ย้ายมาจากนี่นะครับ
http://pantip.com/topic/33410599/comment4
เมื่อหลายเดือนก่อนผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งผมเป็นฝ่ายถูก และประกันของคู่กรณี ก็มาเคลียร์กับผมเรื่องซ่อมรถ โดยตอนนั้นผมซึ่งบากเจ็บขาหักด้วยนะตอนนั้น ยังไม่หายดีเนี่ย ก็คุยกับเขาเรื่องค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ผมไป ก็คุยกันเสร็จเรียบร้อยผมถามถึงค่าสินไหมอะไรเขาก็ว่ารอหายก่อนเอาเรื่องรถให้จบ ก่อนผมก็คุยตกลงเรื่องค่าซ่อมกับเขาไปแล้วก็รับเงินมา
พอวันนี้เรื่อง หมออนุญาตให้ผมเดินโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำแล้ว ผมเลยไปหาบริษัทประกันบริษัทนี้แถวพระรามเก้า เพื่อดำเนินการเรื่องค่ารักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยของผมนะ ก็โอเคคุยกันเรื่องจบ
คราวนี้ผมถามถึงสินไหมค่าเสียประโยชน์จากการขาดรถใช้ระหว่างซ่อม ทางคนที่คุยกับผมเขาก็บอกว่าต้องคุยกับแผนกที่ดูแลเกี่ยวกับรถ เขาดูเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บอย่างเดียว
ผมก็ติดต่อกับเขาไป เขาก็บอกว่าต้องคุยกับคนที่รับเรื่องของผมตอนคุยกันเรื่องซ่อม ผมก็หาทางติดต่อกับคนที่เขารับเรื่องผมตอนนั้น เขากลับบอกผมว่า เงินนั้นรวมกับค่าซ่อมรถไปแล้วซึ่งผมก็ว่ายิ้มเอ๊ย ตอนนั้นผมจะรู้ได้ไงวะว่าผมต้องไม่มีรถใช้กี่วัน ผมจะไปบอกได้หรอไหนจะขาหักอีก แล้ววันนั้นคุยกันก็ว่าค่าซ่อม ทุกอย่างจบ อ่อที่บอกจบคือแอบรวบไปใช่มั้ย ไม่บอกดีๆเลย ถ้าบอกดีๆตอนนั้นก็ยังจบไม่ได้หรอก แหม ศูนย์ตีราคามามาขอต่อราคาให้เงินสดก็ทีละ นี่มาบอกค่าสินไหมคิดรวมแล้ว บ้าแล้ว แบบนี้ค่าแท็กซี่ที่ผมเสียล่ะ
คือค่าซ่อม เนี่ยศูนย์ตีออกมา 41000 เขาก็ขอต่อรองเหลือ 35000 โดยจะให้เป็นเงินสดเลยแล้วอ้างว่าให้เราบริหารจัดการ แต่ไม่เห็นพูดถึงค่าสินไหม ผมก็เลยยอมเซ็นไป พอถึงเวลาผมจะไปเรียกค่าสินไหมดันบอกรวมแล้ว สินไหม ไม่มีรถใช้เป็นครึ่งปีบวกค่าซ่อม ดันถูกกว่าค่าซ่อมที่ศูนย์ตีให้ บ้าแล้วครับ
คือรู้สึกว่าโดนหลอกมากๆเลย ครั้งนี้ต่อให้ไม่ได้เงินก็อยากให้เป็นกรณีศึกษาครับ ใครคุยกับประกันนี่ต้องระวังเลย
ดูการตอบสิครับ เหอๆ บริษัทอื่นไม่รู้เป็นไง แต่ธสีส้มนี่คุยแบบนี้สินะ
ครับ ฟังแล้วไม่อ่านให้ดีเอง โทษเขาไม่ได้สินะ ไม่น่าไว้ใจใช่มั้ยคำพูดของพนักงานประกัน
มีคนแนะนำมาว่าให้ลอง สู้ในประเด็นการทำนิติกรรมโดยสำคัญผิด แต่กำลังศึกษาอยู่ว่าจะคุ้มมั้ยเห้อ
