สวัสดีครับ คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็นลูกชายคนโต ตอนเด็กๆก็ช่วยงานที่บ้านอยู่บ่อยๆ พอโตขึ้นก็เหมือนเรียนหนักขึ้น แล้วเหมือนที่บ้านก็จ้างคนมาทำงานช่วยธุรกิจที่บ้าน จนแบบว่าผมก็ไม่ค่อยได้ยุ่งหยิบจับอะไรให้แม่สักเท่าไร แบบกลายเป็นมีหน้าที่เรียนอย่างเดียวอะครับตั้งแต่ขึ้นมัธยมมา ผมก็รู้สึกผิดนะคือปกติจากเคยช่วยกลายเป็นเหมือนอยู่เฉยๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำไงอะ พอเข้าขอไปช่วยตอนนี้แบบก็มีคนงานช่วยเหมือนเราไปเกะกะป่าวๆด้วย คือช่วง ม ต้น เราไม่ได้เรียนพิเศษเยอะอะไรอะ เรียนแต่เลข วิชาอื่นก็พอถูไถๆ พอขึ้น ม ปลาย เหมือนเราก็อยากจริงจังมากขึ้นอะ เพราะว่าก็จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว คือเราเป็นคนชอบเรียนพิเศษอะ แบบเราว่ามันเข้าหัวไวดี มีเทคนิคแปลกๆที่บางทีอ่านเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แบบบางเรื่องถ้าอ่านเองต้องใช้เวลานาน แต่เวลามีติวเตอร์มันก็จะช่วยทำให้เข้าใจได้เร็วขึ้นเยอะอะ นั่นแหละ กว่าจะลงแต่ละคอร์สเราหนักใจมาก เพราะอย่างถูกก็ 3500 แล้วบางคอร์สมันแพงกว่านั้นเยอะด้วยพวกคอร์สเอนอะ แต่เราคิดว่าบางคอร์สมันจำเป็นจริงๆก็พยายามอธิบายให้แม่เข้าใจ คือเรากลัวสู้เพื่อนไม่ได้ด้วยอะ เพราะคนเค้าก็เรียนกันแล้วเราก็ไม่ได้อ่านเองได้มาก หรือเก่งไรมากมาย
คือบางช่วงที่เราลงเรียนอะ แม่บางทีเค้าก็จะบ่นอะ ว่า "ลงเรียนไรเยอะนักหนาเนี่ย เมิงลองมาดูกูทำงานบ้างกว่าจะหาเงินมาให้ได้เนี่ย รีบๆติดมหาลัยเหอะ แม่เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว" คือมีบ่นแบบนี้บ่อยมากอะครับ เราก็เข้าใจว่าแม่เหนื่อย แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงอะ เราว่ามันเป็นการลงทุนที่จำเป็นจริงๆนะอย่างน้อย ม6 ก็อยากเรียนอยาก ทำให้เต็มที่อะไม่อยากมาเสียดายตอนหลัง คือแม่บ่นแบบนี้เยอะมากจนเราเครียดอะ เราว่าเราเครียดมากกว่าตอนเรียนพิเศษ หรือทำข้อสอบไรพวกนี้อีก แล้วแม่ก็พูดๆประมาณว่า แบบถ้าไม่ติดคณะนี้ แม่แบบคงเสียดายตังค์ไรงิ เราแอบโกรธๆแม่นิดๆนะเราก็พยายามนะที่ลงเรียนไปก็แบบเก็บทุกเม็ดอะ เราเห็นค่ากับเงินทุกคอร์สนะ อยากให้เค้าเห็นว่าเรามีค่า ถึงจะไม่ได้ช่วยงานอะไรแต่ก็อยากเป็นหน้าเป็นตาให้ที่บ้าน
