เข้าหน้าร้อน มะม่วงเริ่มออก ทุเรียนก็กำลังจะมา ลองทำข้าวเหนียวมูนกันดู แต่วันนี้ไม่มีมะม่วง กินกับสังขยาแทนไปก่อน
ข้าวเหนียวเก่า 2 ถ้วยตวง ส่วนใหญ่นิยมข้าวเหนียวเขี้ยวงู
ล้างหลาย ๆ น้ำ แล้วแช่น้ำไว้สัก 3 ชั่วโมง
ครบเวลาแล้วซาวข้าวเหนียวอีก 2 - 3 น้ำ ให้น้ำซาวออกใส ๆ แล้วเอาไปนึ่ง จับเวลา ใช้เวลานึ่งประมาณ 35 นาที
ระหว่างนึ่งข้าวเหนียว ก็เตรียมน้ำกะทิสำหรับมูน น้ำกะทิก็ใช้หัวกะทิล้วน ๆ นะครับ สัดส่วนดังนี้
ถ้าหุงข้าวเหนียว 1 ถ้วย น้ำตาลทรายขาวกับกะทิ ก็อย่างละ 0.6 ถ้วย วันนี้หุงข้าวเหนียว 2 ถ้วย ก็ใช้น้ำตาลทรายขาว 1.2 ถ้วย น้ำกะทิ 1.2 ถ้วย และใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ประมาณครึ่งช้อนชา
อยากทำข้าวเหนียวสีเหลือง เลยใส่ขมิ้นชันลงไปประมาณ เศษหนึ่งส่วนสามแคปซูล (เอามาจากยาขมิ้นชันนะครับ)
คนให้เข้ากัน ทำละลาย (ไม่จำเป็นต้องทำให้ร้อน กะทิอุณหภูมิห้องก็ทำละลายน้ำตาลทรายได้)
กรองใส่ภาชนะที่จะใช้มูนข้าวเหนียวไว้
ข้าวเหนียวนึ่งสุกพอดี
เอาข้าวเหนียวนึ่งที่ียังร้อน ๆ ใส่ลงไปในน้ำกะทิ
คนให้เข้ากัน จะเห็นว่าน้ำกะทิท่วมข้าวเหนียวนึ่งเล็กน้อย
ปิดฝาไว้ทิ้งไว้
คน (ตักปาดขึ้นมา ไมใช่กวน) ครั้งแรกเมื่อผ่านไปประมาณ 20 นาที จะเห็นว่าข้าวเหนียวมูนเริ่มฟูขึ้นมาบ้างแล้ว
คนเสร็จแล้วปิดฝาเอาไว้ต่อ พ้นอีก 20 นาที ก็เปิดฝามาคนอีกครั้ง แล้วปิดฝาทิ้งเอาไว้อีกประมาณ 3 ชั่วโมง
ระหว่างรอข้าวเหนียวมูนได้ที่ ก็มาทำหน้าสังขยากัน
อัตราส่วนดังนี้ ไข่ 1 ส่วน น้ำตาลมะพร้าว 1 ส่วน น้ำตาลทรายขาว 1 ส่วน 5 ของน้ำตาลมะพร้าว หัวกะทิ 1 ส่วน เกลือปลายช้อนชา
ทำละลายให้เข้ากัน แล้วกรองใส่ภาชนะที่จะใช้นึ่ง
นึ่งในซึ้ง ใช้ไฟอ่อน นานประมาณสี่สิบนาที
ความนุ่มแข็ง กำลังดี รสหวานจัดจ้าน เหมาะกับการกินกับข้าวเหนียวมูนยิ่งนัก
ข้าวเหนียวมูนได้ 3 ชั่วโมงแล้ว กำลังได้ที่ ตัวข้าวเหนียวนึ่ง ซึมซับน้ำกะทิที่ใช้มูนไว้หมดแล้ว รสชาติออกหวานติดเค็มอ่อน ๆ ปลายลิ้น
ข้าวเหนียวสังขยา เสริฟได้
อ้าว เกือบลืม น้ำกะทิสำหรับราด ก็ใช้น้ำกะทิ 1 ถ้วย (235 ml.) เกลือสมุทร 1 ช้อนชาไม่พูน น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาพูน ๆ ทำละลายให้เข้ากันด้วยความร้อน อาจใช้เตาแกสหรือไมโครเวฟก็ได้ แต่ระวังกะทิล้นภาชนะ
ถ้าอยากได้ออกหนืด ๆ เหนียว ๆ แบบที่เค้าขายกัน ก็ร่อนแป้งท้าว หรือแป้งเท้ายายม่อมลงไปทำละลายด้วยกันสัก 1 ช้อนชาด้วย (ใส่ลงไปตอนกะทิยังเย็น ๆ อยู่)

แบ่งกันคนละจานครับ
