สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน อยู่อเมริกา
วันนี้เราอยากมาเล่าเรื่องของเรา ที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเรามาก่อน
คือว่าเราชอบผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นอเมริกันนะคะ เขาเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา ดีแบบไม่เฟค เป็นคนอารมณ์ดี อ่อนโยน จริงใจ เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่เราไม่มีคลาสเรียนเดียวกันค่ะ คือวันๆแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่เรารู้จักกันได้เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเรา แล้วเราไปแฮงเอาท์ด้วยกัน(สกี) เราอยู่ใกล้กัน แล้วเขาก็ดีกับเรามากๆ ให้เกียรติเรา เป็นสุภาพบุรุษ จนเวลาที่ใกล้กัน เรารู้สึกประทับใจเขามากๆ เพราะเราไม่เคยเจอคนที่ดีแบบเขามาก่อน เวลาที่เราสกีล้ม(เพราะเราไม่เคยสกีเลย เขาชอบเล่นสกี) เขาก็เข้ามาพยุงเราทุกครั้ง ทุกครั้งจริงๆค่ะ ตอนเราสกีไปชนเขาล้มทั้งคู่ เขาไม่โกรธเราเลย หัวเราะ แล้วลุกขึ้นมาพยุงเราต่อ พอเจอกัน เราก็ทักกันยิ้มให้กัน ไม่ได้สนิทกันมาก แต่รู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่เจอเขา เหมือนเขาเติมสีให้โลกของเราเลยค่ะ เขาน่ารักมากๆ แล้วโรงเรียนเรามีงานเต้นรำ คอนเซปต์คือผู้หญิงขอผู้ชาย เราตัดสินใจอยู่เป็นเดือนเลยค่ะ กว่าเราจะตัดสินใจขอเขาไป ตอนแรกนี่คิดภาพเขาเซย์เยสไม่ถูกเลยค่ะ เพราะเพื่อนบอกว่ายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าขอเขาไปเลย เพราะเขาเป็นผู้ชายที่สมาร์ท ฉลาด เรียนเก่งอันดับหนึ่งของซีเนียร์(ม.6) เลยดูไม่น่าจะไปงานเต้นรำ แล้วตอนเราขอเขาไปงาน ตอนนั้นคิดภาพแค่ว่าเขาเซย์โนอย่างเดียวเลย แต่พอเขาเซย์เยสนี่ฝันหวานทุกคืนเลย555 วันงานเขามารับที่บ้านด้วยค่ะ แล้วเราถามเขาว่าเขาชอบเต้นมั้ย เขาบอกเขาไม่ชอบเลย เราเลยรู้สึกผิดมาก รู้สึกแย่ เพราะตอนอยู่ในงานดูก็รู้ว่าเขาไม่เอนจอยเลยค่ะ แต่เขาถามเราตลอดว่าเราสนุกมั้ย เขาสนุกมากๆ เหมือนเขาพยายามทำให้เรารู้สึกดีอะค่ะ เพราะเราชวนเขามา ทั้งๆที่เราดูออกว่าเขาไม่ได้สนุกเลย แต่เขาก็ยังทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้ง เรารู้สึกดีมากๆค่ะ ที่ได้มีเขาอยู่แบบนี้ ถึงเราไม่ได้สนิทกันมาก แต่เขาก็อ่อนโยนเสมอ
จนวันหนึ่งเราไปสกีด้วยกันอีกรอบ ตอนที่เราอยู่ในรถกัน เขาคุยกับเพื่อนเรา เพื่อนเราเป็นผู้หญิงนะคะ เขาถามเพื่อนเราว่า ถ้าเกิดเขาเป็นเกย์ เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ได้มั้ย เพื่อนเราไม่ได้คิดอะไรเลยตอบไปว่าได้สิ เขาเลยบอกว่าอืมโอเค เราเป็นเกย์.. คือตอนนั้นที่เราได้ยิน เราตื้อไปหมดเลยค่ะ ชาไปทั้งตัว คือเราไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาแบบนั้น เราตกใจมาก เราถามเขาว่า เธอพูดว่าอะไรนะ สองคนนั้นมองหน้าเราทั้งคู่ แล้วไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ แล้วเขาคุยกับเพื่อนเราต่อว่า เขาบอกกับครอบครัวเขาแบบนั้น แล้วครอบครัวเขาตอบเขาว่า ให้เขาไปลงนรกเถอะ วินาทีนั้นเราไม่รู้เลยจริงๆค่ะว่าเรารู้สึกอะไร ปกติเราเป็นคนที่ถ้ารู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งหรือเพื่อนที่เราเคยคิดมาตลอดว่าเขาเป็นผู้ชายแล้ววันหนึ่งเรามารู้ว่าเขาเป็นเกย์ เราคงจะขำๆนิดๆ แต่กับเขา..