แบ่งปันเนื้อหาจากงานสัมมนา Property Millionaire by Ping The Tycoon
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเองมีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของรายได้แบบ passive income ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วิทยากร คือ ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย Ping Millionaire Maker
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ใช้เงินตัวเอง (no money down)
ปัจจุบันเป็น full time investor ของ RTC club ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อย เพื่อสร้างอำนาจเจรจาต่อรองราคา
เมื่อก่อนตัวเองก็คิดว่าอสังหาเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ ต้องใช้เงินก้อน ต้องมีประสบการณ์
ต้องเจรจาต่อรองเก่ง เสี่ยงสูง คอนโดผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เดี๋ยวก็เจ๊งแน่เลย ติดดอยชัวร์
แต่เมื่อเปิดใจศึกษาจริงจัง ทำให้มุมมองเกี่ยวกับอสังหาริมทรพย์เปลี่ยนไป
คือมองเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีความรู้มาก่อน
มีตัวอย่างคนที่สามารถทำรายได้จริง ทั้งที่อายุยังน้อยและไม่ได้มีเงินก้อน
วันนี้ก็เลยอยากแบ่งปันความรู้ที่ได้จากงานสัมมนานี้ เผื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนแก่คนที่กำลังสนใจ
1) กฎการลงทุนอสังหาไม่ให้ขาดทุน มี 3 ข้อ
• Make profit when you buy ซื้อราคาต่ำกว่าตลาด ทำกำไรตั้งแต่ตอนที่ซื้อ อย่าหวังว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ
• Make profit when you keep สร้างกระแสเงินสดจากการปล่อยเช่า
• Make profit when you sell ถ้าเริ่มต้นดี ตอนขายไม่ขาดทุนแน่นอน
2) การลงทุนในอสังหามี 2 แบบ คือ แบบ Flip (ซื้อเก็งกำไร) และแบบ Keep (ซื้อเพื่อปล่อยเช่า)
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ลงทุนแบบ Keep ก่อนค่ะ เพราะเสี่ยงน้อยกว่า
3) จุดเด่นของการลงทุนอสังหาที่แตกต่างจากการลงทุนอื่นๆ คือ อสังหาริมทรัพย์มีแบงก์คอยสนับสนุนด้านการเงิน
นั่นหมายความว่า หากจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์เราสามารถใช้เงินคนอื่น เพื่อทำให้ตัวเราใหญ่ขึ้นได้
ข้อดีอีกอย่างของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ อสังหาริมทรัพย์เปรียบเหมือนปัจจัย 4 คนคงไม่หยุดซื้อ ตราบใดที่ประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี
4) วิธีประเมินราคาอสังหาเบื้องต้น ถ้ารู้ค่าเช่ารายเดือน ให้เอาค่าเช่าต่อเดือน x 150 จะได้ราคาอสังหาที่เหมาะสม
และได้ค่าเช่าประมาณ 8%ต่อปี ซึ่งรายได้แต่ละเดือนมากกว่าเงินที่ต้องผ่อนธนาคาร ในทางกลับกัน ถ้าอยากรู้ว่าอสังหานี้
ควรปล่อยเช่าเท่าไหร่ดีถึงจะได้ 8%ต่อปี ให้เอาราคาของอสังหาตั้ง แล้วหารด้วย 150
5) ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ในการลงทุนอสังหา คือ ดูแค่ทำเลแล้วคิดว่าราคาน่าจะขึ้น
โดยไม่รู้ผลตอบแทนของอสังหานั้นก่อนตัดสินใจซื้อ
6) แหล่งที่มาของอสังหามี 3 แหล่ง ได้แก่
• Developer หรือเจ้าของโครงการ
• Sub-sale (Resale) หรือซื้อมือสอง
• Auction เช่น ทรัพย์ธนาคาร
7) เทคนิคการลงทุนกับ Developer หรือเจ้าของโครงการ มี 3 ช่วง
• Presale ราคาถูกที่สุด เลือกห้องได้ก่อน เป็นช่องทางขายใบจอง
