สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ความรุนแรงก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้จริงๆนี่ครับ สงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็เป็นหลักฐานชั้นดี
หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ฝรั่งเศสต้องการกระทืบเยอรมันไม่ให้ตั้งตัวได้อีกเลย
เลยเขียนเงื่อนไขในสนธิสัญญาแวร์ซายน์ไว้อย่างสาหัสมาก(ถึงเยอรมันจะไม่ได้จ่ายทั้งหมดก็ตาม)
ผลลัพท์คือ สงครามโลกครั้งที่สอง
จะเห็นว่าความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหาครับ เพราะสุดท้ายสงครามเกือบทุกครั้งของโลกยุคใหม่ก็จบลงที่โต๊ะเจรจาอยู่ดี
ในการสงครามระดับประเทศ ณ ปัจจุบัน ความรุนแรงเป็นมาตรการบีบบังคับให้เกิดการเจรจา
ยกตัวอย่างเช่นในสงครามโลกครั้งที่สอง เป้าหมายจริงๆของญี่ปุ่นในการบุก Pearl Harbor
ก็คือการถ่วงเวลาอเมริกาให้เข้าสงครามช้าลง ถ้าญี่ปุ่นทำสำเร็จท้ายที่สุดญี่ปุ่นก็จะเปิดการเจรจาสงบศึกกับอเมริกา
หรืออย่างเช่นการใช้ระเบิดนิวเคลียร์เป้าหมายของอเมริกานอกจากจะเพื่อบีบให้ญี่ปุ่นเจรจา(ซึ่งจริงๆก็กำลังพิจารณาอยู่)
ก็ใช้ในการห้ามปรามโซเวียด ไม่ให้บุกลึกเข้ามาในญี่ปุ่นอีกด้วย
การแก้ปัญหาขั้นสุดท้ายมันก็ต้องเกิดด้วยสันติวิธีอยู่ดี การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ส่วนมากมักจะทิ้งเชื้อความรุนแรงเอาไว้ในอนาคต
ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือ 66/23 เมื่อทหารเปลี่ยนจากการจับอาวุธ เป็นการเจรจากับจีนให้เลิกสนับสนุน และประกาศอภัยโทษให้คนที่เข้าป่า
นี่คือตัวอย่างการใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาครับ
สรุป - การแก้ปัญหาต้องใช้สันติวิธี ส่วนกำลังเป็นแค่ Emergency measure เพื่อหยุดยั้งความเสียหายเท่านั้นก่อนที่จะใช้มาตรการอื่นๆเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ฝรั่งเศสต้องการกระทืบเยอรมันไม่ให้ตั้งตัวได้อีกเลย
เลยเขียนเงื่อนไขในสนธิสัญญาแวร์ซายน์ไว้อย่างสาหัสมาก(ถึงเยอรมันจะไม่ได้จ่ายทั้งหมดก็ตาม)
ผลลัพท์คือ สงครามโลกครั้งที่สอง
จะเห็นว่าความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหาครับ เพราะสุดท้ายสงครามเกือบทุกครั้งของโลกยุคใหม่ก็จบลงที่โต๊ะเจรจาอยู่ดี
ในการสงครามระดับประเทศ ณ ปัจจุบัน ความรุนแรงเป็นมาตรการบีบบังคับให้เกิดการเจรจา
ยกตัวอย่างเช่นในสงครามโลกครั้งที่สอง เป้าหมายจริงๆของญี่ปุ่นในการบุก Pearl Harbor
ก็คือการถ่วงเวลาอเมริกาให้เข้าสงครามช้าลง ถ้าญี่ปุ่นทำสำเร็จท้ายที่สุดญี่ปุ่นก็จะเปิดการเจรจาสงบศึกกับอเมริกา
หรืออย่างเช่นการใช้ระเบิดนิวเคลียร์เป้าหมายของอเมริกานอกจากจะเพื่อบีบให้ญี่ปุ่นเจรจา(ซึ่งจริงๆก็กำลังพิจารณาอยู่)
ก็ใช้ในการห้ามปรามโซเวียด ไม่ให้บุกลึกเข้ามาในญี่ปุ่นอีกด้วย
การแก้ปัญหาขั้นสุดท้ายมันก็ต้องเกิดด้วยสันติวิธีอยู่ดี การแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ส่วนมากมักจะทิ้งเชื้อความรุนแรงเอาไว้ในอนาคต
ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือ 66/23 เมื่อทหารเปลี่ยนจากการจับอาวุธ เป็นการเจรจากับจีนให้เลิกสนับสนุน และประกาศอภัยโทษให้คนที่เข้าป่า
นี่คือตัวอย่างการใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาครับ
สรุป - การแก้ปัญหาต้องใช้สันติวิธี ส่วนกำลังเป็นแค่ Emergency measure เพื่อหยุดยั้งความเสียหายเท่านั้นก่อนที่จะใช้มาตรการอื่นๆเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงกับปรัชญาที่ว่า สันติวิธีแก้ปัญหาความรุนแรงได้ ใช้ความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหา อ้าวแล้ว WWII หล่ะ ?
กระบวนการสันติวิธีแก้ปัญหาความรุนแรงได้ แต่ใช้ความรุนแรงไม่ได้แก้ไขปัญหา
แล้ว กรณี WWII หล่ะ การใช้ความรุนแรงของสัมพันธมิตรช่วยหยุดนาซีเอาไว้ได้
ถ้าใช้กระบวนการสันติวิธี จะแก้ปัญหาได้หรอ
ถ้าโจรมีปืน ตำรวจไปใช้กระบวนการสันติวิธี จะแก้ปัญหาได้หรือ
ท่านลองดูคลิปนี้ ท่านคิดยังไงกับปรัชญาที่ว่า สันติวิธีแก้ปัญหาความรุนแรงได้ ใช้ความรุนแรงไม่ได้แก้ปัญหา ?