คือว่าผมกับแฟนคบกันมาก็จะ 10 อยู่แล้วครับ ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย เธอเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน ผมเป็นคนเกเรส่วนแฟนของผมเป็นคนขยันเรียน ครอบครัวผมพ่อเป็นข้าราชการ ครอบครัวเธอทำงานรัฐวิสาหกิจ ถือว่าฐานะดีกว่าผมเยอะ
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็คอยเป็นกำลังคอยช่วยเหลือ ช่วยเหลือกันมาตลอดจนผมเรียนจบมา ส่วนเธอก็เรียนมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง จบปริญญาโท ช่วงแรกที่ผมจบมาก็ทำงานไปเรื่อยขายของคลองถมบ้าง ทำร้านกาแฟบ้างระหว่างรองาน จนผมได้งานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งรายได้ก็พออยู่ได้ตามประสาต่างจังหวัด ก็พัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆจนบริษัทแม่ก็ขึ้นเงินเดือนให้ตลอดจนถือว่าสบายๆเลยครับ ระหว่างนี้เธอจบ ป.โท พอดี เธอก็กำลังหางานทำ เธอชวนผมไปสอบข้าราชการ(ที่ทำงานเดิมผู้หญิงเยอะ + กลัวความไม่มั่นคง) ปรากฏว่าผมสอบติด และเธอสอบได้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ คือเริ่มต้นทำงานพร้อมกันในปีเดียวกัน แต่เธอเงินเดือนเยอะกว่าผมประมาณ 1 เท่า
เราโชคดีมากที่สามารถทำงานในจังหวัดเดียวกันได้แต่อยู่คนละอำเภอห่างกัน 55 กิโล ความฝันของเราสองคนดูจะสวยหรูมากเพราะว่าก็ถือว่าเราทำงานดีทั้งคู่ เธอเช่าหออยู่ พ่อเธอดาวน์รถให้ (ช่วงรถคันแรก) ผมมีบ้านพัก แต่ไม่นอนขี่มอเตอร์ไซค์ ไปกลับที่ทำงานทุกวัน วันละ 110 กิโล เพื่อมาอยู่กับเธอ แต่แล้วชีวิตก็เริ่มมาพลิกช่วงนี้ คือครอบครัวของเธอขอให้กู้เงินมาช่วยทำร้านขายของ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ครอบครัวของเธอ ตกลงกันไว้ว่ากู้ให้หน่อยแล้วจะจ่ายค่างวดให้ เธอมีน้องสาวครับ หลังจากร้านเสร็จน้องสาวดูแล แต่ปัญหาคือขายของเท่าไหร่ก็ไม่พอซื้อของไปเติมร้านแฟนผมต้องควักเงินตลอด จนผมต้องกู้เงินไปอุดให้อีก
แล้วก็เสียของแฟนผมคือเธอไม่ฟังผมเท่าไหร่ชอบการลงทุนเล่นฟอเร็กเล่นไรไม่รู้ ผมก็กู้มาเผื่อ รวมๆแล้วสำหรับเธอก็ประมาณสี่แสนกว่าบาท ดูภายนอกผมไม่รู้ว่าปัญหามันจะเกิดเพราะผมไม่รู้ว่าเธอจัดการการเงินของเธอยังไง จนตอนนี้เธอรับภาระไม่ไหวเรื่องเลยแดงออกมาว่ากดเงินบัตรเครดิตมาจ่ายค่างวดรถบ้าง จ่ายค่าหอบ้าง ที่กู้ไปให้ครอบครัวเธอเขาไม่ช่วยจ่าย ยืมคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง มันเยอะมากครับ แล้วน้องสาวของแฟนผมเค้าก็คงอยากรวยบ้างครับทำตามพี่สาวเล่นฟอเร็กเล่นหวยปิงปอง ไปยืมเงินเขาไปทั่วอีกเกือบ ห้าแสน แฟนก็ร้องไห้น้องสาวแฟนโทรมาขู่จะฆ่าตัวตายจะต้องใช้เงิน แฟนผมเขามาปรึกษาผมแล้วผมก็บอกใจแข็งไว้อย่าไปช่วยถ้าตายก็ตายไปแล้ว แต่แฟนผมก็คงทนไม่ไหว ทั้งยืม ทั้งกู้ไปช่วยน้อง ผมก็ช่วยได้อีกไม่มากเพราะกู้ไปเกือบเต็มวงเงินเงินเดือนไม่พอจะกิน (เพิ่งซื้อรถมือสองมา ตั้งใจจะซื้อสด ด้วยความที่แฟนเป็นนักลงทุน บอกให้ดาวน์ครึ่งเดียว ที่เหลือเอามาลงทุน)
