สำหรับคนทั่วไปที่คิดว่าใช้ "มอเตอร์ไซค์" รับส่งบุตรหลานดีกว่า
ไม่ว่าจะเหมาะกับรายได้คนทั่วไปในเมืองไทย,
เพราะจะได้ลดรถติด,
ลดการผลาญเชื้อเพลิง,
ลดค่าใช้จ่ายกับสินค้ารถยนต์ฟุ่มเฟือย,
ไม่ชอบใช้รถยนต์, ขับไม่เป็น,
หรือเรื่องแค่ทุกวันนี้
ปริมาณรถรับส่งหน้าโรงเรียนก็ติดกันเข้าไป2-3เลน บนถนนยังไม่พออีกเหรอ?
ผมคิดว่าผู้มีอำนาจควรออกกฎเกี่ยวกับ "ความปลอดภัยของเด็กบนยานพาหนะ
ทุกประเภท" ไปเลยจะดีกว่า
เช่น มอเตอร์ไซค์ ---> เด็กต้องใส่ชุดมีเซฟตี้บ้าง หมวกพร้อม แจ็กเก็ตพร้อม ถุงมือพร้อม
งบพันนึงก็ได้ครบแล้ว ตามท้องตลาดในขณะนี้
แต่ถ้าใครคิดว่าน่าจะมีการส่งเสริมการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น
และมีราคาถูกลงได้ ก็ระดมความคิดกันไป
ออกแบบให้สวย น่าใช้ แบบเห็นเด็กอยู่บนมอเตอร์ไซค์แล้ว โอ้!จัดเต็ม!
ทำให้ไทยแลนด์เป็นเมืองมอเตอร์ไซค์เซฟตี้สุดๆไปเลย!
ชดเชยเรื่องขายหน้า ติด Top 3 เมืองอุบัติเหตุบนท้องถนนมากสุดของโลกบ้างก็ได้
รถยนต์ รถยนต์ รถยนต์ ---> ถ้าคุณๆที่จะออกกฎหมาย "รัก/ห่วงเด็ก" นะ
คุณก็ควร
ออกกฎให้ผู้ใช้รถยนต์ก็ต้องมีเซฟตี้จัดเต็มให้เด็กด้วย
จะต้องนั่งคาร์ซีท, เบบี้แคปซุล, คาดเข็มขัด,
ห้ามนั่งตัก, ห้ามนั่งหน้า, ห้ามดัดแปลงเอาเปลไกวไปวางแทนคาร์ซีท!
ห้ามพ่อแม่อนุญาตขับอะไรก็ว่าไป + แถม + ห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถแม้แต่เสี้ยวนาที ฯลฯ
ทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกๆคัน
(จะได้ไม่ต้องมีรถแพงๆมาอ้างได้ว่า รถหรู เซฟ5ดาว แอร์แบ็กเยอะ
คันนี้คว่ำได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องบังคับทรมานเด็กมัน)
เพราะประสบการณ์ส่วนตัว
เมื่อลูกเกิดที่โรงพยาบาลต่างแดน
การจะเอาเด็กขึ้นรถ/แท็กซี่กลับบ้าน
กฎก็คือ
บนรถต้องมีคาร์ซีท/แคปซุล สำหรับทารกเท่านั้น
(เด็กก่อน10/12ขวบก็ต้องนั่ง:ละไว้ในฐานที่คุณผู้มีอำนาจควรจะเข้าใจ)
คุณถึงจะได้รับอนุญาตให้เอาเด็กกลับบ้านได้
ผมรอโทรศัพท์จากศูนย์จัดหาแท็กซี่มีแคปซุลไปเกือบสองชั่วโมง อย่างใจเย็น
(เพราะบ้านอยู่ไม่ไกล แต่เป็นภูเขาย่อมๆนี่สิ เลยต้องยอมรอ)
สุดท้ายไม่มีคันไหนพกมาซักคัน ต้องขึ้นรถเมล์กลับ
(โดยส่วนตัวคิดเอาเองว่า กฎของฝรั่งมันเป็นการปลูกฝังเรื่องเซฟตี้
เกี่ยวกับความปลอดภัยบนยานพาหนะ
ให้เด็กเห็นไปในตัว
ตั้งแต่ยังแบเบาะไปจนโต
และบังคับให้ไม้แก่แบบผู้ปกครองเห็นแก่ความสำคัญ
ในเรื่องสวัสดิภาพของเด็กด้วย
...แต่ก็อย่างว่าแหละ ส่วนหนึ่ง เด็กประเทศพัฒนาแล้ว
เด็กเสมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของชาติ
โตด้วยสวัสดิการของผู้นำชาติที่ดี มีความจริงใจหน่อย
เค้าถึงต้องมีกฎหมายคุ้มครองดูแลเด็กเป็นอย่างดี)
-----------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างการส่งเสริมแนวโน้มความคิดที่ดีให้กับเด็กๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000035603
ถ้ามีกฎหมายรัก/ห่วงเด็กบนยานพาหนะจริง (ห้ามเด็กเล็กนั่งมอเตอร์ไซค์)
ไม่ว่าจะเหมาะกับรายได้คนทั่วไปในเมืองไทย,
เพราะจะได้ลดรถติด,
ลดการผลาญเชื้อเพลิง,
ลดค่าใช้จ่ายกับสินค้ารถยนต์ฟุ่มเฟือย,
ไม่ชอบใช้รถยนต์, ขับไม่เป็น,
หรือเรื่องแค่ทุกวันนี้
ปริมาณรถรับส่งหน้าโรงเรียนก็ติดกันเข้าไป2-3เลน บนถนนยังไม่พออีกเหรอ?
