ผมปฏิบัติในแนวทางของหลวงพ่อเทียนมาก็นาน
เคยได้ยินท่านกล่าวว่า " รู้ปุ๊ป ดับปั๊ป " มานานแล้ว ผมเข้าใจ แต่ไม่ Fell....คือ รู้จำ แต่ไม่รู้จัก จริงๆ
ท่านเปรียบสติว่าเป็นแมว เปรียบความคิดว่าเป็นหนู
ถ้าแมวยังเล็กอยู่ มันจะจับหนูตัวโตไม่ได้... ถึงจับได้ก็ถูกหนูลากไป
เราไม่ต้องทำอะไรกับหนู เพียงแต่หมั่นให้อาหารแมว เลี้ยงแมวให้โต
พอแมวโตแล้ว มันจับหนูได้เอง
เมื่อนั้น พอ " รู้ปุ๊ป ดับปั๊ป " ... คือพอมีสติ ความคิดจะดับทันที
แมวตะปบหนูทีเดียว อยู่เลย
---------------------------
จากการปฏิบัติมาหลายปี ผมก็รู้อยู่ว่า จิตมันคิด มันมีอารมณ์ต่างๆ ...มันไม่ค่อยดับครับ
โดยเฉพาะเวลาฝึกสติ โดยการนั่งสร้างจังหวะ เดินจงกรม มันคิดยาวมาก... ดับไปนิดนึง ก็กลับมาคิดอีก
หลวงพ่อเทียนท่านไม่ให้ห้ามความคิดครับ
...ท่านบอกว่า ปล่อยให้มันคิด ไม่ต้องไปห้ามมัน ...ให้เราหมั่นรู้สึกตัวเอาไว้
---------------------------
มันก็ใช้เวลาหลายปีอยู่นะครับ กว่าแมวจะโต...ความเพียรเป็นสิ่งที่เราต้องทำจริงๆ จังๆ
เมื่อถึงเวลาของมัน แมวมันก็ทำงานจริงๆ...
วันนี้บทพิสูจน์คำพูดของหลวงพ่อเทียนก็ปรากฏขึ้นกับผมจนได้
คือ เมื่อใดที่มีความพอใจ หรือไม่พอใจอะไร มีสติรู้สึกตัวขึ้นได้ มันดับครับ
...รู้ปุ๊ป ดับปั๊ปจริงๆ.... ตามคำของหลวงพ่อเทียน
ตื่นเช้า รู้สึกไม่สบายตัว อยากนอนต่อ...รู้ปุ๊ป หายอยาก บิดขี้เกียจหน่อย ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นได้ ไม่ยาก
กินข้าวไม่อร่อย ไม่ชอบเลย ...รู้ปุ๊ป ความไม่ชอบหาย
หรือแม้แต่อร่อยเหลือเกิน อยากกินอีก ...รู้ปุ๊ป ความอยากก็หาย
ขับรถ รถติด เมื่อย อารมณ์เสีย....รู้ปุ๊ป หาย ก็กลับมามีอารมณ์ปกติ
จะทำงานอะไร เกิดเบื่อ ขี้เกียจ ...รู้แล้วก็หาย กลับมาทำต่อได้ปกติ
คนมาขัดแย้งกับเรา อารมณ์ขุ่นมัว รู้ทันปุ๊ป..หาย
อารมณ์ความรู้สึก ชอบ - ไม่ชอบ ....พอใจ - ไม่พอใจ...ไม่ใช่ไม่มีครับ
มันมีอยู่ตามปกติ แต่พอรู้แล้วมันดับ....
---------------------------
ถามว่าพออารมณ์ดับแล้วเป็นอย่างไร ....ก็เป็นปกติครับ
ว่างๆ เฉยๆ ไม่มีอะไร ก็ใช้ชีวิตตามปกติครับ...