เราขำไม่ออกเลยค่ะ ตอนนั้นมันเหมือนมันตื้อที่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ แต่สิ่งที่มันทำให้เราเจ็บปวดหัวใจมากกว่าคือ การที่เขาพูดออกมาในน้ำเสียงที่เจ็บปวด ว่าคนในครอบครัวไม่มีใครยอมรับเขาได้ในสิ่งที่เขาเป็น ตอนที่เราได้ยิน มันทำให้เราเจ็บตามเขาไปด้วย ทั้งๆที่ตอนนั้นเราก็พึ่งรู้ว่าเขาเป็น แล้วหลังจากนั้นทั้งวัน เขาแทบจะไม่คุยกับเราเลยค่ะ นับคำได้เลย กับเรา..เขาเปลี่ยนไปจากเดิม ตอนที่เราสกีวันนั้น เราเหมือนแทบไม่มีแรงเลยค่ะ มันเหมือนใจเราลอย จนเราสกีล้มแบบถไลไกลมากประมาณ10วิได้เลยค่ะ แต่วันนั้นเขาไม่ได้เข้ามาช่วยเราเลย มันเหมือนเขาคนเดิมหายไป โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เราเดาว่าเขาน่าจะคิดว่าเราอาจจะรับไม่ได้และเป็นเพื่อนกับเขาไม่ได้ เราเห็นเขาเหมือนแอบคุยกับเพื่อนเราโดยที่ไม่อยากให้เรารู้ เรารู้และเข้าใจเลยนะคะว่าเขาสนิทกัน เราเป็นแค่คนๆหนึ่งที่ไม่ได้สนิทกะเขา เขาคงไม่อยากได้คำปรึกษาจากคนอื่น วันนั้นเขาทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ โดยที่เราก็คิดไม่ออกจริงๆ เรารู้แค่ว่าเราเจ็บหัวใจ และตอนที่เพื่อนเราเล่าให้ฟังในสิ่งที่เขาพูด ว่าไม่ค่อยมีคนเข้าใจเขาในสิ่งที่เขาเป็น และเขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเขาที่พ่อแม่เขาแยกทางกันแล้วมีแฟนใหม่ เล่าเรื่องตอนที่พ่อเขาด่าเขา เราสงสารเขาและแคร์ความรู้สึกเขามากเลยค่ะ
จนวันถัดมา เขาโพสบนเฟสบุคของตัวเองว่า เขาเหนื่อยกับการที่จะต้องคอยตอบคำถามให้ใครหลายๆคนฟังในสิ่งที่เขาเป็น เขาอยากจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้ไว้ว่าเขาเป็นเกย์ ที่ออกมาโพสแบบนี้เพื่อไม่อยากโกหกในสิ่งที่ตัวเองเป็น เขายังคงเป็นเขา ถ้าใครยอมรับไม่ได้แล้วจะเลิกเป็นเพื่อนเขา เขาก็บังคับไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเข้าไปคอมเม้นว่า คุณที่คนที่ดีที่สุด และคุณยังเป็นคุณคนเดิม
ตอนแรกก่อนที่เราจะรู้ เราเคยคิดเล่นๆนะคะว่าถ้าสมมุติเขาเป็นเกย์ขึ้นมา เราจะทำยังไง แล้วเราก็ตอบตัวเองว่าเราคงขำแล้วคงเลิกชอบทันทีเลยอะค่ะ เพราะคนอย่างเราเนี่ย จะชอบคนที่เขาเป็นเกย์ได้ลงหรอ แต่พอมาวันนี้ มันเหมือนความเป็นจริงมันสวนทางกับสิ่งที่เราคิดเลยค่ะ เราไม่ได้คิดจะตัดใจจากเขาเลย ถามว่าเราอึ้งมั้ย ช็อคมั้ย ตอบได้เลยว่าก็ช็อคค่ะ แต่สิ่งที่เราเจ็บมากกว่าคือ การที่เขามีความทุกข์ เราเจ็บเวลาที่เห็นเขาเจ็บ เจ็บที่เขาพูดในน้ำเสียงที่แย่ พอถึงวันที่มาโรงเรียน ความรู้สึกเราก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลยค่ะ เรายังคงไปรอ ยืนแอบมองเขาเหมือนเดิมในทุกๆครั้งที่เราเคยทำ ยังนึกถึงเขาอยู่ตลอดเวลา ยังอยากเจอหน้าเขา ยังอยากคุยกัน ยังอยากทำให้เขาคุยกับเราเหมือนเดิม มีฝรั่งคนอื่นเข้ามาคุยเข้ามาจีบเรานะคะ แต่มันเหมือนเราไม่ได้สนใจคนพวกนั้นเลย เรานึกถึงแค่เขาคนเดียว แต่เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร
เราเล่าให้แม่ฟัง แล้วเราถามแม่ว่าทั้งๆที่เราไม่ได้เสียสติ ไม่ได้หูหนวกตาบอดว่าเขาเป็นเกย์ แต่ความรู้สึกเราก็ยังไม่เปลี่ยนไป แม่ว่าเราบ้ามั้ย?
