วันนี้จะเล่าเรื่อง(อดีต)เพื่อน ที่ตั้งแต่คบกันมาในสมัยมัธยมให้ฟังค่ะ ^^
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนแล้วทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจมากที่สุด ว่าทำไมเขาทำกับเราได้จนถึงเพียงนี้เพราะเราค่อนข้างสนิทกันมาก มีอะไรคุยกันตลอดแต่เธอโกหกและหลอกเราทำไม? ปล่อยให้เราและเพื่อนๆเป็น
มาทั้ง 7 ปี เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ
เราเป็นคน sensitive เรื่องเพื่อนมาก เพื่อนๆที่ได้อ่านแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ใครๆคิดว่าร้ายกาจ ใจดำ เย็นชาจัง ตัดขาดกันเพราะเรื่องนี้หรอ? โหดร้าย สิ่งที่ทำ ทำถูกแล้วหรือป่าว? มันสมควรมั้ย? แบบนี้คงต้องตัดสินจากเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คะ
- สมมุติให้(อดีต)เพื่อน = ก
- " เรา. = ข
- " เพื่อนในกลุ่มที่เหลือคบกันจนถึงปัจจุบัน = ค , ง
... ก ข ค ง เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมปลายค่ะ เป็นเพื่อนที่สนิทกันพอสมควรเลย มีอะไรเราจะช่วยเหลือกันตลอด แต่เมื่อเราเรียนจบมัธยมแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกันไปเรียนมหาลัย ทำตามความฝัน ทำตามสิ่งที่ตัวเองเลือก เย้! ลุย!! และเราก็สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...
... ก , ข อยู่ มหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ส่วน ค , ง อยู่คนละมหาลัย
... จนวันหนึ่ง ก เขาเริ่มเข้าสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น (ปกติจะเป็นคนที่มีนิสัยชอบเข้าสังคมอยู่แล้ว ยิ่งเข้ามหาลัยยิ่งแล้วใหญ่) ติดอยู่กับโลกมายาทางสังคมไฮโซ สร้างหน้ากากเข้าหากัน ต้องมีความทะเยอทะยาน หรูหรา ใช้เงินฟุ่มเฟื่อย ไม่รู้จักใช้จ่ายเงิน ข.ก็ต้องคอยบอกอยู่ตลอดเวลา เสพกับความสุขที่ตัวเองสร้างขึ้น จนไม่รู้จักพอดี ซึ่งฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร (ในเรื่องนี้เพื่อนๆอย่างเราก็ยอมรับได้ค่ะ อันไหนดีไม่ดีก็ต้องตักเตือนไป)
... จนมีอยู่วันหนึ่ง เขาเริ่มมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามา จากการกระทำของ ก. จนทำให้ต้องออกจากมหาลัย
... ก ได้บอกกับ ข , ค , ง ว่าเขาจะออกมหาลัยแล้วไปเรียนต่อที่เมืองกรุง เพราะย่าและแม่หาที่เรียนให้ได้แล้ว ข,ค,ง ก็เชื่อและเข้าใจ และให้กำลังใจให้คำปรึกษาตลอดระยะที่มีปัญหาหรือเรื่องอะไรที่เขาไม่สบายใจในระหว่างที่ไปเรียนต่อที่เมืองกรุง
... ตลอดระยะเวลาที่เรียนนั้น เราก็คุยกันถามกันเป็นปกติ ด้วยความเป็นห่วง มีโอกาสก็ได้ถามเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนๆว่าเป็นอย่างไรบ้าง? เพื่อนดีด้วยมั้ย? เข้ากันได้มั้ย? เพื่อนเป็นใคร? ก. ก็บอกว่า มีเพื่อนที่เล่นด้วยกัน 2 คน เป็นลูกผู้ดี นามสกุลใหญ่โต ไฮโซ มีหน้ามีตา เราก็ได้แต่บอกว่า โอเค ดีแล้ว ดีกว่าไม่มีเพื่อน เพราะ ก.เพิ่งเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งไม่ได้ไปตั้งแต่ต้น
