[CR] H O N G K O N G in B L A C K A N D W H I T E

สวัสดีครับ

" รับเรื่องเล่าฮ่องกงสักเรื่องมั้ยครับ "
เปิดเรื่องมาคล้ายกับประโยคที่ว่า ชาร้อนมั้ยคะ… ก็ลองเอานิ้วของคุณจุ่มดูสิ
แต่นี่ไม่ใช่(เกี่ยวมั้ยเนี่ย มาถึงก็แป้ก) ถ้าอยากจะรู้ก็คงต้องลองไป
การไปฮ่องกงครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ไปกับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว
ผมออกเดินทางในวันที่ หก มีนาคม และกลับวันที่ เก้า มีนาคม
คงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ฟินที่สุด ไม่อิ่มที่สุดแถมไปไม่ครบอีก แต่ดันสุขที่สุดครับที่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยกัน
ขอบคุณที่รับฟังเรื่องเล่าของผมตั้งแต่บรรทัดแรกครับ ขอบคุณครับ
.
.
.
.
ยังไม่จบ… ถุ๊ย!

Let's Go


One : MIDO Café > Micro Hotel >  Tsim Sha Tsui > Avenue of Stars
> Clock Tower > Knutsford Terrace



Micro Hotel

ผมไม่เล็กนะครับ! ห้องรูหนูกำลังโอ้อ้วดตัวเองด้วยการไม่พูดไม่จาแต่บอกด้วยจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวจนทำให้
การนอนของพวกเราทั้งห้าคนไม่มีปัญหาเลยสักกะนิด เอ๊ะ! แต่มันจะมีปัญหาก็ตอนขรี้นี่แหละ
แหม่..ประตูกระจกใสสไลด์(เสีย) มีม่านพลาสิติกบังไว้เพียงบาง ๆ
แต่ไม่สามารถกั้นกลิ่นได้ พื้นที่อาบน้ำก็แคบ เวลาอาบน้ำก็ต้องคอยจับม่านเพราะมันจะมีช่องอันนิด ๆ
ให้ส่องมองเรือนรางได้อยู่ตลอด แถมอ่างล้างหน้าก็แค๊บแคบอีก แคบ แคบ แคบ..
..ก็อยู่กันมาได้ตั้งสี่วันทั้งกลิ่นขรี้ กลิ่นรองเท้า ถุงเท้า นิ้วเท้า หืมม..มันช่างอบอวลรัญจวนใจเสียจริง
ดีที่มีสเปรย์กลิ่นเลมอนช่วยไว้… . . . . (กลิ่นตรีนใคร สารภาพมา)



Mido Cafe

ในที่สุดก็เจอร้านนี้ครับ หลังจากเดินวกวนกันอยู่นาน เป็นร้านขนาดกลางมีทั้งหมดสองชั้น
ด้วยความหิวหลังลงจากเครื่อง ก็สั่งอาหารกันยกใหญ่คนละเมนูสองเมนู
แต่ที่เด็ดเลยก็จะเป็น หมี่กรอบอะไรสักอย่างกับแกงกระหรี่ไก่ อร่อยเลยล่ะ
(ห้าคนโดนไปสามร้อยกว่าดอล)



Avenue of Stars & SOL



Aqua Luna Boat

หมอกจาง ๆ และควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดู นั่นเรียกว่าตึก ไอเอฟซี รึไงงงง
เห้อ!! หมอกช่างงดงามและทำให้เยือกเย็น แสนจะเย็นสบายเมื่อยา….(พอเถอะ)
ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบครับ เห็นไฟเรือนราง มีหมอกปกคลุม ลมพัดเย็น ๆ จิบเบียร์ป๋องซิงเต่าชิว ๆ อื่มมมม.. โอเคเลย



Knutsford Terrace

จากเรื่องหมอกมาเจอเรื่องหมัก(จริง ๆ หมักไม่เกี่ยวอะไรหรอก พิมพ์ให้ดูเข้ากันไปอย่างงั้น)
อากาศเย็นแบบนี้แวะมากินกันเบียร์สักหน่อย ตรอกนี้ดูดีเลยครับ มีร้านเรียงรายกันเป็นตับยังกับ
เอาถนนข้าวสารมาต่อกันสามซอย..(ล้อเล่น) ร้านก็มีพอประมาณนะ ผู้คนที่นี่ก็ดูดีมีชาติตระกูล
รวมถึงโต๊ะผมด้วย.. .หึ แนะนำครับถ้าอยากจิบเบียร์ชิว ๆ แถวเกาลูนต้องมาที่นี่ ราคาพอรับได้
เบียร์ต่อแก้วจำไม่ได้น่าจะห้าสิบดอล แต่พวกผมจัดไปทาวเวอร์นึงยี่ห้ออดีตสปอนเซอร์ทีมดังย่านฝั่งธน….ถุ๊ย!
เรียบร้อยครับโดนไปสี่ร้อยดอลบวกขนมขบเคี้ยวเบ็ดเสร็จก็ห้าร้อยกว่าดอล ก็โอเค้พอ ๆ กับบ้านเรา
(โอ้ววว โต๊ะนั้นเด็ด…………..ฝันดีครับ)


Two : Hung Lee > Kowloon Park > Buy Ticket to Macau > Ruins of St. Paul’s
> Penha Church > Venetian



Hung Lee

เริ่มต้นมื้อเช้าก็ซัดโจ๊กซะหน่อยเพราะท้องนั้นร้องจ๊อก.. ทานคู่กับปาท่องโก๋และซาลาเปา
ส่วนตัวผมว่าร้านนี้ธรรมดาไม่ได้รสดีอะไรมาก คงเป็นเพราะไม่ถูกปากผมเอง
(ห้าคนโดนไปสามร้อยกว่าดอล)



Kowloon Park


China Ferry Terminal

หลังจากอิ่มจนซาลาเปามาจุกอยู่ตรงลิ้นปรี่ ก็ต้องเดินย่อยซะหน่อย พวกเราเดินตัดเข้ามาในสวนเกาลูน
เพื่อมุ่งหน้าซื้อตั๋ว ไปมาเก๊าครับ ผมเลือกตั๋วเรือเจ้า เทอร์โบ เจ๊ท ราคาต่อเที่ยวก็ร้อยแปดสิบดอล ประมาณนี้ล่ะครับ
รอบดึกสุดนั้นน่าจะสี่ทุ่มครึ่งเรือออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาในการเดินทางหนึ่งชั่วโมงกับอีกสิบนาที..
…เรียบร้อยครับความโครงของเรือทำผมอ้วกไปสองรอบ มึนหัวเลย ทรมานสุดๆ
ใครขึ้นก็แนะนำว่าให้หลับจะดีกว่า หรือถ้าไม่หลับก็อย่าเล่นโทรศัพท์
เพราะไม่งั้นคุณจะ อว้ากกกกกกกกกกกก..



Senado Square


Ruins of St. Paul’s

แอ่ดดดดดดดด..เสียงกดกริ่งบนรถเมล์เพื่อบอกให้จอดป้าย
รถมาหยุดอยู่ตรงหน้าเซนาโด้ แสควร์ อื้อหือ…คนเยอะยังกับหนอน ทำไมมันเยอะอย่างนี้
พวกผมก็คลำทางตามแผนที่ เพื่อจะไปโบสถ์ เซนต์ ปอล หลงบ้างเลยบ้าง ไม่ไหวแหะ
คนก็เยอะ เดินเยอะจนปวดหัวเลยหา…. เอิ่มไม่ดีมั้ง!



Penha Church

หลังจากหา….. ก็ได้มาสองคน ถุ๊ย!
พวกผมนั่งรถเมล์อีกครับ คราวนี้ไปลงตรงวัดอาม่า จุดประสงค์คือจะไปโบสถ์เพ็ญญ่า
ไปเจอคุณลุงกับคุณป้านั่งอยู่เลยเข้าไปถามทางสักหน่อย (แนะนำว่าให้เซฟรูปเข้ามือถือไว้ มันใช้สื่อสารได้ง่ายกว่า)
พอถามคุณลุงกับคุณป้าเสร็จ แกทำมืออ้อมโค้ง ๆ ประมาณว่าไอ่หนุ่มเองเดินจากตรงนี้
ขึ้นเขาไปเล้ย แล้วแกก็หันไปขำกะคุณป้าข้าง ๆ คิกคักกันใหญ่ พวกผมก็อ่อครับ ๆ แล้วชี้ไปบนเขา
แกพยักหน้าพร้อมส่งสายตามองมาด้วยว่า โชคดีนะไอ่พวกบื้อ(อันนี้ผมเดาเอง) ….โอ้โห ทางนี่แมร่งชันสุดๆ
ก็หาข้อมูลมาบ้างแล้วว่านั่งแท็กซี่ขึ้นสบายกว่า ไอ่เราก็คิดว่าไม่เท่าไหร่ เรียบร้อยครับ… ขาสั่น
ข้างบนวิวสวยแฮะ ถ้าฟ้าสวยมันคงว้าวกว่านี้ ฟิ๊วววววว ลมเย็นดีจัง



Venetian

พอลงจากเขา ก็มายืนหมุนป้ายตรงป้ายรถเมล์เพื่อดูว่า เวเนเชี่ยน เนี่ยมันนั่งรถเมล์สายไหน
หากันอยู่พักใหญ่ ก็มีคู่หนุ่มสาวไม่ทราบชื่อและสัญชาติแต่รู้ว่าเป็นคู่ที่หน้าตาและจิตใจดีมาก ๆ มากที่สุด
เดินเข้ามาแล้วทักเป็นภาษาจีนใส่…. พวกผมก็มองหน้า(แมร่งพูดไรวะ?) เดาว่าแกคงมาถามทาง
เพื่อนผมนี่โน่วใส่ก่อนเลยครับ แต่พอเริ่มคุยเป็นภาษาอังกฤษ แกก็ถามว่าพวกผมว่าจะไปไหน?
อ่อ…เวเนเชี่ยน เขาตอบกลับมาว่า เอ็มทีโฟ คือให้ขึ้นรถเมล์สายนี้ คราวนี้แต๊งกิ้วกันแทบไม่ทัน
และคู่นี้ยังคงเป็นห่วงจนกระทั่งรถเมล์มา ก็ชี้ให้ไปขึ้นว่าคันนี้นะมาแล้ว เร็ว ๆ เลย
รู้แล้วใช่มั้ยครับว่าเขาหน้าตาและจิตใจดียังไง ฝากกับทุกคนที่อ่านถึงตรงนี้
ว่า ถ้าไม่รีบมากและไม่เหนือบ่ากว่าแรง การที่ได้ช่วยผู้อื่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าจดจำมากครับ
(ขอบคุณคู่หนุ่มสาว มีหลานเต็มบ้าน มีลูกเต็มเมือง นะครับ)
ฝันดีครับ
ชื่อสินค้า:   Hong Kong
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่