ขอให้เจริญอาหาร

ขอบคุณที่ติดตามชม
สวัสดี
ข้าวเหนียวสังขยา แบบง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน
ข้าวเหนียวเก่า 2 ถ้วยตวง ส่วนใหญ่นิยมข้าวเหนียวเขี้ยวงู
ล้างหลาย ๆ น้ำ แล้วแช่น้ำไว้สัก 3 ชั่วโมง
ครบเวลาแล้วซาวข้าวเหนียวอีก 2 - 3 น้ำ ให้น้ำซาวออกใส ๆ แล้วเอาไปนึ่ง จับเวลา ใช้เวลานึ่งประมาณ 35 นาที
ระหว่างนึ่งข้าวเหนียว ก็เตรียมน้ำกะทิสำหรับมูน น้ำกะทิก็ใช้หัวกะทิล้วน ๆ นะครับ สัดส่วนดังนี้
ถ้าหุงข้าวเหนียว 1 ถ้วย น้ำตาลทรายขาวกับกะทิ ก็อย่างละ 0.6 ถ้วย วันนี้หุงข้าวเหนียว 2 ถ้วย ก็ใช้น้ำตาลทรายขาว 1.2 ถ้วย น้ำกะทิ 1.2 ถ้วย และใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ประมาณครึ่งช้อนชา
อยากทำข้าวเหนียวสีเหลือง เลยใส่ขมิ้นชันลงไปประมาณ เศษหนึ่งส่วนสามแคปซูล (เอามาจากยาขมิ้นชันนะครับ)
คนให้เข้ากัน ทำละลาย (ไม่จำเป็นต้องทำให้ร้อน กะทิอุณหภูมิห้องก็ทำละลายน้ำตาลทรายได้)
กรองใส่ภาชนะที่จะใช้มูนข้าวเหนียวไว้
ข้าวเหนียวนึ่งสุกพอดี
เอาข้าวเหนียวนึ่งที่ียังร้อน ๆ ใส่ลงไปในน้ำกะทิ
คนให้เข้ากัน จะเห็นว่าน้ำกะทิท่วมข้าวเหนียวนึ่งเล็กน้อย
ปิดฝาไว้ทิ้งไว้
คน (ตักปาดขึ้นมา ไมใช่กวน) ครั้งแรกเมื่อผ่านไปประมาณ 20 นาที จะเห็นว่าข้าวเหนียวมูนเริ่มฟูขึ้นมาบ้างแล้ว
คนเสร็จแล้วปิดฝาเอาไว้ต่อ พ้นอีก 20 นาที ก็เปิดฝามาคนอีกครั้ง แล้วปิดฝาทิ้งเอาไว้อีกประมาณ 3 ชั่วโมง
ระหว่างรอข้าวเหนียวมูนได้ที่ ก็มาทำหน้าสังขยากัน
อัตราส่วนดังนี้ ไข่ 1 ส่วน น้ำตาลมะพร้าว 1 ส่วน น้ำตาลทรายขาว 1 ส่วน 5 ของน้ำตาลมะพร้าว หัวกะทิ 1 ส่วน เกลือปลายช้อนชา
ทำละลายให้เข้ากัน แล้วกรองใส่ภาชนะที่จะใช้นึ่ง
นึ่งในซึ้ง ใช้ไฟอ่อน นานประมาณสี่สิบนาที
ความนุ่มแข็ง กำลังดี รสหวานจัดจ้าน เหมาะกับการกินกับข้าวเหนียวมูนยิ่งนัก
ข้าวเหนียวมูนได้ 3 ชั่วโมงแล้ว กำลังได้ที่ ตัวข้าวเหนียวนึ่ง ซึมซับน้ำกะทิที่ใช้มูนไว้หมดแล้ว รสชาติออกหวานติดเค็มอ่อน ๆ ปลายลิ้น
ข้าวเหนียวสังขยา เสริฟได้
อ้าว เกือบลืม น้ำกะทิสำหรับราด ก็ใช้น้ำกะทิ 1 ถ้วย (235 ml.) เกลือสมุทร 1 ช้อนชาไม่พูน น้ำตาลทราย 1 ช้อนชาพูน ๆ ทำละลายให้เข้ากันด้วยความร้อน อาจใช้เตาแกสหรือไมโครเวฟก็ได้ แต่ระวังกะทิล้นภาชนะ
ถ้าอยากได้ออกหนืด ๆ เหนียว ๆ แบบที่เค้าขายกัน ก็ร่อนแป้งท้าว หรือแป้งเท้ายายม่อมลงไปทำละลายด้วยกันสัก 1 ช้อนชาด้วย (ใส่ลงไปตอนกะทิยังเย็น ๆ อยู่)
แบ่งกันคนละจานครับ
ขอให้เจริญอาหาร
ขอบคุณที่ติดตามชม
สวัสดี