ขอบคุณคุณสุเทพ ที่ทำให้ผมรู้ว่า พวกที่ต่อต้านคนโกงทั้งหลาย แท้จริงแล้วไม่ได้ต่อต้านคนโกงจริงๆ
ขอบคุณคุณอภิสิทธิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า กติกาที่เป็นธรรม ก็คือ กติกาที่ต้องมาจากสถานการณ์ไม่ปกติ
ขอบคุณคุณชวน ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยึดมั่นในระบบรัฐสภาเป็นเพียงวาทกรรมให้คนหลงเชื่อ
ขอบคุณคุณปนัดดา ที่ทำให้ผมรู้ว่า ไม่ใช่มีแต่นักการเมืองที่โกงเป็นเท่านั้น
ขอบคุณหม่อมอุ๋ย ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยืนพูดบนโพเดี้ยมมันง่ายกว่าการทำงานบนเก้าอี้บริหาร
ขอบคุณพระว. ที่ทำให้ผมรู้ว่า พระคุณเจ้าเห็นว่า เวลามีค่าเท่ากับชีวิตมนุษย์
ขอบคุณพระสุวิทย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปาราชิกในปัจจุบันไม่เกี่ยวกับธรรมวินัย
ขอบคุณคุณสมชัย ที่ทำให้ผมรู้ว่า ความไม่เป็นกลางขององค์กรอิสระไม่ใช่ความเชื่อที่เลื่อนลอย
ขอบคุณคุณวิชา ที่ทำให้ผมรู้ว่า กฎหมายจะต้องสามารถใช้ได้ แม้จะไม่เป็นธรรมก็ตาม
ขอบคุณคุณวสันต์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยุบพรรคอย่างเร่งรีบในคราวนั้น เป็นไปอย่างสุกเอาเผากิน
ขอบคุณคุณบุญส่ง ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปกป้องผลประโยชน์ของชาติเป็นเพียงวาทกรรมที่มีไว้ใช้กับคนอื่น
ขอบคุณคุณจรัล ที่ทำให้ผมรู้ว่า อย่าเชื่อคำพูดใครง่ายๆ เพียงเพราะเชื่อว่าเขาเป็นคนดี
ขอบคุณคุณอมรา ที่ทำให้ผมรู้ว่า สิทธิมนุษยชนมีไว้สำหรับคนพวกเดียวกัน
ขอบคุณคุณพรทิพย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การจะกลับมารับตำแหน่งเดิมได้ ต้องทำกันอย่างไร
ขอบคุณคุณเสรี ที่ทำให้ผมรู้ว่า คนกรุงเทพมีคุณภาพมากกว่าคนต่างจังหวัดหลายเท่านัก
ขอบคุณคุณเจิมศักดิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การออกมาชัดดาวน์กรุงเทพก็มีคุณสมบัติเป็นพระสังฆราชได้
ขอบคุณคุณณรงค์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า ศักดิ์ศรีของข้าราชการจะมา ก็ต่อเมื่อตัวเองถูกกระทำ
ขอบคุณคุณไพบูลย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปฏิรูปศาสนามันง่ายนิดเดียว แค่ออกมาทำให้พระสงฆ์เกิดความขัดแย้ง
ขอบคุณคุณบวรศักดิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า ประชาชนกับพลเมืองมีความหมายต่างกัน
ขอบคุณคุณมัลลิกา ที่ทำให้ผมรู้ว่า คุณปูต้องอาศัยความอดทนมากเพียงใด จึงสามารถรับมือกับพวกใส่ร้ายป้ายสี
ขอบคุณเหล่า สนช. ที่ทำให้ผมรู้ว่า จริยธรรมนั้นมีไว้ใช้กับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น
ขอบคุณเหล่า สปช. ที่ทำให้ผมรู้ว่า การจะปฏิรูปประเทศได้ ต้องออกไปขัดขวางการเลือกตั้งเสียก่อน
ขอบคุณเหล่า กปปส. ที่ทำให้ผมรู้ว่า ของแพงทั้งแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร
และสุดท้ายต้องขอบคุณเหล่าสลิ่มทั้งหลาย ที่ทำให้ผมรู้ว่า เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ ก็พร้อมจะสละแม้กระทั่งสิทธิความเท่าเทียมเพียงหนึ่งเดียวของประชาชนทั้งชาติโดยไม่ลังเล
