ก่อนหน้านี้ใช้ iPhone 6 ซื้อจาก apple online store แต่สุดท้ายก็ระงับกิเลสไม่ได้ เลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็น plus
แต่ถ้าสั่งจาก. apple online store กว่าเครื่องจะมาถึง มันก็ไม่ทันใจ เข้า ais shop เข้า apple store สามห้างแล้ว ก็ไม่มีของ ต้องรอ
เพื่อนเลยแนะนำไปดูใน Dtac Online Store เอาวะ ถูกกว่าชาวบ้านเค้าตั้ง 400-500 ด้วย ตกลงเลยสั่งเพราะอยากได้ไวๆ สั่งทั้งที่ไม่เคยใช้บริการดีแทค มาก่อน เพราะเชื่อโฆษณา
แล้วก็ได้เครื่องมาใช้วันที่ 30 มกราคม สมใจ
พอเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แบตมันใกล้จะหมด เลยเสียบสายชาร์ตไว้ แล้วก็เตรียมตัวออกไปทำงานตอนเช้าตามปกติ
จะออกบ้าน หยิบโทรศัพท์มาดู
เจ้ากรรม!เครื่องมันปิด แล้วก็เปิดไม่ได้
ถึงออฟฟิศ รีบโทรหา online support เขาก็บอกให้ทำนั่นทำนี่ไปตามขั้นตอน ก่อนจะบอกให้เอาเครื่องไปเข้าศูนย์ดีแทคในที่สุด
หาข้อมูลได้แล้วว่าอยู่ที่ไหน ตอนบ่ายเลยลางาน หอบสังขารไปพารากอน
ขั้นตอนก็คงตามปกติของเค้าล่ะมั้ง เพราะนี่ครั้งแรกของเรา แรกสำหรับดีแทค แรกสำหรับเคลมโทรศัพท์ แรกสำหรับโทรศัพท์เครื่องละสามหมื่น แล้วพังหลังใช้งานได้ไม่ถึงเดือน!!!
เราออกมาจาก ดีแทค เคลมเซนเตอร์ พร้อมกระดาษใบนึงที่ระบุว่า
"ส่งเรื่องขอเปลี่ยนเครื่อง ภายในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์"
iPhone 6 Plus 64GB Gold (MGAA2TH/A)
IMEI : 354435061816310
Date of Claim : 25 February, 2015
Ticket ID : BRA359835
No. of Document : BRA359835
ศูนย์เค้าไม่เอาโทรศัพท์เราไว้นะ เช็คเครื่องเราเสร็จก็คืนมา บอกว่า ให้เอามาอีกทีตอนเปลี่ยนเครื่องเลย
ซึ่ง 3-4 อาทิตย์นี่มันนานมากนะ ต่อรองแล้วแต่ จนท บอกว่า ตามขั้นตอนก็ประมาณนี้แหล่ะค่ะ
แต่ขั้นตอนไม่มีบอกนะ ว่า 3-4 อาทิตย์นี้ คุณจะใช้งานโทรศัพท์ยังไง ทำไงได้ ก็สัญญาเขาระบุไว้แล้ว เลยต้องตรงดิ่งไปมาบุญครองต่อ เพื่อซื้อ iPhone 4s มือสองมาใช้งานชั่วคราว
จากวันนั้น จนวันนี้ เหลืออีก 6 วัน จะครบกำหนด
"ทำเรื่องรอเปลี่ยนเครื่อง 3-4 อาทิตย์" แล้ว
ไม่มีสายไหนจะโทรมาบอกความคืบหน้า ให้ลูกค้าอย่างเราทราบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในใบเคลมก็ไม่มีข้อมูลให้ติดต่อ เลยไม่รู้ว่าตกลง จะได้ตามนัดมั้ย หรือจะยืด เวลาออกไปอีก
ถ้าไม่ถือเป็นธุระ เพราะว่ามันพังเอง สายงานการผลิตที่เมืองจีนมันห่วยเอง ฉันมีหน้าที่ขายเฉยๆ ก็ระลึกถึงราคาที่ลูกค้าจ่ายให้คุณบ้าง
คุณไม่ร้อนใจ แต่เราร้อนใจ
ทีตอนจะซื้อนี่การันตีดีทุกประการ ไหนจะโหมโฆษณาปีละตั้งหลายร้อยล้าน เรียกความมั่นใจจากลูกค้า ซึ่งก็ทำสำเร็จแล้วด้วย
แต่จะทำ จะโหมไปทำไมให้สิ้นเปลืองงบ ถ้าด้านหลังของการขาย มันมีแต่ความเงียบเหงาแบบนี้
