีนั้น
เพราะมันเหมือนเป็นการพูดเพื่อ "เอาดีใส่ตัว" เท่านั้น พูดเพื่อสร้างเสริมยี่ห้อซื่อสัตย์ของใครบางคนเองให้เด่นขึ้นเท่านั้น
แต่ผมไม่เคยเห็นใครคนนั้นทำอะไรจริงจังกับเรื่องพวกนี้สักที
จริงครับ เรื่องคอรัปชั่นนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง
แต่มันเป็นเรื่องคู่โลกครับ ไม่ใช่ที่ไหนมีแล้วจะแปลกประหลาดอะไร
สิงคโปร์ว่าแน่ ๆ ยังมีเลยครับ เพียงแต่น้อยที่สุดเท่านั้นเอง
ใครบางคนพยายามเน้นทุกครั้งว่าการคอรัปชั่นคือปัญหาหลักที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม แต่ผมว่าไม่ใช่
สมัยใครบางคนเป็นนายกฯ กว่าแปดปีที่เป็นนายกฯ
ก็ล้วนแต่นักการเมืองตัวดี ๆ ทั้งนั้นครับ ที่ลงหลักฝังรากทั้งด้านการเงิน อิทธิพล บารมี
ซึ่งล้วนมีมาด้วยการคอรัปชั่นทั้งนั้น
ไล่เรียงรายชื่อดู ทั้งที่ตายไปแล้ว และทั้งที่ยังไม่ตาย ล้วนเติบใหญ่และวางฐานรากมาจากยุคของใครคนนั้นทั้งนั้นครับ
ก็ไม่เห็นคน ๆ นั้นห่วงเรื่องโกง เห็นแต่ห่วงเรื่องอื่น และบ้านเมืองก็ยังเดินมาได้
และในช่วงปี 2544 - 2548 บ้านเมืองเราก็ทำท่าจะก้าวกระโดด
แล้วใครหน้าไหนล่ะ ออกมาทำลายซะยับเยิน
แถมเมื่อปีสองปีที่ผ่านมา ก็ออกมาทำลายซ้ำอีกรอบ
ไอ้หน้าไหนครับ รู้ไหม ???
ปัญหาของบ้านเมืองจนเป็นแมวป่วยอยู่ทุกวันนี้
มันคือความขัดแย้งครับ
ขัดแย้งทางการเมือง ชนิดที่ว่า ถึงขนาดแอบอ้างสถาบันที่คนไทยเคารพรักมาสร้างความเข้าใจผิดกันไปหมด
แล้วก็ลุกลามจากการเมือง นักการเมือง ขยายตัวไปสู่สังคมโดยรวม
บ้านเมืองขาดความเชื่อมั่น ทำให้ชะงักงันไปหมด
นี่คือปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองครับ
ไอ้หน้าไหนมันทำให้บ้านเมืองขัดแย้งแตกแยกหนัก ไอ้หน้าไหนที่ไม่คิดคำนึงอะไร คำก็แผ่นดิน สองคำก็แผ่นดิน
แต่คิดและทำอะไรเพียงเพื่อสถานะและอำนาจของตนเท่านั้น
รู้ไหมครับว่าใคร ???
จีดีพีเพื่อนบ้านปีที่แล้ว ปีนี้ ปีหน้า เขาระดับหกเปอร์เซนต์ขึ้นกันทั้งนั้น
ขณะที่เราปีที่แล้วไม่ถึงหนึ่ง ปีนี้ตั้งไว้สี่ แล้วก็ลดลงเหลือสามกว่า ปีหน้าตั้งเป้าสี่
ตามหลังชาวบ้านเขาต้อย ๆ
การเมืองไม่นิ่ง ความขัดแย้งแตกแยกยังฝังรากลึก
แต่ไม่คิดแก้ไข มีแต่พยายามสร้างกติกาเพิ่มความขัดแย้ง มีแต่การทำลายล้างสร้างความแตกแยก
เขาจะลงทุนใหญ่ ก็ขัด หยิบยกเรื่องโกงมาทำลายล้าง
ทั้งที่โดยหลักแล้ว ประเทศไหนก็ตาม เขาลงทุนใหญ่กันทั้งนั้นครับเพื่อกระตุ้นวงจร
เปรียบเสมือนการสตาร์ทเครื่อง ซึ่งหากเครื่องติด ก็วิ่งฉิว
แต่ก็มีการขัดขวางไม่ยอมให้เขาสตาร์ทเครื่อง มีแต่การทำลายล้าง
คนเขามีความสามารถจะทำ ก็ขัดเขา ล้มเขา เพราะกลัวเขาเด่นเกินหน้า
แต่กับพวกดีแต่พูด ปล่อยให้สวาปามกันไป เพราะยังไงมันก็ไม่เด่นเกินหน้า
เพื่ออำนาจและสถานะตัวเอง
ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองมันตรงนี้ ปัญหาที่ทำให้บ้านเมืองป่วยมันอยู่ตรงนี้
บ้านเมืองนั้น โดยธรรมชาติต้องเคลื่อนที่ ปรับตัว เปลี่ยนแปลงไปตามกาล ตามโลก
จากคนรุ่นหนึ่ง สู่คนรุ่นหนึ่ง ยุคหนึ่งสู่ยุคหนึ่งต่อไปและต่อไป
อย่าไปคิดว่า จะมีใครอยู่ยั้งยืนยงเป็นตราประทับบ้านเมืองไปตลอด
อย่าไปดึงบ้านเมืองให้หยุดนิ่งกับตัวเอง เพราะบ้านเมืองไม่ได้มีแต่ตัวเอง
ยังมีคนรุ่นหลัง รุ่นลูก รุ่นหลาน ที่เขามองเห็น เขาคิด เขามีมุมมอง มีความต้องการทิศทางของบ้านเมือง
อย่าไปติดยึดแต่ว่า ต้องไปตามทิศทางที่ตัวเองต้องการอย่างเดียว
ไอ้ประเภทคำก็แผ่นดิน สองคำก็แผ่นดิน อ้างแต่เรื่องรักชาติห่วงแผ่นดินความภักดี
นี่มันยุคดาวอังคารครับ ไม่ใช่ยุคอยุธยา
ลี กวน ยู มีอำนาจ เขาไม่นึกถึงตัวเอง มองบ้านเมืองเป็นหลัก นั่นแหละคือรัฐบุรุษตัวจริง
ส่วนคนที่มีอำนาจ แล้วนึกถึงแต่ตัวเอง บ้านเมืองวายป่วงก็ไม่สน ไม่ใช่รัฐบุรุษครับ
แค่นักการเมืองกาก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง