ผมโดนรถชน คู่กรณีทั้งคนขับเพิกเฉยและประกันไม่สนใจ ไม่มีใครรับผิดชอบ

ปลายปีที่ผ่านมา ผมขับรถมาจากหัวหิน กำลังจะกลับบ้านหาดใหญ่ ไปรับลูกปิดเทอมกลับมาบ้าน นั่งรถมาทั้งครอบครัว ลูก 2คนและภรรยา ขับอยู่เลนซ้ายสุด ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ขับด้วยความเร็วประมาณ 80 ก.ม./ชั่วโมง ถนนมี 3 เลน ไฟถนนสว่างปกติ จู่ๆมีปิคอัพขับด้วยความเร็วสูงมาชนช่วงถังน้ำมันด้านขวา ในขณะนั้นไม่มีรถคันอื่นวิ่งอยู่บนถนนเลย รถผมเสียหลัก หมุนส่าย แต่ผมสติดีเพิ่งคุยกันว่าใกล้ถึงบ้านแล้ว อีกแค่ชั่วโมงเดียว เพราะเห็นป้ายบอกระยะทางว่าเหลือ 80 ก.ม. ผมพยายามบังคับรถ และบอกคนในรถว่ารถเราถูกชน จู่ๆได้ยินเสียงรถครูดถนน และบังคับรถไม่ได้ รถล้อหลังขวาหลุดครับ รถไถลไปจนไปจอดเกยที่เกาะกลางถนน ผมมีเลือดออกทางจมูกหยดลงบนเสื้อตลอดช่วงที่พยายามบังคับรถที่กำลังไถล ขณะที่ลูกสาวร้องไห้เห็นพ่อเลือดออก ลูกผมคนเล็กที่นอนหลับอยู่ในคาร์ซีทหลังคนขับกระเด็นหลุดมากระแทกเบาะ ส่วนภรรยาก็บอกทุกคนว่าพยายามตั้งสติใจเย็นๆ

ภายหลังรถจอดสนิทเกยเกาะกลางถนน สักพักก็มีคนวิ่งมาดู เห็นผมเลือดออก รถพังและล้อหลุด ลูกสาวร้องไห้ (ผมไปรับลูกคนนี้กลับมาบ้านตอนปิดเทอมแท้ๆ ผมสงสารลูกจริงๆ) ก็พยายามเข้ามาช่วย มาสอบถาม ผมก็บอกไม่เป็นไร ผมจะโทรหาเพื่อนให้มารับกลับบ้านเพราะลูกง่วงนอน เพิ่งบอกลูกว่าจะถึงบ้านแล้ว โชคร้ายเดือนสิ้นปีจริงๆ สักพักใหญ่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จะให้ผมเอาลูกออกมาพักผ่อนก่อน ภรรยาบอกผมว่าถ้าไหวก็อยู่ในรถนี่แหละเดี๋ยวของจะหาย สุดท้ายก็มีฝนตกปรอยๆ ผมก็นั่งอยู่ในรถจนพักใหญ่ก็มีเพื่อนมา ผมก็ออกจากรถ เอาของลงจากรถ และกลับพร้อมเพื่อนที่มารับ ส่วนรถก็มีเจ้าหน้าที่มาลากไปโรงพัก รถพยาบาลก็มาจะรับตัวไปแต่ผมไม่ไป บอกว่าผมคิดว่าไม่เป็นไร

หลังจากนั้น ผมก็มาโรงพักตามที่นัดหมาย ตลอดการให้ปากคำคู่กรณีผมนั่งหันหลังให้ผมตลอดและหันข้างคุยกับสารวัตรที่กำลังสอบปากคำ ไม่มีคำว่าเสียใจหรือขอโทษแม้แต่นิดเดียว หรือสอบถามถึงความรู้สึกของเด็กๆลูกของผม มีเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาในวันนั้นด้วย (ผมมาทราบภายหลังว่าเป็นเซอร์เวย์ ผมก็ไม่รู้มีหน้าที่อะไร) ทั้งพ่อแม่ฝ่ายที่ชนผมพูดว่าจะเอาอะไรกับน้อง เขาก็บาดเจ็บด้วย ...เข้าใจพูดนะ ใครรู้สึกถึงหัวอกผมบ้างหากผมต้องเสียใครไปในเหตุการณ์นี้ โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กที่นั่งใกล้ตำแหน่งปะทะมาก รถเราอาจจะเสียหลักพลิกคว่ำ โดนรถคันอื่นวิ่งมาชนซ้ำ ถังน้ำมันระเบิด หรือลูกชายผมตายคาที่

หลังจากนั้น ผมก็มาตามที่สารวัตรนัดอีก การมาแต่ละครั้งผมต้องอาศัยเพื่อนพามา การมาแต่ละครั้งก็ทุลักทุเล ผมพาลูกชายคนเล็กมาด้วย เอารถเข็นมาด้วย เอาคาร์ซีทมาด้วย มากับรถปิคอัพของเพื่อน เสียค่าน้ำมันให้เขาช่วยพามา มาครั้งนี้คู่กรณีรับสารภาพ ข้อหาขับรถโดยประมาท ผมเรียกค่าเสียหาย เป็นค่ารถ และค่าทำขวัญพวกเราทั้ง 4คน คนที่ชนผมบอกว่าอยากได้อะไรก็ไปฟ้องเอา เขาไม่ให้

ลูกชายผมฝังใจมาก เอารถของเล่นที่บ้านมาเอากล่องมารองที่ล้อ เหมือนสภาพรถเราตอนนี้เลย แล้วหมุนล้อเล่น บอกว่าไม่มีล้อ รถมันพัง  

ผมไปโรงพักเพื่อจะไปดูรถ พบว่ารถคันที่มาชนผมซึ่งจอดอยู่ข้างกัน เอาออกไปแล้ว แสดงว่าเอาออกไปซ่อมหรือทำอะไรสักอย่าง แต่รถผมไม่มีใครทำอะไร จอดอยู่ที่เดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ผมถูกชนนะ

วันหนึ่งซึ่งผ่านมาสองเดือน นายเซอร์เวย์ส่งไลน์มาหาผม บอกว่าเขาหมดหน้าที่แล้ว ถ้าผมอยากได้อะไรให้ผมไปติดต่อที่บริษัทประกันภัยเอง ผมถึงกับอึ้ง นี่ผมรอคุณอยู่นะ จู่ๆคุณจบแค่นี้เหรอ ไม่ทำอะไรให้ผมเลย ผมเสียเวลารออะไรอยู่เนี่ย ผมคิดว่าคุณกำลังดำเนินการเรื่องให้ผมอยู่นะ จบกัน

หลังจากนั้นผมก็กลับไปโรงพักเพื่อขอเอกสารจากสารวัตร เพราะผมคิดว่าทางฝ่ายประกันกำลังดำเนินการอยู่ แต่ตอนนี้ผมต้องมาวิ่งเรื่องเอง

ผมไปที่บริษัทประกันภัย ชื่อว่ากรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย ไปยื่นเรื่อง คุยกับเจ้าหน้าที่ ส่งเอกสารให้ เขาก็ดี๊ดีบอกว่าจะรีบตามเรื่องให้ ผมไลน์คุยกับเขาอยู่ตลอด ส่งรูปเหตุการณ์ให้ทางไลน์ตามที่ขอ เขาก็ตามเรื่อง ตามเรื่อง และตามเรื่อง ... ไม่มีอะไรคืบหน้าครับ เขาบอกแต่ว่ารออนุมัติ รอพิจารณา รอตรวจสอบ แล้วก็เงียบไป

ผมรู้สึกว่าผมถูกหลอกให้รออีกแล้ว ผมปรึกษาทนายความ 2-3คน เขาพูดเหมือนกันหมดเลยคือ นโยบายบริษัทประกัน ต้องจ่ายน้อยที่สุด ช้าที่สุด รอได้รอไป เดี๋ยวก็ต้องยอมเอง เพราะเขาเจอเคสแบบนี้มาเยอะแล้ว

ตอนนี้ผ่านไป 3 เดือนแล้วครับ รถผมจอดอยู่ที่โรงพัก ภายในขึ้นรา กลิ่นอับ รถเริ่มเป็นสนิม เพราะจอดที่สนามหญ้า ทนายบอกให้ผมหาเงินไปซ่อมเอง ถ้าอยากจะฟ้อง เพราะไม่งั้นจะฟ้องไม่ได้ เพราะยังไม่เกิดค่าเสียหาย

แบบนี้ผมยังไม่เกิดค่าเสียหายเหรอครับ...

...เพื่อนๆผู้มีความรู้ช่วยผมที...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่