ประสบการณ์อ้างว้าง จากการซื้อ iPhone 6 plus จาก Dtac online store
แต่ถ้าสั่งจาก. apple online store กว่าเครื่องจะมาถึง มันก็ไม่ทันใจ เข้า ais shop เข้า apple store สามห้างแล้ว ก็ไม่มีของ ต้องรอ
เพื่อนเลยแนะนำไปดูใน Dtac Online Store เอาวะ ถูกกว่าชาวบ้านเค้าตั้ง 400-500 ด้วย ตกลงเลยสั่งเพราะอยากได้ไวๆ สั่งทั้งที่ไม่เคยใช้บริการดีแทค มาก่อน เพราะเชื่อโฆษณา
แล้วก็ได้เครื่องมาใช้วันที่ 30 มกราคม สมใจ
พอเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แบตมันใกล้จะหมด เลยเสียบสายชาร์ตไว้ แล้วก็เตรียมตัวออกไปทำงานตอนเช้าตามปกติ
จะออกบ้าน หยิบโทรศัพท์มาดู เจ้ากรรม!เครื่องมันปิด แล้วก็เปิดไม่ได้
ถึงออฟฟิศ รีบโทรหา online support เขาก็บอกให้ทำนั่นทำนี่ไปตามขั้นตอน ก่อนจะบอกให้เอาเครื่องไปเข้าศูนย์ดีแทคในที่สุด
หาข้อมูลได้แล้วว่าอยู่ที่ไหน ตอนบ่ายเลยลางาน หอบสังขารไปพารากอน
ขั้นตอนก็คงตามปกติของเค้าล่ะมั้ง เพราะนี่ครั้งแรกของเรา แรกสำหรับดีแทค แรกสำหรับเคลมโทรศัพท์ แรกสำหรับโทรศัพท์เครื่องละสามหมื่น แล้วพังหลังใช้งานได้ไม่ถึงเดือน!!!
เราออกมาจาก ดีแทค เคลมเซนเตอร์ พร้อมกระดาษใบนึงที่ระบุว่า
"ส่งเรื่องขอเปลี่ยนเครื่อง ภายในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์"
iPhone 6 Plus 64GB Gold (MGAA2TH/A)
IMEI : 354435061816310
Date of Claim : 25 February, 2015
Ticket ID : BRA359835
No. of Document : BRA359835
ศูนย์เค้าไม่เอาโทรศัพท์เราไว้นะ เช็คเครื่องเราเสร็จก็คืนมา บอกว่า ให้เอามาอีกทีตอนเปลี่ยนเครื่องเลย
ซึ่ง 3-4 อาทิตย์นี่มันนานมากนะ ต่อรองแล้วแต่ จนท บอกว่า ตามขั้นตอนก็ประมาณนี้แหล่ะค่ะ
แต่ขั้นตอนไม่มีบอกนะ ว่า 3-4 อาทิตย์นี้ คุณจะใช้งานโทรศัพท์ยังไง ทำไงได้ ก็สัญญาเขาระบุไว้แล้ว เลยต้องตรงดิ่งไปมาบุญครองต่อ เพื่อซื้อ iPhone 4s มือสองมาใช้งานชั่วคราว
จากวันนั้น จนวันนี้ เหลืออีก 6 วัน จะครบกำหนด "ทำเรื่องรอเปลี่ยนเครื่อง 3-4 อาทิตย์" แล้ว
ไม่มีสายไหนจะโทรมาบอกความคืบหน้า ให้ลูกค้าอย่างเราทราบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในใบเคลมก็ไม่มีข้อมูลให้ติดต่อ เลยไม่รู้ว่าตกลง จะได้ตามนัดมั้ย หรือจะยืด เวลาออกไปอีก
ถ้าไม่ถือเป็นธุระ เพราะว่ามันพังเอง สายงานการผลิตที่เมืองจีนมันห่วยเอง ฉันมีหน้าที่ขายเฉยๆ ก็ระลึกถึงราคาที่ลูกค้าจ่ายให้คุณบ้าง
คุณไม่ร้อนใจ แต่เราร้อนใจ
ทีตอนจะซื้อนี่การันตีดีทุกประการ ไหนจะโหมโฆษณาปีละตั้งหลายร้อยล้าน เรียกความมั่นใจจากลูกค้า ซึ่งก็ทำสำเร็จแล้วด้วย
แต่จะทำ จะโหมไปทำไมให้สิ้นเปลืองงบ ถ้าด้านหลังของการขาย มันมีแต่ความเงียบเหงาแบบนี้