...จากนั้น ตั้งแต่เขาย้ายไปความต้องการอยากมีอยากได้ก็เริ่มมากขึ้นตามกาลเวลา จนนานร่วมปี ก็มีบางสิ่งที่ทำให้ ข,ค,ง สงสัย เกี่ยวกับเรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นหลอกทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ ข,ค,ง จนต้องสืบให้รู้ความจริง
- เหตุการณ์แรก เรื่องแฟนที่คบกันมานาน (เคยเลิกกันครั้งหนึ่งตอน ก.อยู่มหาลัยแรก แต่ไปเรียนเมืองกรุงก็ได้คบกันอีกครั้ง) ซึ่งแฟน ก.ที่เขามโนมาตั้งแต่มัธยมนั้น ทำเรื่องไม่ดีจนมีข่าว เราก็เลยได้สืบ และโทรคุยว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย? มันเป็นมาอย่างไร? แต่ ก.โชคยังเข้าข้าง แทนที่จะโดนจับได้ว่าแฟนคนนี้ไม่มีตัวตน (ซึ่ง ช คนนั้น เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แบบไม่รู้จักกัน) แต่ ก.มโนเอง เอารูปมาแอบอ้างให้เราและเพื่อนว่าคนนี้ ให้เพื่อนๆได้รับรู้เท่านั้น (แบบเพื่อนๆก็ไม่ค่อยได้รู้จักคนในสังคมมากอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดตามจริงๆจะไม่ค่อยรู้) ทำให้ ก.ได้อ้างและเนียนสร้างเรื่องอีกต่อไปได้ เราก็ได้แค่เคยคุยกับแฟน ก.ทางแชทเท่านั้น (เรื่องก็เหมือน ก.จะคุยและเป็นคนตอบโต้เอง) >> ถ้าจับได้ในเรื่องแฟนเราและ ค,ง ยังพอคุยกับ ก. ได้
- เหตุการณ์ที่สอง เชื่อมั้ยคะว่า "ความลับไม่เคยมีในโลก" (แล้วยิ่งเป็นกรณีแบบนี้อีก เฮ้อออ) ...คือเราและ ค,ง เริ่มสงสัยในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่คบกันมา ในเรื่องต่างๆที่รู้มานั้น มีเรื่องไหนบ้างที่เป็นความจริง ที่สำคัญ...ความจริงใจและตัวตนที่แท้จริงของ ก.เป็นแบบไหนกันแน่ เป็นแบบที่ ก. มีนิสัยตอนอยู่กับพวกเรา หรือจริงๆแล้วนั้น ตัวตนที่ ก.แท้จริงนั้นคือสิ่งที่เขาแสดงหรือสร้างให้คนอื่นๆได้รับรู้ (เพราะเริ่มรู้สึกว่าเราไม่เคยรู้จักตัวตนที่คบกันมา) 'หน้ากากใบไหนจริงใบไหนปลอม'
...จนช่วงหนึ่งสืบจนรู้ความจริงแบบกระจ่าง (ว่าเขาโกหกเราตั้งแต่ต้น ตั้งแต่คบกันมา) เราและ ค,ง คุยกันว่า พวกเราจะรอดูสถานการณ์ก่อน ดูว่าเรื่องที่เขาสร้างมานั้นมันจะเป็นแบบไหนต่อ เพราะหลักฐานทุกอย่างมีพร้อม แต่เขาก็ยังไม่หยุด จนพวกเราเริ่มตีตัวออกห่างมาตั้งหลักว่าจะทำอย่างไงดี
**หลายๆคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่เข้าไปคุย บอกให้เขาเลิก
... และแล้วเขาก็รู้สึกตัวด้วยตัวเองและรับรู้เองในความสัมผัสระหว่างเพื่อนที่แปลกไปแต่ตอนนั้นเราไม่เคยคุยกันตรงๆ เพราะช่วงนั้น เราและ ค,ง ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเรียนมาก เวลามักไม่ตรงกัน เราอยากคุยกันแบบเจอกันมากกว่า แต่ปัญหาก็จะค้างไว้แบบนั้น จน ค.ทนรอต่อไปไม่ไหว คุยกันแบบโทรศัพท์ก็ยอม เราก็ตกลง ถ้าไม่มีทางเลือกก็คุยทางนี้ก็ได้ เมื่อโทรหา ก. ก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่ว่าง แล้วก็นัดเวลา พอโทรไปอีก ก็ไม่รับสาย ดูเหมือนว่าจะบายเบี่ยงไม่อยากคุย ไม่อยากอธิบายให้เพื่อนๆได้เข้าใจและเหตุผลที่แท้จริง ว่าในเรื่องที่โกหก ทั้งเรื่อง ครอบครัว ฐานะ แฟน เพื่อน การศึกษา และสังคมต่างๆ ทำไปทำไม? เพื่ออะไร? มีปัญหาอะไรหรือป่าว? เพื่อนพร้อมช่วยเหลือนะ แต่เขาคงมีความสุขในความจอมปลอมจนลืมความเป็นจริงแล้วหรอ?