หิวก็กิน ง่วงก็นอน
ถึงเวลาที่ควรทำอะไรก็ทำ ...ทำไปตามที่ร่างกายต้องการ แบบมีสติปัญญามากขึ้น ...ทำตามอารมณ์น้อยลง
พอจิตเราหลงตามอารมณ์น้อยลง เราก็มีปัญญามากขึ้นครับ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควร....อะไรควรทำก่อน - หลัง
และก็มีปัญญาเห็นความธรรมดาของโลกมากขึ้นด้วย ....เห็นว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง ไม่น่าหลงไหล
การที่เราไม่ค่อยติดอารมณ์ มันก็ทำให้ตาสว่างมากขึ้น ....โดนความโลภ ความลำเอียง ความหลง หลอกได้น้อยลงครับ
บางทีเห็นแม้กระทั่งว่า ความรู้สึกต่างๆ นี้มันไม่ใช่ของเรา
และก็รู้ว่าเรื่องที่เรายังแก้ไม่ได้ ก็คือชอบหมกตัวอยู่หน้าคอมนี่เอง... บางอารมณ์ เราก็ยังแก้มันไม่ได้
สาธุ ธรรมะ ง่ายๆ จากหลวงพ่อเทียน ที่ไม่ต้องบรรยายอะไรให้เข้าใจยาก ซับซ้อน
แต่มันได้ผลจริง ชีวิตเบาขึ้นครับ
แมวจับหนู... เรื่องที่ผมอยากแชร์
เคยได้ยินท่านกล่าวว่า " รู้ปุ๊ป ดับปั๊ป " มานานแล้ว ผมเข้าใจ แต่ไม่ Fell....คือ รู้จำ แต่ไม่รู้จัก จริงๆ
ท่านเปรียบสติว่าเป็นแมว เปรียบความคิดว่าเป็นหนู
ถ้าแมวยังเล็กอยู่ มันจะจับหนูตัวโตไม่ได้... ถึงจับได้ก็ถูกหนูลากไป
เราไม่ต้องทำอะไรกับหนู เพียงแต่หมั่นให้อาหารแมว เลี้ยงแมวให้โต
พอแมวโตแล้ว มันจับหนูได้เอง
เมื่อนั้น พอ " รู้ปุ๊ป ดับปั๊ป " ... คือพอมีสติ ความคิดจะดับทันที
แมวตะปบหนูทีเดียว อยู่เลย
---------------------------
จากการปฏิบัติมาหลายปี ผมก็รู้อยู่ว่า จิตมันคิด มันมีอารมณ์ต่างๆ ...มันไม่ค่อยดับครับ
โดยเฉพาะเวลาฝึกสติ โดยการนั่งสร้างจังหวะ เดินจงกรม มันคิดยาวมาก... ดับไปนิดนึง ก็กลับมาคิดอีก
หลวงพ่อเทียนท่านไม่ให้ห้ามความคิดครับ
...ท่านบอกว่า ปล่อยให้มันคิด ไม่ต้องไปห้ามมัน ...ให้เราหมั่นรู้สึกตัวเอาไว้
---------------------------
มันก็ใช้เวลาหลายปีอยู่นะครับ กว่าแมวจะโต...ความเพียรเป็นสิ่งที่เราต้องทำจริงๆ จังๆ
เมื่อถึงเวลาของมัน แมวมันก็ทำงานจริงๆ...
วันนี้บทพิสูจน์คำพูดของหลวงพ่อเทียนก็ปรากฏขึ้นกับผมจนได้
คือ เมื่อใดที่มีความพอใจ หรือไม่พอใจอะไร มีสติรู้สึกตัวขึ้นได้ มันดับครับ
...รู้ปุ๊ป ดับปั๊ปจริงๆ.... ตามคำของหลวงพ่อเทียน
ตื่นเช้า รู้สึกไม่สบายตัว อยากนอนต่อ...รู้ปุ๊ป หายอยาก บิดขี้เกียจหน่อย ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นได้ ไม่ยาก
กินข้าวไม่อร่อย ไม่ชอบเลย ...รู้ปุ๊ป ความไม่ชอบหาย
หรือแม้แต่อร่อยเหลือเกิน อยากกินอีก ...รู้ปุ๊ป ความอยากก็หาย
ขับรถ รถติด เมื่อย อารมณ์เสีย....รู้ปุ๊ป หาย ก็กลับมามีอารมณ์ปกติ
จะทำงานอะไร เกิดเบื่อ ขี้เกียจ ...รู้แล้วก็หาย กลับมาทำต่อได้ปกติ
คนมาขัดแย้งกับเรา อารมณ์ขุ่นมัว รู้ทันปุ๊ป..หาย
อารมณ์ความรู้สึก ชอบ - ไม่ชอบ ....พอใจ - ไม่พอใจ...ไม่ใช่ไม่มีครับ
มันมีอยู่ตามปกติ แต่พอรู้แล้วมันดับ....
---------------------------
ถามว่าพออารมณ์ดับแล้วเป็นอย่างไร ....ก็เป็นปกติครับ
ว่างๆ เฉยๆ ไม่มีอะไร ก็ใช้ชีวิตตามปกติครับ...
หิวก็กิน ง่วงก็นอน
ถึงเวลาที่ควรทำอะไรก็ทำ ...ทำไปตามที่ร่างกายต้องการ แบบมีสติปัญญามากขึ้น ...ทำตามอารมณ์น้อยลง
พอจิตเราหลงตามอารมณ์น้อยลง เราก็มีปัญญามากขึ้นครับ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควร....อะไรควรทำก่อน - หลัง
และก็มีปัญญาเห็นความธรรมดาของโลกมากขึ้นด้วย ....เห็นว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง ไม่น่าหลงไหล
การที่เราไม่ค่อยติดอารมณ์ มันก็ทำให้ตาสว่างมากขึ้น ....โดนความโลภ ความลำเอียง ความหลง หลอกได้น้อยลงครับ
บางทีเห็นแม้กระทั่งว่า ความรู้สึกต่างๆ นี้มันไม่ใช่ของเรา
และก็รู้ว่าเรื่องที่เรายังแก้ไม่ได้ ก็คือชอบหมกตัวอยู่หน้าคอมนี่เอง... บางอารมณ์ เราก็ยังแก้มันไม่ได้
สาธุ ธรรมะ ง่ายๆ จากหลวงพ่อเทียน ที่ไม่ต้องบรรยายอะไรให้เข้าใจยาก ซับซ้อน
แต่มันได้ผลจริง ชีวิตเบาขึ้นครับ