แม่บอกว่า รู้ตัวว่าตัวเองบ้าก็ดี ถ้าตัดใจไม่ได้ก็แย่แล้ว ตัดใจเถอะ ยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้
เขาไม่แปลกหรอกค่ะที่เขาเป็นเกย์ แต่มันแปลกที่ความรู้สึกของเราเอง.. เขาไม่ได้เปลี่ยนไป เราไม่ได้เปลี่ยนไป ความรู้สึกไม่ได้เปลี่ยนไป สิ่งที่เปลี่ยนคือความหวัง จากที่เคยหวัง ตอนนี้ไม่หวัง แต่ก็ยังรู้สึกกับเขาอยู่ตลอดเวลา และเราไม่คิดที่จะตัดใจจากเขาเลยค่ะ
เพื่อนๆว่าเราบ้าจริงๆมั้ยคะ แล้วความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่ T T
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังนะคะ
เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดแบบนี้ขึ้นกับเรา
วันนี้เราอยากมาเล่าเรื่องของเรา ที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเรามาก่อน
คือว่าเราชอบผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นอเมริกันนะคะ เขาเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา ดีแบบไม่เฟค เป็นคนอารมณ์ดี อ่อนโยน จริงใจ เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่เราไม่มีคลาสเรียนเดียวกันค่ะ คือวันๆแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย แต่เรารู้จักกันได้เพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนเรา แล้วเราไปแฮงเอาท์ด้วยกัน(สกี) เราอยู่ใกล้กัน แล้วเขาก็ดีกับเรามากๆ ให้เกียรติเรา เป็นสุภาพบุรุษ จนเวลาที่ใกล้กัน เรารู้สึกประทับใจเขามากๆ เพราะเราไม่เคยเจอคนที่ดีแบบเขามาก่อน เวลาที่เราสกีล้ม(เพราะเราไม่เคยสกีเลย เขาชอบเล่นสกี) เขาก็เข้ามาพยุงเราทุกครั้ง ทุกครั้งจริงๆค่ะ ตอนเราสกีไปชนเขาล้มทั้งคู่ เขาไม่โกรธเราเลย หัวเราะ แล้วลุกขึ้นมาพยุงเราต่อ พอเจอกัน เราก็ทักกันยิ้มให้กัน ไม่ได้สนิทกันมาก แต่รู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่เจอเขา เหมือนเขาเติมสีให้โลกของเราเลยค่ะ เขาน่ารักมากๆ แล้วโรงเรียนเรามีงานเต้นรำ คอนเซปต์คือผู้หญิงขอผู้ชาย เราตัดสินใจอยู่เป็นเดือนเลยค่ะ กว่าเราจะตัดสินใจขอเขาไป ตอนแรกนี่คิดภาพเขาเซย์เยสไม่ถูกเลยค่ะ เพราะเพื่อนบอกว่ายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าขอเขาไปเลย เพราะเขาเป็นผู้ชายที่สมาร์ท ฉลาด เรียนเก่งอันดับหนึ่งของซีเนียร์(ม.6) เลยดูไม่น่าจะไปงานเต้นรำ แล้วตอนเราขอเขาไปงาน ตอนนั้นคิดภาพแค่ว่าเขาเซย์โนอย่างเดียวเลย แต่พอเขาเซย์เยสนี่ฝันหวานทุกคืนเลย555 วันงานเขามารับที่บ้านด้วยค่ะ แล้วเราถามเขาว่าเขาชอบเต้นมั้ย เขาบอกเขาไม่ชอบเลย เราเลยรู้สึกผิดมาก รู้สึกแย่ เพราะตอนอยู่ในงานดูก็รู้ว่าเขาไม่เอนจอยเลยค่ะ แต่เขาถามเราตลอดว่าเราสนุกมั้ย เขาสนุกมากๆ เหมือนเขาพยายามทำให้เรารู้สึกดีอะค่ะ เพราะเราชวนเขามา ทั้งๆที่เราดูออกว่าเขาไม่ได้สนุกเลย แต่เขาก็ยังทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้ง เรารู้สึกดีมากๆค่ะ ที่ได้มีเขาอยู่แบบนี้ ถึงเราไม่ได้สนิทกันมาก แต่เขาก็อ่อนโยนเสมอ
จนวันหนึ่งเราไปสกีด้วยกันอีกรอบ ตอนที่เราอยู่ในรถกัน เขาคุยกับเพื่อนเรา เพื่อนเราเป็นผู้หญิงนะคะ เขาถามเพื่อนเราว่า ถ้าเกิดเขาเป็นเกย์ เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ได้มั้ย เพื่อนเราไม่ได้คิดอะไรเลยตอบไปว่าได้สิ เขาเลยบอกว่าอืมโอเค เราเป็นเกย์.. คือตอนนั้นที่เราได้ยิน เราตื้อไปหมดเลยค่ะ ชาไปทั้งตัว คือเราไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาแบบนั้น เราตกใจมาก เราถามเขาว่า เธอพูดว่าอะไรนะ สองคนนั้นมองหน้าเราทั้งคู่ แล้วไม่มีใครพูดอะไรเลยค่ะ แล้วเขาคุยกับเพื่อนเราต่อว่า เขาบอกกับครอบครัวเขาแบบนั้น แล้วครอบครัวเขาตอบเขาว่า ให้เขาไปลงนรกเถอะ วินาทีนั้นเราไม่รู้เลยจริงๆค่ะว่าเรารู้สึกอะไร ปกติเราเป็นคนที่ถ้ารู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งหรือเพื่อนที่เราเคยคิดมาตลอดว่าเขาเป็นผู้ชายแล้ววันหนึ่งเรามารู้ว่าเขาเป็นเกย์ เราคงจะขำๆนิดๆ แต่กับเขา..เราขำไม่ออกเลยค่ะ ตอนนั้นมันเหมือนมันตื้อที่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ แต่สิ่งที่มันทำให้เราเจ็บปวดหัวใจมากกว่าคือ การที่เขาพูดออกมาในน้ำเสียงที่เจ็บปวด ว่าคนในครอบครัวไม่มีใครยอมรับเขาได้ในสิ่งที่เขาเป็น ตอนที่เราได้ยิน มันทำให้เราเจ็บตามเขาไปด้วย ทั้งๆที่ตอนนั้นเราก็พึ่งรู้ว่าเขาเป็น แล้วหลังจากนั้นทั้งวัน เขาแทบจะไม่คุยกับเราเลยค่ะ นับคำได้เลย กับเรา..เขาเปลี่ยนไปจากเดิม ตอนที่เราสกีวันนั้น เราเหมือนแทบไม่มีแรงเลยค่ะ มันเหมือนใจเราลอย จนเราสกีล้มแบบถไลไกลมากประมาณ10วิได้เลยค่ะ แต่วันนั้นเขาไม่ได้เข้ามาช่วยเราเลย มันเหมือนเขาคนเดิมหายไป โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เราเดาว่าเขาน่าจะคิดว่าเราอาจจะรับไม่ได้และเป็นเพื่อนกับเขาไม่ได้ เราเห็นเขาเหมือนแอบคุยกับเพื่อนเราโดยที่ไม่อยากให้เรารู้ เรารู้และเข้าใจเลยนะคะว่าเขาสนิทกัน เราเป็นแค่คนๆหนึ่งที่ไม่ได้สนิทกะเขา เขาคงไม่อยากได้คำปรึกษาจากคนอื่น วันนั้นเขาทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ โดยที่เราก็คิดไม่ออกจริงๆ เรารู้แค่ว่าเราเจ็บหัวใจ และตอนที่เพื่อนเราเล่าให้ฟังในสิ่งที่เขาพูด ว่าไม่ค่อยมีคนเข้าใจเขาในสิ่งที่เขาเป็น และเขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเขาที่พ่อแม่เขาแยกทางกันแล้วมีแฟนใหม่ เล่าเรื่องตอนที่พ่อเขาด่าเขา เราสงสารเขาและแคร์ความรู้สึกเขามากเลยค่ะ
