ภาพถ่ายก่อนตาย
1
ในสังคมอันไกลพ้นจากความศิวิไลซ์ หรือบางทีเรียกชนบท หนักหน่อยก็”บ้านนอก”
ชายผู้เคยหลงใหลไปกับสังคมในเมือง ได้กลับมายืนอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้อีกครั้ง
จากแต่ก่อนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตเขามีเพียงแต่ความทรงจำ ดีบ้าง ร้ายบ้าง
ใช่..มีเพียงแต่ความทรงจำเท่านั้น ซึ่งนับจากนี้...เขาบอกว่า นอกจากความทรงจำ
ที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิด จะมีอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เขาไม่ลืมสิ่งต่างๆ นั่นคือ
“ภาพถ่าย” ใช่แล้ว “ภาพถ่าย”
ดังนั้น เขาจึงเริ่มถ่ายภาพตนเองในสถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ (ในสังคมเขาบอกว่า“เซลฟี่” )
แต่ในความคิดของเขา ภาพถ่ายของเขาทุกภาพ เขาจะเรียกมันว่า
“ภาพถ่ายก่อนตาย” เขาบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ จากที่เคยถ่ายภาพเอง
ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเริ่มเบื่อ เลยหันมาให้คนอื่นช่วยถ่ายภาพให้บ้าง
และแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ได้วานชายสูงอายุผู้หนึ่งถ่ายให้
และก็ได้เผลอบอกกับชายสูงอายุว่า “น้าครับ ช่วยถ่ายภาพก่อนตายให้ผมหน่อย”
เขาพูดไปโดยพลั้งปาก ทำให้ชายสูงอายุพูดสั่งสอนชายผู้อ่อนวัยกว่ากว่า
“รู้ไหม มันเป็นลางไม่ดี พูดออกมาได้ ภาพถ่ายก่อนตาย แช่งตัวเองชัดๆ “
แล้วก็ได้เดินจากไปโดยไม่ถ่ายภาพให้เขา
แปลกแต่จริง ทุกคนหารู้วันตายของตัวเองไม่ ทั้งที่จริงแล้วภาพถ่ายทุกภาพตั้งแต่เกิด
จนถึงปัจจุบัน มันเป็นภาพถ่ายก่อนตายแท้ๆ ใครจะไปรู้ถ่ายจนถึงอายุ 90 ปี
แล้วตายตอนนั้น ก็ไม่เห็นแปลก นั่นเป็นข้อสงสัยของเขาต่อคนอื่นในแง่ของ
ความไม่รู้จัก “ปลง” โดยมีคำว่า “ลาง” มาปิดกั้นความคิดของโลกแห่ง
ความเป็นจริง
2.
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เขานึกความเชื่อของคนแถวนั้นเกี่ยวกับเรื่อง
“ลาง” (ไม่ดี) โดยมีอยู่คืนหนึ่ง เวลาประมาณ ตี 1 เขาได้ยินเสียงนกแสก
บินผ่านกลางหมู่บ้านพร้อมกับเสียงร้องของมันดังก้องไปทั่ว
หญิงชราที่อยู่บ้านหลังหนึ่งแถวละแวกนั้น ได้วิ่งออกมาข้างนอก
พร้อมกับถือมีด 1 ด้าม และ เขียงอีก 1 อัน โดยทำท่าเอามีดสับที่เขียง
พร้อมกับตะโกนว่า “ลาบนก..ๆ ๆ ๆ ๆ “ หลายๆครั้ง
ข้างบ้านตกใจตื่น เพราะเสียง ของหญิงชรา และทันทีที่เขาได้เห็นการกระทำ
ของหญิงชรา ภาพของน้าค่อม ชวนชื่น ก็แว็ปขึ้นมาทันใด พร้อมกับวลี
เด็ดของแก “...................................”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องสั้น
1
ในสังคมอันไกลพ้นจากความศิวิไลซ์ หรือบางทีเรียกชนบท หนักหน่อยก็”บ้านนอก”
ชายผู้เคยหลงใหลไปกับสังคมในเมือง ได้กลับมายืนอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้อีกครั้ง
จากแต่ก่อนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิตเขามีเพียงแต่ความทรงจำ ดีบ้าง ร้ายบ้าง
ใช่..มีเพียงแต่ความทรงจำเท่านั้น ซึ่งนับจากนี้...เขาบอกว่า นอกจากความทรงจำ
ที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิด จะมีอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เขาไม่ลืมสิ่งต่างๆ นั่นคือ
“ภาพถ่าย” ใช่แล้ว “ภาพถ่าย”
ดังนั้น เขาจึงเริ่มถ่ายภาพตนเองในสถานที่ หรือเหตุการณ์ต่างๆ (ในสังคมเขาบอกว่า“เซลฟี่” )
แต่ในความคิดของเขา ภาพถ่ายของเขาทุกภาพ เขาจะเรียกมันว่า
“ภาพถ่ายก่อนตาย” เขาบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ จากที่เคยถ่ายภาพเอง
ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเริ่มเบื่อ เลยหันมาให้คนอื่นช่วยถ่ายภาพให้บ้าง
และแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ได้วานชายสูงอายุผู้หนึ่งถ่ายให้
และก็ได้เผลอบอกกับชายสูงอายุว่า “น้าครับ ช่วยถ่ายภาพก่อนตายให้ผมหน่อย”
เขาพูดไปโดยพลั้งปาก ทำให้ชายสูงอายุพูดสั่งสอนชายผู้อ่อนวัยกว่ากว่า
“รู้ไหม มันเป็นลางไม่ดี พูดออกมาได้ ภาพถ่ายก่อนตาย แช่งตัวเองชัดๆ “
แล้วก็ได้เดินจากไปโดยไม่ถ่ายภาพให้เขา
แปลกแต่จริง ทุกคนหารู้วันตายของตัวเองไม่ ทั้งที่จริงแล้วภาพถ่ายทุกภาพตั้งแต่เกิด
จนถึงปัจจุบัน มันเป็นภาพถ่ายก่อนตายแท้ๆ ใครจะไปรู้ถ่ายจนถึงอายุ 90 ปี
แล้วตายตอนนั้น ก็ไม่เห็นแปลก นั่นเป็นข้อสงสัยของเขาต่อคนอื่นในแง่ของ
ความไม่รู้จัก “ปลง” โดยมีคำว่า “ลาง” มาปิดกั้นความคิดของโลกแห่ง
ความเป็นจริง
2.
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เขานึกความเชื่อของคนแถวนั้นเกี่ยวกับเรื่อง
“ลาง” (ไม่ดี) โดยมีอยู่คืนหนึ่ง เวลาประมาณ ตี 1 เขาได้ยินเสียงนกแสก
บินผ่านกลางหมู่บ้านพร้อมกับเสียงร้องของมันดังก้องไปทั่ว
หญิงชราที่อยู่บ้านหลังหนึ่งแถวละแวกนั้น ได้วิ่งออกมาข้างนอก
พร้อมกับถือมีด 1 ด้าม และ เขียงอีก 1 อัน โดยทำท่าเอามีดสับที่เขียง
พร้อมกับตะโกนว่า “ลาบนก..ๆ ๆ ๆ ๆ “ หลายๆครั้ง
ข้างบ้านตกใจตื่น เพราะเสียง ของหญิงชรา และทันทีที่เขาได้เห็นการกระทำ
ของหญิงชรา ภาพของน้าค่อม ชวนชื่น ก็แว็ปขึ้นมาทันใด พร้อมกับวลี
เด็ดของแก “...................................”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้