เซ็นรับเงินจากประกันต้องระวังไม่งั้นจะเจอแบบนี้
http://pantip.com/topic/33410599/comment4
เมื่อหลายเดือนก่อนผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งผมเป็นฝ่ายถูก และประกันของคู่กรณี ก็มาเคลียร์กับผมเรื่องซ่อมรถ โดยตอนนั้นผมซึ่งบากเจ็บขาหักด้วยนะตอนนั้น ยังไม่หายดีเนี่ย ก็คุยกับเขาเรื่องค่าซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ผมไป ก็คุยกันเสร็จเรียบร้อยผมถามถึงค่าสินไหมอะไรเขาก็ว่ารอหายก่อนเอาเรื่องรถให้จบ ก่อนผมก็คุยตกลงเรื่องค่าซ่อมกับเขาไปแล้วก็รับเงินมา
พอวันนี้เรื่อง หมออนุญาตให้ผมเดินโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำแล้ว ผมเลยไปหาบริษัทประกันบริษัทนี้แถวพระรามเก้า เพื่อดำเนินการเรื่องค่ารักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยของผมนะ ก็โอเคคุยกันเรื่องจบ
คราวนี้ผมถามถึงสินไหมค่าเสียประโยชน์จากการขาดรถใช้ระหว่างซ่อม ทางคนที่คุยกับผมเขาก็บอกว่าต้องคุยกับแผนกที่ดูแลเกี่ยวกับรถ เขาดูเกี่ยวกับผู้บาดเจ็บอย่างเดียว
ผมก็ติดต่อกับเขาไป เขาก็บอกว่าต้องคุยกับคนที่รับเรื่องของผมตอนคุยกันเรื่องซ่อม ผมก็หาทางติดต่อกับคนที่เขารับเรื่องผมตอนนั้น เขากลับบอกผมว่า เงินนั้นรวมกับค่าซ่อมรถไปแล้วซึ่งผมก็ว่ายิ้มเอ๊ย ตอนนั้นผมจะรู้ได้ไงวะว่าผมต้องไม่มีรถใช้กี่วัน ผมจะไปบอกได้หรอไหนจะขาหักอีก แล้ววันนั้นคุยกันก็ว่าค่าซ่อม ทุกอย่างจบ อ่อที่บอกจบคือแอบรวบไปใช่มั้ย ไม่บอกดีๆเลย ถ้าบอกดีๆตอนนั้นก็ยังจบไม่ได้หรอก แหม ศูนย์ตีราคามามาขอต่อราคาให้เงินสดก็ทีละ นี่มาบอกค่าสินไหมคิดรวมแล้ว บ้าแล้ว แบบนี้ค่าแท็กซี่ที่ผมเสียล่ะ
คือค่าซ่อม เนี่ยศูนย์ตีออกมา 41000 เขาก็ขอต่อรองเหลือ 35000 โดยจะให้เป็นเงินสดเลยแล้วอ้างว่าให้เราบริหารจัดการ แต่ไม่เห็นพูดถึงค่าสินไหม ผมก็เลยยอมเซ็นไป พอถึงเวลาผมจะไปเรียกค่าสินไหมดันบอกรวมแล้ว สินไหม ไม่มีรถใช้เป็นครึ่งปีบวกค่าซ่อม ดันถูกกว่าค่าซ่อมที่ศูนย์ตีให้ บ้าแล้วครับ
คือรู้สึกว่าโดนหลอกมากๆเลย ครั้งนี้ต่อให้ไม่ได้เงินก็อยากให้เป็นกรณีศึกษาครับ ใครคุยกับประกันนี่ต้องระวังเลย
ดูการตอบสิครับ เหอๆ บริษัทอื่นไม่รู้เป็นไง แต่ธสีส้มนี่คุยแบบนี้สินะ
ครับ ฟังแล้วไม่อ่านให้ดีเอง โทษเขาไม่ได้สินะ ไม่น่าไว้ใจใช่มั้ยคำพูดของพนักงานประกัน
มีคนแนะนำมาว่าให้ลอง สู้ในประเด็นการทำนิติกรรมโดยสำคัญผิด แต่กำลังศึกษาอยู่ว่าจะคุ้มมั้ยเห้อ