• Construction ระหว่างก่อสร้าง ราคาอสังหาปรับตัวสูงขึ้น โดยเจ้าของโครงการเอง
• Ready to move in เป็นช่วงเวลาที่ทาง Developer บังคับให้ผู้ที่ซื้อต้องโอน ซึ่งเป็นจังหวะที่น่าซื้อและคุ้มที่สุด
เพราะสามารถปล่อยเช่าทำกำไรได้เลย ถึงแม้ราคาจะปรับขึ้นมาสูงแล้ว แต่ความเป็นจริง คือ จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีปัญหากู้ไม่ผ่าน
ต้องการปล่อยใบจอง ยอมขายราคาขาดทุน บางครั้งต่ำกว่า presale ก็มี ถือเป็นจังหวะดีที่เราจะเข้าไปลงทุน
8) มี free application สำหรับคำนวณว่าต้องผ่อนธนาคารเดือนละเท่าไหร่ ชื่อว่า Ez Calculator
เพียงแค่ใส่ราคาอสังหา อัตราดอกเบี้ยธนาคาร และระยะเวลาผ่อน
9) กว่าจะได้อสังหาที่แรกเป็นของตัวเอง Donald Trump ให้คำแนะนำว่า คุณต้องดูอสังหา 100 ที่ก่อนตัดสินใจซื้อ
แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แค่ได้ 30-40 ที่ คุณก็เริ่มมี Idea ในการตัดสินใจซื้อได้แล้ว
10) วิธีการประกาศขาย/เช่าคอนโด มี 3 รูปแบบ ได้แก่
• Agency อย่างน้อย 5 ราย
• Internet อย่างน้อย 5 websites
• นิติบุคคล อันนี้เป็น “The must” เลย
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณอยากจะลงทุนในสินทรัพย์อะไร ขอให้คุณลงทุนในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองก่อน
เพราะไม่มีการลงทุนไหนที่จะคุ้มค่าไปกว่าการลงทุนในตัวเอง
ขอให้คุณชัดเจนกับเป้าหมายว่าคุณลงทุนไปเพื่ออะไร หา Why ของตัวเองให้เจอ
แล้วพบกันที่ความสำเร็จ
ติดตามบทความได้ที่ OrN Time Official เพจแบ่งปันแนวคิดและความรู้จากหนังสือ และสัมมนา
The More You Learn, The More You Earn
https://www.facebook.com/DrTimeManagement
+++ 10 ข้อเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหา ที่มือใหม่ต้องรู้ +++
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเองมีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของรายได้แบบ passive income ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วิทยากร คือ ขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย Ping Millionaire Maker
นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ใช้เงินตัวเอง (no money down)
ปัจจุบันเป็น full time investor ของ RTC club ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของนักลงทุนรายย่อย เพื่อสร้างอำนาจเจรจาต่อรองราคา
เมื่อก่อนตัวเองก็คิดว่าอสังหาเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ ต้องใช้เงินก้อน ต้องมีประสบการณ์
ต้องเจรจาต่อรองเก่ง เสี่ยงสูง คอนโดผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เดี๋ยวก็เจ๊งแน่เลย ติดดอยชัวร์
แต่เมื่อเปิดใจศึกษาจริงจัง ทำให้มุมมองเกี่ยวกับอสังหาริมทรพย์เปลี่ยนไป
คือมองเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องมีความรู้มาก่อน
มีตัวอย่างคนที่สามารถทำรายได้จริง ทั้งที่อายุยังน้อยและไม่ได้มีเงินก้อน
วันนี้ก็เลยอยากแบ่งปันความรู้ที่ได้จากงานสัมมนานี้ เผื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนแก่คนที่กำลังสนใจ
1) กฎการลงทุนอสังหาไม่ให้ขาดทุน มี 3 ข้อ
• Make profit when you buy ซื้อราคาต่ำกว่าตลาด ทำกำไรตั้งแต่ตอนที่ซื้อ อย่าหวังว่าราคาจะขึ้นไปเรื่อยๆ
• Make profit when you keep สร้างกระแสเงินสดจากการปล่อยเช่า