จนวันถัดมา เขาโพสบนเฟสบุคของตัวเองว่า เขาเหนื่อยกับการที่จะต้องคอยตอบคำถามให้ใครหลายๆคนฟังในสิ่งที่เขาเป็น เขาอยากจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้ไว้ว่าเขาเป็นเกย์ ที่ออกมาโพสแบบนี้เพื่อไม่อยากโกหกในสิ่งที่ตัวเองเป็น เขายังคงเป็นเขา ถ้าใครยอมรับไม่ได้แล้วจะเลิกเป็นเพื่อนเขา เขาก็บังคับไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเข้าไปคอมเม้นว่า คุณที่คนที่ดีที่สุด และคุณยังเป็นคุณคนเดิม
ตอนแรกก่อนที่เราจะรู้ เราเคยคิดเล่นๆนะคะว่าถ้าสมมุติเขาเป็นเกย์ขึ้นมา เราจะทำยังไง แล้วเราก็ตอบตัวเองว่าเราคงขำแล้วคงเลิกชอบทันทีเลยอะค่ะ เพราะคนอย่างเราเนี่ย จะชอบคนที่เขาเป็นเกย์ได้ลงหรอ แต่พอมาวันนี้ มันเหมือนความเป็นจริงมันสวนทางกับสิ่งที่เราคิดเลยค่ะ เราไม่ได้คิดจะตัดใจจากเขาเลย ถามว่าเราอึ้งมั้ย ช็อคมั้ย ตอบได้เลยว่าก็ช็อคค่ะ แต่สิ่งที่เราเจ็บมากกว่าคือ การที่เขามีความทุกข์ เราเจ็บเวลาที่เห็นเขาเจ็บ เจ็บที่เขาพูดในน้ำเสียงที่แย่ พอถึงวันที่มาโรงเรียน ความรู้สึกเราก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลยค่ะ เรายังคงไปรอ ยืนแอบมองเขาเหมือนเดิมในทุกๆครั้งที่เราเคยทำ ยังนึกถึงเขาอยู่ตลอดเวลา ยังอยากเจอหน้าเขา ยังอยากคุยกัน ยังอยากทำให้เขาคุยกับเราเหมือนเดิม มีฝรั่งคนอื่นเข้ามาคุยเข้ามาจีบเรานะคะ แต่มันเหมือนเราไม่ได้สนใจคนพวกนั้นเลย เรานึกถึงแค่เขาคนเดียว แต่เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร
เราเล่าให้แม่ฟัง แล้วเราถามแม่ว่าทั้งๆที่เราไม่ได้เสียสติ ไม่ได้หูหนวกตาบอดว่าเขาเป็นเกย์ แต่ความรู้สึกเราก็ยังไม่เปลี่ยนไป แม่ว่าเราบ้ามั้ย?
แม่บอกว่า รู้ตัวว่าตัวเองบ้าก็ดี ถ้าตัดใจไม่ได้ก็แย่แล้ว ตัดใจเถอะ ยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้
เขาไม่แปลกหรอกค่ะที่เขาเป็นเกย์ แต่มันแปลกที่ความรู้สึกของเราเอง.. เขาไม่ได้เปลี่ยนไป เราไม่ได้เปลี่ยนไป ความรู้สึกไม่ได้เปลี่ยนไป สิ่งที่เปลี่ยนคือความหวัง จากที่เคยหวัง ตอนนี้ไม่หวัง แต่ก็ยังรู้สึกกับเขาอยู่ตลอดเวลา และเราไม่คิดที่จะตัดใจจากเขาเลยค่ะ
เพื่อนๆว่าเราบ้าจริงๆมั้ยคะ แล้วความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่ T T
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังนะคะ