จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทย คนที่ยิ่งฉลาด ยิ่งขาดทุนมากในตลาดหุ้น แต่คนที่ฉลาดปานกลางแต่หากมี EQ สูง กลับสามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่าใน"วิกฤติ ย่อมมีโอกาส" แต่จะมีซักกี่คน ที่มองข้ามผ่านเมฆหมอกแห่งความกังวล แต่เห็นไปถึงวันข้างหน้าที่สดใสได้ ในเมื่อบรรยากาศทั้งหมด มันไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างดูจะแย่ลง แย่ลง คนเรามองเห็นสิ่งที่ใจรู้สึก หากบรรยากาศรอบตัวร้อนเราก็จะเห็นแค่ความร้อน เราจะนึกถึงเวลาอากาศเย็นไม่ถูกเลย สิ่งเหล่านี้เป็นวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์แล้วว่า คนเราใช้ความรู้สึก ตลาดนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่มีลักษณะตายตัว แต่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นได้ตลอดเวลา เขาตั้งคำถามว่า "หากเครื่องมือต่างๆเหล่านั้นแม่นยำจริง ทำไมนักลงทุน ที่ใช้เครื่องมือเหล่านั้น จึงยังประสบกับความขาดทุนอยู่ เครื่องมือเหล่านั้นจะวิเคราะห์เฉพาะจุด ไม่ผิดกับตาบอด คลำช้าง ไม่เห็นภาพรวมของตลาดหรือของตัวหุ้นนั้นๆ มันไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ผันแปรอยู่เสมอของตลาดหุ้นได้ " ดังนั้นแม้เครื่องมือต่างๆอาจจะไม่มีความสมบูรณ์ในตัวมัน แต่หากเราเข้าใจอารมณ์ตลาด มาผสมผสานกับ การวางแผน การลงทุนที่เข้าใจหลักจิตวิทยามวลชน การเล่นหุ้นจะทำได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นก็นั่งกระดิกไปครับ อย่าคิดเยอะ
ปล. เครดิตบทความส่วนหนึ่งจาก จิตวิทยาในการเล่นหุ้น
" โชคร้ายของคนฉลาด "
ปล. เครดิตบทความส่วนหนึ่งจาก จิตวิทยาในการเล่นหุ้น