• Make profit when you sell ถ้าเริ่มต้นดี ตอนขายไม่ขาดทุนแน่นอน
2) การลงทุนในอสังหามี 2 แบบ คือ แบบ Flip (ซื้อเก็งกำไร) และแบบ Keep (ซื้อเพื่อปล่อยเช่า)
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ลงทุนแบบ Keep ก่อนค่ะ เพราะเสี่ยงน้อยกว่า
3) จุดเด่นของการลงทุนอสังหาที่แตกต่างจากการลงทุนอื่นๆ คือ อสังหาริมทรัพย์มีแบงก์คอยสนับสนุนด้านการเงิน
นั่นหมายความว่า หากจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์เราสามารถใช้เงินคนอื่น เพื่อทำให้ตัวเราใหญ่ขึ้นได้
ข้อดีอีกอย่างของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ อสังหาริมทรัพย์เปรียบเหมือนปัจจัย 4 คนคงไม่หยุดซื้อ ตราบใดที่ประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี
4) วิธีประเมินราคาอสังหาเบื้องต้น ถ้ารู้ค่าเช่ารายเดือน ให้เอาค่าเช่าต่อเดือน x 150 จะได้ราคาอสังหาที่เหมาะสม
และได้ค่าเช่าประมาณ 8%ต่อปี ซึ่งรายได้แต่ละเดือนมากกว่าเงินที่ต้องผ่อนธนาคาร ในทางกลับกัน ถ้าอยากรู้ว่าอสังหานี้
ควรปล่อยเช่าเท่าไหร่ดีถึงจะได้ 8%ต่อปี ให้เอาราคาของอสังหาตั้ง แล้วหารด้วย 150
5) ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ในการลงทุนอสังหา คือ ดูแค่ทำเลแล้วคิดว่าราคาน่าจะขึ้น
โดยไม่รู้ผลตอบแทนของอสังหานั้นก่อนตัดสินใจซื้อ
6) แหล่งที่มาของอสังหามี 3 แหล่ง ได้แก่
• Developer หรือเจ้าของโครงการ
• Sub-sale (Resale) หรือซื้อมือสอง
• Auction เช่น ทรัพย์ธนาคาร
7) เทคนิคการลงทุนกับ Developer หรือเจ้าของโครงการ มี 3 ช่วง
• Presale ราคาถูกที่สุด เลือกห้องได้ก่อน เป็นช่องทางขายใบจอง
• Construction ระหว่างก่อสร้าง ราคาอสังหาปรับตัวสูงขึ้น โดยเจ้าของโครงการเอง
• Ready to move in เป็นช่วงเวลาที่ทาง Developer บังคับให้ผู้ที่ซื้อต้องโอน ซึ่งเป็นจังหวะที่น่าซื้อและคุ้มที่สุด
เพราะสามารถปล่อยเช่าทำกำไรได้เลย ถึงแม้ราคาจะปรับขึ้นมาสูงแล้ว แต่ความเป็นจริง คือ จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีปัญหากู้ไม่ผ่าน
ต้องการปล่อยใบจอง ยอมขายราคาขาดทุน บางครั้งต่ำกว่า presale ก็มี ถือเป็นจังหวะดีที่เราจะเข้าไปลงทุน
8) มี free application สำหรับคำนวณว่าต้องผ่อนธนาคารเดือนละเท่าไหร่ ชื่อว่า Ez Calculator
เพียงแค่ใส่ราคาอสังหา อัตราดอกเบี้ยธนาคาร และระยะเวลาผ่อน
9) กว่าจะได้อสังหาที่แรกเป็นของตัวเอง Donald Trump ให้คำแนะนำว่า คุณต้องดูอสังหา 100 ที่ก่อนตัดสินใจซื้อ
แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แค่ได้ 30-40 ที่ คุณก็เริ่มมี Idea ในการตัดสินใจซื้อได้แล้ว
10) วิธีการประกาศขาย/เช่าคอนโด มี 3 รูปแบบ ได้แก่
• Agency อย่างน้อย 5 ราย
• Internet อย่างน้อย 5 websites
• นิติบุคคล อันนี้เป็น “The must” เลย
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณอยากจะลงทุนในสินทรัพย์อะไร ขอให้คุณลงทุนในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองก่อน
เพราะไม่มีการลงทุนไหนที่จะคุ้มค่าไปกว่าการลงทุนในตัวเอง
ขอให้คุณชัดเจนกับเป้าหมายว่าคุณลงทุนไปเพื่ออะไร หา Why ของตัวเองให้เจอ
แล้วพบกันที่ความสำเร็จ
ติดตามบทความได้ที่ OrN Time Official เพจแบ่งปันแนวคิดและความรู้จากหนังสือ และสัมมนา
The More You Learn, The More You Earn
https://www.facebook.com/DrTimeManagement