ผมคิดว่าผู้มีอำนาจควรออกกฎเกี่ยวกับ "ความปลอดภัยของเด็กบนยานพาหนะทุกประเภท" ไปเลยจะดีกว่า
เช่น มอเตอร์ไซค์ ---> เด็กต้องใส่ชุดมีเซฟตี้บ้าง หมวกพร้อม แจ็กเก็ตพร้อม ถุงมือพร้อม
งบพันนึงก็ได้ครบแล้ว ตามท้องตลาดในขณะนี้
แต่ถ้าใครคิดว่าน่าจะมีการส่งเสริมการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น
และมีราคาถูกลงได้ ก็ระดมความคิดกันไป
ออกแบบให้สวย น่าใช้ แบบเห็นเด็กอยู่บนมอเตอร์ไซค์แล้ว โอ้!จัดเต็ม!
ทำให้ไทยแลนด์เป็นเมืองมอเตอร์ไซค์เซฟตี้สุดๆไปเลย!
ชดเชยเรื่องขายหน้า ติด Top 3 เมืองอุบัติเหตุบนท้องถนนมากสุดของโลกบ้างก็ได้
รถยนต์ รถยนต์ รถยนต์ ---> ถ้าคุณๆที่จะออกกฎหมาย "รัก/ห่วงเด็ก" นะ
คุณก็ควรออกกฎให้ผู้ใช้รถยนต์ก็ต้องมีเซฟตี้จัดเต็มให้เด็กด้วย
จะต้องนั่งคาร์ซีท, เบบี้แคปซุล, คาดเข็มขัด,
ห้ามนั่งตัก, ห้ามนั่งหน้า, ห้ามดัดแปลงเอาเปลไกวไปวางแทนคาร์ซีท!
ห้ามพ่อแม่อนุญาตขับอะไรก็ว่าไป + แถม + ห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถแม้แต่เสี้ยวนาที ฯลฯ
ทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกๆคัน
(จะได้ไม่ต้องมีรถแพงๆมาอ้างได้ว่า รถหรู เซฟ5ดาว แอร์แบ็กเยอะ
คันนี้คว่ำได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องบังคับทรมานเด็กมัน)
เพราะประสบการณ์ส่วนตัว
เมื่อลูกเกิดที่โรงพยาบาลต่างแดน
การจะเอาเด็กขึ้นรถ/แท็กซี่กลับบ้าน
กฎก็คือ
บนรถต้องมีคาร์ซีท/แคปซุล สำหรับทารกเท่านั้น
(เด็กก่อน10/12ขวบก็ต้องนั่ง:ละไว้ในฐานที่คุณผู้มีอำนาจควรจะเข้าใจ)
คุณถึงจะได้รับอนุญาตให้เอาเด็กกลับบ้านได้
ผมรอโทรศัพท์จากศูนย์จัดหาแท็กซี่มีแคปซุลไปเกือบสองชั่วโมง อย่างใจเย็น
(เพราะบ้านอยู่ไม่ไกล แต่เป็นภูเขาย่อมๆนี่สิ เลยต้องยอมรอ)
สุดท้ายไม่มีคันไหนพกมาซักคัน ต้องขึ้นรถเมล์กลับ
(โดยส่วนตัวคิดเอาเองว่า กฎของฝรั่งมันเป็นการปลูกฝังเรื่องเซฟตี้
เกี่ยวกับความปลอดภัยบนยานพาหนะ
ให้เด็กเห็นไปในตัว ตั้งแต่ยังแบเบาะไปจนโต
และบังคับให้ไม้แก่แบบผู้ปกครองเห็นแก่ความสำคัญ
ในเรื่องสวัสดิภาพของเด็กด้วย
...แต่ก็อย่างว่าแหละ ส่วนหนึ่ง เด็กประเทศพัฒนาแล้ว
เด็กเสมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของชาติ
โตด้วยสวัสดิการของผู้นำชาติที่ดี มีความจริงใจหน่อย
เค้าถึงต้องมีกฎหมายคุ้มครองดูแลเด็กเป็นอย่างดี)
-----------------------------------------------------------------------------------
ตัวอย่างการส่งเสริมแนวโน้มความคิดที่ดีให้กับเด็กๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000035603