เศรษฐกิจมันจะไปดีได้ยังไง?

รายได้ๆหลักของประเทศไทยมาจาก

- ส่งออกสินค้าการเกษตร
       ประเทศเเถบตะวันออกกลางที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายเค้าผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอขายน้ำมันซื้ออาหารเข้าประเทศ
ประเทศไทยไม่มีอะไรเเบบนั้น แต่เราเพาะปลูกได้ การเกษตรจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของรายได้ที่จะเข้าประเทศ แต่รัฐก็ไม่สนับสนุน...
ปีนี้เเล้งมาก ถ้าใครอยู่ตามชนบทจะรู้ ของพวกนี้ไม่ใช่ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เรามีเขื่อน มีระบบชลประทาน แต่การบริหารทรัพยากรมันเเย่
ราคาขายผลผลิตก็ต่ำมาก แต่ราคาซื้อกินเเพง ของเเพง แต่ทำไมเกษตรกรไม่รวย

- การท่องเที่ยว
       การท่องเที่ยวคงหวังอะไรได้ไม่มากจากประเทศที่เพิ่งรัฐประหาร บริษัทประกันหลายเเห่งไม่รองรับกรณีนี้

- การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ
       ประเทศไทยไม่คอยมีบริษัทใหญ่ๆเข้ามาตั่งฐานการผลิตแล้ว พม่าเพิ่งเปิดประเทศกำลังมาแรง ค่าเเรงถูกกว่าไทยด้วย(แต่โครงสร้างพื้นฐานภายในยังไม่ดี) เวียดนามก็พัฒนามากแล้ว เมื่อก่อนในเเถบเอเชียเราเจริญมาก รถไฟก็มีก่อนทุกประเทศในเเถบนี่(พร้อมญี่ปุ่น) ร้อยปีผ่านไปเราก็ยังอนุรักษ์ของเก่าเดือนก่อนผมนั่งไปเชียงใหม่ (800 กม) 18 ชม ถ้ามีชินคันเซน(400 km/hr) จะใช้เพียง 2ชม แสดงว่าการบริหารของเรามีปัญหามาก หลายสิบปีก่อนเราแข่งกับมาเล เเข่งกับจีน(เมื่อก่อนจีดีพีเราพอๆกับจีนนะ) ทุกวันนี้เราเเข่งกับอะไร

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผมอยากให้ จขกท.มองให้รอบด้านมากกว่านี้นะครับ
- ส่งออกสินค้าการเกษตร
เห็นด้วยครับว่าเราควรปรับปรุง แต่จริงๆแล้วรัฐบาลให้การสนับสนุนมาตลอด แต่ให้ผิดทาง เช่นไปสนับสนุนราคา ทั้งจำนำทั้งประกันราคา ซึ่งเป็นทุกรัฐบาลกันมาต่อเนื่อง จริงๆแล้วรัฐควรส่งเสริมให้ 1)ให้ความรู้ในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ (ทราบไหมครับว่าผลผลิตต่อไร่ของพืชผลหลักหลายชนิดในเมืองไทยมีผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก โดยเฉพาะข้าว) 2)เพิ่มมูลค่าของผลผลิต เช่น จับกลุ่มตลาดพืชไร้สาร ไร้การตัดต่อพันธุกรรม ไม่ใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง ซึ่งจะทำให้เพิ่มราคาได้ แต่รัฐบาลที่ผ่านมาทุกรัฐบาล ไม่มีใครที่มองระยะยาวเลย ได้แต่หว่านเงิน หวังเสียงในการเลือกตั้ง

- การท่องเที่ยว
ผมคิดว่าปัจจัยที่มีผลต่อการท่องเที่ยวไทยไม่เกี่ยวกับรัฐประหารมากนัก (แต่การประท้วง และเหตุไม่สงบจากการเมือง เช่นระเบิดตามศูนย์การค้า มีผลพอควร) แต่ที่มีผลมากกว่าคือเศรษฐกิจโลกครับ สหรัฐ ยุโรป ประสบปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรัง แน่นอนว่าทำให้นักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้ ซึ่งจับจ่ายใช้สอยมากกว่ากลุ่มอื่น ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกกลุ่มคือรัสเซีย ซึ่งเข้ามากมากในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา ก็ลดลงจนแทบหดหายหมด เพราะเศรษฐกิจภายในประเทศของเขาเองไม่ดี (ผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้รัสเซียที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลักขาดรายได้) ตอนนี้ก็เหลือแต่จีนเท่านั้น ซึ่งจับจ่ายน้อยกว่า

- การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ
อันนี้ผมว่าการเมืองมีผลอย่างมาก โดยได้รับผลกระทบจาก 1) การประท้วงต่อเนื่อง ทั้งสองสี ถึงตอนนี้จะมีรัฐประหาร แต่ดูแนวโน้มแล้ว ยังไม่สงบง่ายๆแน่ 2)การแก้ปัญหาของภาครัฐเช่น ตอนน้ำท่วมใหญ่ เมื่อเราแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โยนความผิดกันไปมา ไม่คิดที่จะแก้ปัญหากันจริงจัง ผลออกมาก็คือภาคเอกชนเสียหาย ทั้งๆที่น่าจะป้องกันได้ 3)นโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ค่อยคำนึงถึงผลกระทบ เช่น ค่าแรง 300 (ส่วนตัวเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงแต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันมีผลกระทบจริงในบางอุตสาหกรรม) และรถคันแรก (มีผลกระทบกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ลีสซิ่ง ตลาดรถมือสอง รวมถึงภาคอุปโภคบริโภค เพราะเม็ดเงินส่วนใหญ่ถูกดูดซับไปกับการผ่อนรถค่อนข้างมาก)

ส่วนการแก้ปัญหา ผมว่าการเลือกตั้งก็ไม่ได้แก้ปัญหา หากยังใช้นโยบายแบบเดิม (แต่ถ้าเปลี่ยนแนวทางนโยบาย เป็นมองประโยชน์ของประเทศชาติกันจริงๆ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ผมก็ว่าการเลือกตั้งน่าจะดีกว่าครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่