คือตอนนี้ครับ ถือว่าเราติดลบมาก เวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยคุยกันครับตอนนี้เครียดมาก แต่พอผมมาทำงานก็จะได้รับข้อความจากไลน์ หาเงินให้หน่อย ยืมเงินหน่อย ผมไม่เป็นอันทำงานเลยครับ คือตอนนี้เงินไม่มีจะกินแล้ว ผมปรึกษาเจ้านาย ปรึกษาพ่อแม่ เขาก็ขอให้ถอยห่างอยู่ไปมีแต่จะเสีย ผมก็ขอเวลาปรับทัศนะคติกับเธอก่อน เพราะเธอหวังดีกับคนในครอบครัวเธอไม่ได้มีเจตนาเป็นหนี้ แต่ผมก็เริ่มไม่ไหวแล้วครับจะถอยจากเธอก็จะดูใจร้ายเกินไป แต่เธอก็ไม่ฟังผมเลยวันนี้ก็มาอีกละ ไปยืมใครมาไม่รู้แอบไปให้น้อง ให้ผมหากู้ให้อีก ผมละเครียดเลยครับจะต้องจัดการยังไงดีครับ ส่วนตัวผมเองมันไม่มีปัญหา พ่อแม่ไม่เคยของเงิน หรือแทบจะไม่ขอความช่วยเหลืออะไรเลย
คำแนะนำของแต่ละคนก็ทำให้ผมตัดสินใจลำบาก ส่วนแฟนผมเธอก็ไม่ฟังผมเลย แอบช่วยเหลือแล้วก็ต้องคอยช่วยเธอ เอาตรงๆตอนนี้ไม่มีจะกินแล้วครับ ลำบากสุดๆ กับวิกฤตครอบครัวของแฟนผมตอนนี้ ผมสองคนหนี้รวมกันก็ราวๆ 3ล้านครับ รถต้องผ่อน 2 คัน บ้านไรไม่มีเป็นของตัวเองซักอย่าง
จะทำยังไงต่อไปกับชีวิตดีครับ
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็คอยเป็นกำลังคอยช่วยเหลือ ช่วยเหลือกันมาตลอดจนผมเรียนจบมา ส่วนเธอก็เรียนมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง จบปริญญาโท ช่วงแรกที่ผมจบมาก็ทำงานไปเรื่อยขายของคลองถมบ้าง ทำร้านกาแฟบ้างระหว่างรองาน จนผมได้งานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งรายได้ก็พออยู่ได้ตามประสาต่างจังหวัด ก็พัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆจนบริษัทแม่ก็ขึ้นเงินเดือนให้ตลอดจนถือว่าสบายๆเลยครับ ระหว่างนี้เธอจบ ป.โท พอดี เธอก็กำลังหางานทำ เธอชวนผมไปสอบข้าราชการ(ที่ทำงานเดิมผู้หญิงเยอะ + กลัวความไม่มั่นคง) ปรากฏว่าผมสอบติด และเธอสอบได้สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจ คือเริ่มต้นทำงานพร้อมกันในปีเดียวกัน แต่เธอเงินเดือนเยอะกว่าผมประมาณ 1 เท่า
