พึ่งรู้ว่าระยะห่างของสองฝั่งบีทีเอส มัน “ไกลกำลังพอดี”

จากชื่อกระทู้อาจจะงงๆนิดหน่อย แต่เรื่องราวที่จะเล่า เกี่ยวกับเรื่อง “พ่อ” เราตั้งขึ้นมาเพราะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้
ได้เจอพ่ออีกครั้ง หลังจากพ่อย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดเกือบ 1 ปี

แท๊กปัญหาครอบครัว ปัญหาชีวิต จริงๆเรื่องเรามันไม่ได้ร้ายแรงมากนัก แต่อยากให้บางคนที่เจอเหตุการณ์คล้ายๆกันได้อ่าน จะได้รู้สึกว่ายังมีคนที่เจอแบบนี้อีกเยอะแยะ


ตอนเด็กๆเราสนิทกับพ่อมากกว่าแม่ พ่อชอบพาไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้านบ่อยๆ ทำให้เราติดพ่อแจเลยละ
ตอนที่พ่อแม่แยกกัน ป.5 จำได้ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลทำไมเลิกกัน ทำไมพ่อไม่รักแม่ จนพ่อออกจากบ้านไป
เหลือเราใช้ชีวิตอยู่กับแม่และพี่ชาย ตอนแรกเข้าใจว่าถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยกัน เราจะกลายเป็นเด็กเก็บกดรึเปล่า จากหนังจากละครที่เคยดู ตอนนั้นกลัวมากๆ 555
พอโตขึ้นก็เรื่อยๆก็ถึงได้เข้าใจเหตุผล โลกนี้มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เข้าใจในความเปลี่ยนแปลง มันเป็นเรื่องธรรมดา
พ่อก็ยังมาหาเราอยู่เรื่อยๆนะ เรายังได้เจอกันกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา อาทิตย์ละครั้ง นานๆไปก็ เดือนละครั้ง
เป็นอย่างนี้มา 10 ๆ ปี

ตอนปีที่แล้ว พ่อเกษียณจากงาน แล้วตัดสินใจว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัด ตอนแรกก็คิดว่าไปเที่ยว
แต่พ่อบอกว่าไปอยู่ … ไปสร้างบ้านที่นั้นเลย เค้าน่าจะพูดให้เราเตรียมใจไว้ก่อน
มีวันนึง พ่อนัดจะชวนไปกินข้าวเหมือนๆทุกครั้ง เราดันติดฝึกงานเลยบอกว่าเลื่อนไปก่อนได้ไหม
อีกไม่กี่วันต่อมา พ่อก็ย้ายไปเรียบร้อยแล้ว
วันนั้น ร้องไห้ เจ็บใจตัวเอง  

ความจริงมันไม่ใช่เรื่องที่ดราม่ามากมายหรอก  จากที่เคยเจอกันนานๆที  ตอนนี้ก็แค่เจอกันยากกว่าเดิมหน่อย เท่านั้นเอง
ก็ยังได้เจอกันผ่านไลน์ ผ่านการโทรศัพท์
หลังจากนั้นมีฝึกงานครั้งนึงที่ได้ไปจังหวัดที่พ่ออยู่ พ่อก็ขับรถมาเซอร์ไพส์เรา นี้แทบจะกระโดดกอด  

เงินใช้ชีวิตประจำวันมาจากพ่อ
พ่อสอนให้ลงทุน เงินลงทุนก้อนแรกก็มาจากพ่อ

วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาๆที่เราเลิกจากการทำงานPart-time กำลังจะกลับบ้าน
พ่อโทรมา ไม่ได้รับ เราเลยโทรกลับ
พ่อถามว่าอยู่ไหน เลิกงานรึยัง พ่ออยู่กรุงเทพ
ถามว่าพ่ออยู่ไหนมากินข้าวกัน หิวข้าวเย็น ยังไม่ได้กินเลย คิดถึงงงงง
ส่งข่าวบอกพี่ชาย พี่ก็รีบมาหา
ระยะเวลา 1 ชม.กว่าๆที่นั่งกินข้าวกัน ได้เจอได้คุย อัพเดตชีวิตกัน มีความสุขมาก
พอกินเสร็จ ถึงเวลาต้องแยกย้าย เพราะพ่อก็มีธุระต้องไปต่อ

แยกกันขึ้นรถไฟฟ้าคนละฝั่ง กลับคนละทาง
ระหว่างยืนรอบีทีเอสมา ไม่กล้ามองไปทางพ่อ ยืนซักพักน้ำตาจะไหล อยากจะวิ่งข้ามไปหาอีกทีเลย
ตอนนั้นต้องกลั้นน้ำตาไว้ รถก็มาช้าเหลือเกิน ห้ามไม่ให้ร้องไห้ กลัวพ่อเห็น แล้วเป็นห่วง
สุดท้ายก็ผ่านเวลานั้นมาได้ เป็นไม่กี่นาทีที่ รู้สึกเศร้าใจมากๆ

ปีนึงที่ผ่านมา บอกเลยเราชอบมีเรื่องทำให้พ่อเป็นห่วงเสมอๆ
ตอนนี้ก็พยายามศึกษาเรื่องการลงทุน เล่นหุ้น แต่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เราเจ็บใจตัวเอง แต่พ่อเค้าไม่เคยว่าอะไรเราเลยจริงๆ
ขอบคุณตัวเองที่เกิดเป็นลูกพ่อกับแม่นะ  สำหรับตัวเราเอง เราก็ไม่ใช่คนเก่ง แถมรู้สึกท้อแท้อยู่บ่อยๆเวลาเจอปัญหา ตอนนี้เลยพยายามคิดบวกให้เยอะๆ อยากใช้ชีวิตให้มีความสุข และประสบความสำเร็จให้เค้าเห็น ต้องทำให้ได้  
รอก่อนนะ...

-     ชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เราสร้างชีวิตใหม่ให้เกิดขึ้นเองได้  –

เป็นกำลังใจให้คนที่มีความฝัน แต่ยังไม่ได้อย่างที่ฝันไว้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่