มีข้อถกเถียงว่าจะตีความปฏิจฯ แบบคร่อม 3 ภพชาติ หรือแบบขณะจิต
อันนี้มองในมุมที่ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เน้นการพิสูจน์ได้นะครับ
ทีนี้ถ้าตีความแบบคร่อม 3 ภพชาติ ถ้าจะพิสูจน์มันก็ต้องตายก่อน แล้วไปเกิดเอาชาติหน้าถึงจะบอกได้ใช่มั๊ยครับ แล้วทีนี้สมมุติไปเกิดชาติหน้าแล้วจะย้อนกลับมาบอกคนชาตินี้ก็ทำไม่ได้ แบบนี้มันจึงสรุปได้ว่าไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ในปัจจุบันใช่ปะครับ
แล้วคุณคิดว่าพระพุทธเจ้าจะสอนเรื่องที่มันพิสูจน์ไม่ได้ในปัจจุบันไปทำไมกันครับ
ก็ศาสนาพุทธเราพูดอยู่บ่อยๆ เรื่องปัจจุบัน ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ นี่นา
ัดังนั้นผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าปฏิจฯ จะต้องมีความหมายแบบขณะจิต เพราะพิสูจน์ได้ตลอดเวลาในปัจจุบัน แค่ทำสมาธิระดับต่ำๆ หรือคอยดูอารมณ์ของจิตที่มันเกิดดับก็เห็นแล้ว วันนึงจะดูกี่รอบๆ ก็ได้
งดพูดเรื่องอัตตา อนัตตานะครับ เอาแค่ปฏิจฯ ก่อน อิอิ
ทำไมปฏิจจสมุปบาทถึงต้องเป็นไปในขณะจิต
อันนี้มองในมุมที่ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เน้นการพิสูจน์ได้นะครับ
ทีนี้ถ้าตีความแบบคร่อม 3 ภพชาติ ถ้าจะพิสูจน์มันก็ต้องตายก่อน แล้วไปเกิดเอาชาติหน้าถึงจะบอกได้ใช่มั๊ยครับ แล้วทีนี้สมมุติไปเกิดชาติหน้าแล้วจะย้อนกลับมาบอกคนชาตินี้ก็ทำไม่ได้ แบบนี้มันจึงสรุปได้ว่าไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ในปัจจุบันใช่ปะครับ
แล้วคุณคิดว่าพระพุทธเจ้าจะสอนเรื่องที่มันพิสูจน์ไม่ได้ในปัจจุบันไปทำไมกันครับ
ก็ศาสนาพุทธเราพูดอยู่บ่อยๆ เรื่องปัจจุบัน ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ นี่นา
ัดังนั้นผมจึงค่อนข้างมั่นใจว่าปฏิจฯ จะต้องมีความหมายแบบขณะจิต เพราะพิสูจน์ได้ตลอดเวลาในปัจจุบัน แค่ทำสมาธิระดับต่ำๆ หรือคอยดูอารมณ์ของจิตที่มันเกิดดับก็เห็นแล้ว วันนึงจะดูกี่รอบๆ ก็ได้
งดพูดเรื่องอัตตา อนัตตานะครับ เอาแค่ปฏิจฯ ก่อน อิอิ