คือ ผลสอบก็ออกมาครับ ผมดีใจแม่ผมก็ดีใจ ผมสอบได้คณะมหาลัยที่ต้องการ ที่บ้านผมภูมิใจ เป็นหน้าเป็นตา เวลาเจอคนเค้าก็จะทักว่าเก่งจังเลยอย่างนั้นอย่างนี้บลาๆ จริงๆนะผมร็สึกดีที่ความพยายามของผมมันได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ผมเคยลองคิดเล่นๆว่าถ้า มัน ไม่ใช่แบบนี้ล่ะ ผมว่าผมคงโดนบ่นเรื่องเงินที่ละลายไปกับกวดวิชา ค่านู่นค่านี่ ค่าเดินทางบลาๆ
มันมีหลายเหตุการณ์จริงๆนะครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเกลียด"เงิน" มากๆ คือไม่ได้เกลียดแม่นะครับ คือผมเข้าใจว่าแม่เหนื่อยเพื่อครอบครัว แต่บางสถานการณ์มันทำให้ผมอดน้อยเนื้อต่ำใจกับตัวเองไม่ได้ คือบ้านผมสถานะทางการเงินก็กลางๆครับไม่ได้ยากจนอะไร ก็มีทุกอย่างที่ควรจะมี รถเก๋ง มอไซต์ คอม เน็ต สมาร์ทโฟน บลาๆรายได้พ่อแม่ก็ถือว่าพอสมควรอะครับ แต่รายได้ส่วนใหญ่จริงๆจะมากจากพ่อ
มีอยู่ครั้งนึงครับผมป่วยแล้วแบบหาหมอสองคนประมาณ สองสามเดือนแล้วไม่หาย แบบผมอยากจะไปหาคนที่สามอะ เพราะแบบมันไม่หายอะครับแล้วก็รู้สึกว่าวิธีของสองคนแรกมันยังไม่ใช่ด้วย แม่ผมตอบกลับมาว่า" จะไปหาหมออะไรนักหนาเนี่ย อะไรก็จะเพิ่งแต่หมอ อยู่ดีๆก็จะเอาตังค์ไปให้หมอ รู้ไหม กูทำงานเหนื่อยนะ ไปหาหมอครั้งนึงรวมก็เป็นพันๆ" ผมได้ยินแล้วรู้สึกน้อยใจอะครับ มันไม่ใช่โกรธ คือแม่พูดเหมือนผมป่วยมันน่ารำคาญเปลืองตังค์อะไรประมาณนี้อะ เรารู้สึกแย่มากอะ เราเลยไปหากับพ่อแทน
อีกเรื่องก็เรื่องไปกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนคือปิดเทอมก็ไม่ได้เจอเพื่อนเป็นเดือนๆ คือก็ออกไปกินนานๆทีครับ คือครั้งนึงขอไปกินบุฟเฟ่ต์ 200 บาท แม่เราก็บ่นยาวๆอีก ว่า"จำเป็นต้องไปกันจังเลยนะ ปฎิเสธเพื่อนไม่เป็นเลยหรอ มันแพงนะ กินบ่อยเกินไปหรือเปล่า ดูกูกินนี่เวลากินยังไม่ค่อยมี เคยงสารกูไหมจ้องแต่จะหาความสุขใส่ตัวจังนะ"
อีกเรื่องคือมีเทอมนึงเราเกรดน้อยผิดปกติ แม่ก็บ่นๆว่า" เรียนให้กูมีกำลังใจหน่อยเถอะนะ แม่หาเงินมาเลี้ยงนี่เหนื่อยนะ มันต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ แล้วดูคะแนนที่เมิงทำอะ กูหมดกำลังใจเลย"
อีกเรื่องคือเราขอเงินซื้อกรอบแว่นอะ คือคุยกันแล้วว่าแม่ให้ แต่พอเราไปพูดอีกทีแม่เค้าโกรธมากเลยอะ เค้าขว้างเงินเป็นฟ่อนๆ มาใส่เราเลยอะ แบบเออ เมิงอยากได้นักก็เอาไปเลย
แล้วก็อีกหลายๆครั้งมากๆอะครับ คือเวลาผมทำอะไรผิดไม่ว่าเรื่องไหน ก็เหอะ แม่เค้าจะพยายามวนมาเรื่องเงินจนได้ จนผมรู้สึกขยาดกับเรื่องเงินๆมากอะ กว่าจะขอเงินแม่ทีก็กลัวอะครับ กลายเป็น phobia เล็กๆไปแล้ว ผมคิดต่างจากแม่จริๆวนะครับ ผมไม่ใช่คนประหยัดอะไรมาก