เราโชคดีมากที่สามารถทำงานในจังหวัดเดียวกันได้แต่อยู่คนละอำเภอห่างกัน 55 กิโล ความฝันของเราสองคนดูจะสวยหรูมากเพราะว่าก็ถือว่าเราทำงานดีทั้งคู่ เธอเช่าหออยู่ พ่อเธอดาวน์รถให้ (ช่วงรถคันแรก) ผมมีบ้านพัก แต่ไม่นอนขี่มอเตอร์ไซค์ ไปกลับที่ทำงานทุกวัน วันละ 110 กิโล เพื่อมาอยู่กับเธอ แต่แล้วชีวิตก็เริ่มมาพลิกช่วงนี้ คือครอบครัวของเธอขอให้กู้เงินมาช่วยทำร้านขายของ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ครอบครัวของเธอ ตกลงกันไว้ว่ากู้ให้หน่อยแล้วจะจ่ายค่างวดให้ เธอมีน้องสาวครับ หลังจากร้านเสร็จน้องสาวดูแล แต่ปัญหาคือขายของเท่าไหร่ก็ไม่พอซื้อของไปเติมร้านแฟนผมต้องควักเงินตลอด จนผมต้องกู้เงินไปอุดให้อีก
แล้วก็เสียของแฟนผมคือเธอไม่ฟังผมเท่าไหร่ชอบการลงทุนเล่นฟอเร็กเล่นไรไม่รู้ ผมก็กู้มาเผื่อ รวมๆแล้วสำหรับเธอก็ประมาณสี่แสนกว่าบาท ดูภายนอกผมไม่รู้ว่าปัญหามันจะเกิดเพราะผมไม่รู้ว่าเธอจัดการการเงินของเธอยังไง จนตอนนี้เธอรับภาระไม่ไหวเรื่องเลยแดงออกมาว่ากดเงินบัตรเครดิตมาจ่ายค่างวดรถบ้าง จ่ายค่าหอบ้าง ที่กู้ไปให้ครอบครัวเธอเขาไม่ช่วยจ่าย ยืมคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง มันเยอะมากครับ แล้วน้องสาวของแฟนผมเค้าก็คงอยากรวยบ้างครับทำตามพี่สาวเล่นฟอเร็กเล่นหวยปิงปอง ไปยืมเงินเขาไปทั่วอีกเกือบ ห้าแสน แฟนก็ร้องไห้น้องสาวแฟนโทรมาขู่จะฆ่าตัวตายจะต้องใช้เงิน แฟนผมเขามาปรึกษาผมแล้วผมก็บอกใจแข็งไว้อย่าไปช่วยถ้าตายก็ตายไปแล้ว แต่แฟนผมก็คงทนไม่ไหว ทั้งยืม ทั้งกู้ไปช่วยน้อง ผมก็ช่วยได้อีกไม่มากเพราะกู้ไปเกือบเต็มวงเงินเงินเดือนไม่พอจะกิน (เพิ่งซื้อรถมือสองมา ตั้งใจจะซื้อสด ด้วยความที่แฟนเป็นนักลงทุน บอกให้ดาวน์ครึ่งเดียว ที่เหลือเอามาลงทุน)
คือตอนนี้ครับ ถือว่าเราติดลบมาก เวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่ค่อยคุยกันครับตอนนี้เครียดมาก แต่พอผมมาทำงานก็จะได้รับข้อความจากไลน์ หาเงินให้หน่อย ยืมเงินหน่อย ผมไม่เป็นอันทำงานเลยครับ คือตอนนี้เงินไม่มีจะกินแล้ว ผมปรึกษาเจ้านาย ปรึกษาพ่อแม่ เขาก็ขอให้ถอยห่างอยู่ไปมีแต่จะเสีย ผมก็ขอเวลาปรับทัศนะคติกับเธอก่อน เพราะเธอหวังดีกับคนในครอบครัวเธอไม่ได้มีเจตนาเป็นหนี้ แต่ผมก็เริ่มไม่ไหวแล้วครับจะถอยจากเธอก็จะดูใจร้ายเกินไป แต่เธอก็ไม่ฟังผมเลยวันนี้ก็มาอีกละ ไปยืมใครมาไม่รู้แอบไปให้น้อง ให้ผมหากู้ให้อีก ผมละเครียดเลยครับจะต้องจัดการยังไงดีครับ ส่วนตัวผมเองมันไม่มีปัญหา พ่อแม่ไม่เคยของเงิน หรือแทบจะไม่ขอความช่วยเหลืออะไรเลย
คำแนะนำของแต่ละคนก็ทำให้ผมตัดสินใจลำบาก ส่วนแฟนผมเธอก็ไม่ฟังผมเลย แอบช่วยเหลือแล้วก็ต้องคอยช่วยเธอ เอาตรงๆตอนนี้ไม่มีจะกินแล้วครับ ลำบากสุดๆ กับวิกฤตครอบครัวของแฟนผมตอนนี้ ผมสองคนหนี้รวมกันก็ราวๆ 3ล้านครับ รถต้องผ่อน 2 คัน บ้านไรไม่มีเป็นของตัวเองซักอย่าง