กระทู้แสดงความขอบคุณเหล่าคนดีทั้งหลาย-------------ทวดเอง
ขอบคุณคุณอภิสิทธิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า กติกาที่เป็นธรรม ก็คือ กติกาที่ต้องมาจากสถานการณ์ไม่ปกติ
ขอบคุณคุณชวน ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยึดมั่นในระบบรัฐสภาเป็นเพียงวาทกรรมให้คนหลงเชื่อ
ขอบคุณคุณปนัดดา ที่ทำให้ผมรู้ว่า ไม่ใช่มีแต่นักการเมืองที่โกงเป็นเท่านั้น
ขอบคุณหม่อมอุ๋ย ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยืนพูดบนโพเดี้ยมมันง่ายกว่าการทำงานบนเก้าอี้บริหาร
ขอบคุณพระว. ที่ทำให้ผมรู้ว่า พระคุณเจ้าเห็นว่า เวลามีค่าเท่ากับชีวิตมนุษย์
ขอบคุณพระสุวิทย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปาราชิกในปัจจุบันไม่เกี่ยวกับธรรมวินัย
ขอบคุณคุณสมชัย ที่ทำให้ผมรู้ว่า ความไม่เป็นกลางขององค์กรอิสระไม่ใช่ความเชื่อที่เลื่อนลอย
ขอบคุณคุณวิชา ที่ทำให้ผมรู้ว่า กฎหมายจะต้องสามารถใช้ได้ แม้จะไม่เป็นธรรมก็ตาม
ขอบคุณคุณวสันต์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การยุบพรรคอย่างเร่งรีบในคราวนั้น เป็นไปอย่างสุกเอาเผากิน
ขอบคุณคุณบุญส่ง ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปกป้องผลประโยชน์ของชาติเป็นเพียงวาทกรรมที่มีไว้ใช้กับคนอื่น
ขอบคุณคุณจรัล ที่ทำให้ผมรู้ว่า อย่าเชื่อคำพูดใครง่ายๆ เพียงเพราะเชื่อว่าเขาเป็นคนดี
ขอบคุณคุณอมรา ที่ทำให้ผมรู้ว่า สิทธิมนุษยชนมีไว้สำหรับคนพวกเดียวกัน
ขอบคุณคุณพรทิพย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การจะกลับมารับตำแหน่งเดิมได้ ต้องทำกันอย่างไร
ขอบคุณคุณเสรี ที่ทำให้ผมรู้ว่า คนกรุงเทพมีคุณภาพมากกว่าคนต่างจังหวัดหลายเท่านัก
ขอบคุณคุณเจิมศักดิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การออกมาชัดดาวน์กรุงเทพก็มีคุณสมบัติเป็นพระสังฆราชได้
ขอบคุณคุณณรงค์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า ศักดิ์ศรีของข้าราชการจะมา ก็ต่อเมื่อตัวเองถูกกระทำ
ขอบคุณคุณไพบูลย์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า การปฏิรูปศาสนามันง่ายนิดเดียว แค่ออกมาทำให้พระสงฆ์เกิดความขัดแย้ง
ขอบคุณคุณบวรศักดิ์ ที่ทำให้ผมรู้ว่า ประชาชนกับพลเมืองมีความหมายต่างกัน
ขอบคุณคุณมัลลิกา ที่ทำให้ผมรู้ว่า คุณปูต้องอาศัยความอดทนมากเพียงใด จึงสามารถรับมือกับพวกใส่ร้ายป้ายสี
ขอบคุณเหล่า สนช. ที่ทำให้ผมรู้ว่า จริยธรรมนั้นมีไว้ใช้กับนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น
ขอบคุณเหล่า สปช. ที่ทำให้ผมรู้ว่า การจะปฏิรูปประเทศได้ ต้องออกไปขัดขวางการเลือกตั้งเสียก่อน
ขอบคุณเหล่า กปปส. ที่ทำให้ผมรู้ว่า ของแพงทั้งแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร
และสุดท้ายต้องขอบคุณเหล่าสลิ่มทั้งหลาย ที่ทำให้ผมรู้ว่า เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณ ก็พร้อมจะสละแม้กระทั่งสิทธิความเท่าเทียมเพียงหนึ่งเดียวของประชาชนทั้งชาติโดยไม่ลังเล