คือผมคิดว่าเงินคือสิ่งที่ใช้หาความสุขนะ แบบบางทีประหยัดเกินไปมันก็เครียดอะ บางทีเราก็คิดว่าตัวเองก็ไร้ค่านะ งานก็ไม่ช่วย แบมือขอเงินอย่างเดียว เจอแบบนี้ก็คงเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว มั้ง? คือ ตอนนี้สิ่งเดียว ที่ผมทำให้แม่ภูมิใจได้ ก็คือเป็นหน้าเป็นตาแก่ครอบครัว สอบคณะที่ดีๆได้ เท่านั้นเองล่ะมั้ง ส่วนหน้าที่ของลูกอย่างอื่นผมคงทำตัวไม่ดีเอง อยากระบายจริงๆน่ะครับ คืออัดอั้นมานานมาก คือเราไม่ได้โกรธไรแม่เรานะ แม่เราก็มีมุมที่ดี เรารักท่านนะ แต่บางมุมท่านก็เป็นแบบนี้

ขอระบาย เรื่องโดนแม่บ่นเรื่องเงิน(บ่อยมากๆ)
คือบางช่วงที่เราลงเรียนอะ แม่บางทีเค้าก็จะบ่นอะ ว่า "ลงเรียนไรเยอะนักหนาเนี่ย เมิงลองมาดูกูทำงานบ้างกว่าจะหาเงินมาให้ได้เนี่ย รีบๆติดมหาลัยเหอะ แม่เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว" คือมีบ่นแบบนี้บ่อยมากอะครับ เราก็เข้าใจว่าแม่เหนื่อย แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงอะ เราว่ามันเป็นการลงทุนที่จำเป็นจริงๆนะอย่างน้อย ม6 ก็อยากเรียนอยาก ทำให้เต็มที่อะไม่อยากมาเสียดายตอนหลัง คือแม่บ่นแบบนี้เยอะมากจนเราเครียดอะ เราว่าเราเครียดมากกว่าตอนเรียนพิเศษ หรือทำข้อสอบไรพวกนี้อีก แล้วแม่ก็พูดๆประมาณว่า แบบถ้าไม่ติดคณะนี้ แม่แบบคงเสียดายตังค์ไรงิ เราแอบโกรธๆแม่นิดๆนะเราก็พยายามนะที่ลงเรียนไปก็แบบเก็บทุกเม็ดอะ เราเห็นค่ากับเงินทุกคอร์สนะ อยากให้เค้าเห็นว่าเรามีค่า ถึงจะไม่ได้ช่วยงานอะไรแต่ก็อยากเป็นหน้าเป็นตาให้ที่บ้าน
คือ ผลสอบก็ออกมาครับ ผมดีใจแม่ผมก็ดีใจ ผมสอบได้คณะมหาลัยที่ต้องการ ที่บ้านผมภูมิใจ เป็นหน้าเป็นตา เวลาเจอคนเค้าก็จะทักว่าเก่งจังเลยอย่างนั้นอย่างนี้บลาๆ จริงๆนะผมร็สึกดีที่ความพยายามของผมมันได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ผมเคยลองคิดเล่นๆว่าถ้า มัน ไม่ใช่แบบนี้ล่ะ ผมว่าผมคงโดนบ่นเรื่องเงินที่ละลายไปกับกวดวิชา ค่านู่นค่านี่ ค่าเดินทางบลาๆ
มันมีหลายเหตุการณ์จริงๆนะครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเกลียด"เงิน" มากๆ คือไม่ได้เกลียดแม่นะครับ คือผมเข้าใจว่าแม่เหนื่อยเพื่อครอบครัว แต่บางสถานการณ์มันทำให้ผมอดน้อยเนื้อต่ำใจกับตัวเองไม่ได้ คือบ้านผมสถานะทางการเงินก็กลางๆครับไม่ได้ยากจนอะไร ก็มีทุกอย่างที่ควรจะมี รถเก๋ง มอไซต์ คอม เน็ต สมาร์ทโฟน บลาๆรายได้พ่อแม่ก็ถือว่าพอสมควรอะครับ แต่รายได้ส่วนใหญ่จริงๆจะมากจากพ่อ
มีอยู่ครั้งนึงครับผมป่วยแล้วแบบหาหมอสองคนประมาณ สองสามเดือนแล้วไม่หาย แบบผมอยากจะไปหาคนที่สามอะ เพราะแบบมันไม่หายอะครับแล้วก็รู้สึกว่าวิธีของสองคนแรกมันยังไม่ใช่ด้วย แม่ผมตอบกลับมาว่า" จะไปหาหมออะไรนักหนาเนี่ย อะไรก็จะเพิ่งแต่หมอ อยู่ดีๆก็จะเอาตังค์ไปให้หมอ รู้ไหม กูทำงานเหนื่อยนะ ไปหาหมอครั้งนึงรวมก็เป็นพันๆ" ผมได้ยินแล้วรู้สึกน้อยใจอะครับ มันไม่ใช่โกรธ คือแม่พูดเหมือนผมป่วยมันน่ารำคาญเปลืองตังค์อะไรประมาณนี้อะ เรารู้สึกแย่มากอะ เราเลยไปหากับพ่อแทน
อีกเรื่องก็เรื่องไปกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนคือปิดเทอมก็ไม่ได้เจอเพื่อนเป็นเดือนๆ คือก็ออกไปกินนานๆทีครับ คือครั้งนึงขอไปกินบุฟเฟ่ต์ 200 บาท แม่เราก็บ่นยาวๆอีก ว่า"จำเป็นต้องไปกันจังเลยนะ ปฎิเสธเพื่อนไม่เป็นเลยหรอ มันแพงนะ กินบ่อยเกินไปหรือเปล่า ดูกูกินนี่เวลากินยังไม่ค่อยมี เคยงสารกูไหมจ้องแต่จะหาความสุขใส่ตัวจังนะ"
อีกเรื่องคือมีเทอมนึงเราเกรดน้อยผิดปกติ แม่ก็บ่นๆว่า" เรียนให้กูมีกำลังใจหน่อยเถอะนะ แม่หาเงินมาเลี้ยงนี่เหนื่อยนะ มันต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อ แล้วดูคะแนนที่เมิงทำอะ กูหมดกำลังใจเลย"
อีกเรื่องคือเราขอเงินซื้อกรอบแว่นอะ คือคุยกันแล้วว่าแม่ให้ แต่พอเราไปพูดอีกทีแม่เค้าโกรธมากเลยอะ เค้าขว้างเงินเป็นฟ่อนๆ มาใส่เราเลยอะ แบบเออ เมิงอยากได้นักก็เอาไปเลย
แล้วก็อีกหลายๆครั้งมากๆอะครับ คือเวลาผมทำอะไรผิดไม่ว่าเรื่องไหน ก็เหอะ แม่เค้าจะพยายามวนมาเรื่องเงินจนได้ จนผมรู้สึกขยาดกับเรื่องเงินๆมากอะ กว่าจะขอเงินแม่ทีก็กลัวอะครับ กลายเป็น phobia เล็กๆไปแล้ว ผมคิดต่างจากแม่จริๆวนะครับ ผมไม่ใช่คนประหยัดอะไรมาก
คือผมคิดว่าเงินคือสิ่งที่ใช้หาความสุขนะ แบบบางทีประหยัดเกินไปมันก็เครียดอะ บางทีเราก็คิดว่าตัวเองก็ไร้ค่านะ งานก็ไม่ช่วย แบมือขอเงินอย่างเดียว เจอแบบนี้ก็คงเป็นสิ่งที่ถูกแล้ว มั้ง? คือ ตอนนี้สิ่งเดียว ที่ผมทำให้แม่ภูมิใจได้ ก็คือเป็นหน้าเป็นตาแก่ครอบครัว สอบคณะที่ดีๆได้ เท่านั้นเองล่ะมั้ง ส่วนหน้าที่ของลูกอย่างอื่นผมคงทำตัวไม่ดีเอง อยากระบายจริงๆน่ะครับ คืออัดอั้นมานานมาก คือเราไม่ได้โกรธไรแม่เรานะ แม่เราก็มีมุมที่ดี เรารักท่านนะ แต่บางมุมท่านก็เป็นแบบนี้