...ณ ปัจจุบันก็ยังไม่เคยคุยกันอีกเลยและตัวเราเองก็ไม่เคยคิดที่จะคุยแล้วด้วย เพราะเราได้ให้โอกาสเขาไปแล้ว เขาเลือกที่จะทิ้งมันเอง คงได้แต่ปล่อยให้เวลาได้เป็นตัวกำหนดและพิสูจน์เรื่องราวต่างๆเอง
...แต่อยากจะบอกว่าทุกคนที่มีปัญหาหรือตัวเองกระทำแบบนี้นะคะว่า "เราเป็นเพื่อนกัน เมื่อเพื่อนมีปัญหา เราก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเสมอ และที่สำคัญเราไม่ได้คบเพื่อนที่เปลือกภายนอก เราคบกันที่ภายใน มอบความจริงใจที่มีให้กันก็เท่านั้นเอง"
~ จากนี้เราหวังว่าเราไม่ต้องเจอกันอีกเลยจะดีกว่า ขอให้เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน เพราะเราโคตรเจ็บในสิ่งที่เธอทำกับเรา เจ็บยิ่งกว่าแฟนบอกเลิกอีก จงอยู่กับความสุขที่ตัวเองสร้างขึ้น เราขอความเป็นเพื่อนที่เคยมอบให้กลับคืนมา และที่สำคัญขอลบเธอออกจากความทรงจำที่เคยมีให้กัน ขอให้โชคดีนะกับสิ่งที่เลือก~
:: ปล. เรื่องนี้ยาวและซับซ้อนมากกกกกก (ก ล้านตัว 5555) ค่ะ ขนาดยังไม่รวมเรื่องย่อยๆ ปริศนาเล็กๆน้อยๆ เอาเป็นว่าเน้นเรื่องหลักๆดีกว่า
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
::ปล2. ถ้าใครอ่านแล้วอาจจะ งง ก็ขออภัยด้วยนะคะ เพราะมันก็ยากที่จะเขียนออกมา และที่สำคัญพิมพ์ในโทรศัพท์ดูยากอีกด้วย ^_______^
(อดีต)เพื่อน ที่ใครๆคิดว่าเขาไม่มีตัวตน เพราะเขาทำตัวของเขาเอง
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพื่อนแล้วทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจมากที่สุด ว่าทำไมเขาทำกับเราได้จนถึงเพียงนี้เพราะเราค่อนข้างสนิทกันมาก มีอะไรคุยกันตลอดแต่เธอโกหกและหลอกเราทำไม? ปล่อยให้เราและเพื่อนๆเป็น
เราเป็นคน sensitive เรื่องเพื่อนมาก เพื่อนๆที่ได้อ่านแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ใครๆคิดว่าร้ายกาจ ใจดำ เย็นชาจัง ตัดขาดกันเพราะเรื่องนี้หรอ? โหดร้าย สิ่งที่ทำ ทำถูกแล้วหรือป่าว? มันสมควรมั้ย? แบบนี้คงต้องตัดสินจากเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้คะ
- สมมุติให้(อดีต)เพื่อน = ก
- " เรา. = ข
- " เพื่อนในกลุ่มที่เหลือคบกันจนถึงปัจจุบัน = ค , ง
... ก ข ค ง เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมปลายค่ะ เป็นเพื่อนที่สนิทกันพอสมควรเลย มีอะไรเราจะช่วยเหลือกันตลอด แต่เมื่อเราเรียนจบมัธยมแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องแยกย้ายกันไปเรียนมหาลัย ทำตามความฝัน ทำตามสิ่งที่ตัวเองเลือก เย้! ลุย!! และเราก็สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป...
... ก , ข อยู่ มหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ส่วน ค , ง อยู่คนละมหาลัย
... จนวันหนึ่ง ก เขาเริ่มเข้าสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น (ปกติจะเป็นคนที่มีนิสัยชอบเข้าสังคมอยู่แล้ว ยิ่งเข้ามหาลัยยิ่งแล้วใหญ่) ติดอยู่กับโลกมายาทางสังคมไฮโซ สร้างหน้ากากเข้าหากัน ต้องมีความทะเยอทะยาน หรูหรา ใช้เงินฟุ่มเฟื่อย ไม่รู้จักใช้จ่ายเงิน ข.ก็ต้องคอยบอกอยู่ตลอดเวลา เสพกับความสุขที่ตัวเองสร้างขึ้น จนไม่รู้จักพอดี ซึ่งฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร (ในเรื่องนี้เพื่อนๆอย่างเราก็ยอมรับได้ค่ะ อันไหนดีไม่ดีก็ต้องตักเตือนไป)
... จนมีอยู่วันหนึ่ง เขาเริ่มมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามา จากการกระทำของ ก. จนทำให้ต้องออกจากมหาลัย
... ก ได้บอกกับ ข , ค , ง ว่าเขาจะออกมหาลัยแล้วไปเรียนต่อที่เมืองกรุง เพราะย่าและแม่หาที่เรียนให้ได้แล้ว ข,ค,ง ก็เชื่อและเข้าใจ และให้กำลังใจให้คำปรึกษาตลอดระยะที่มีปัญหาหรือเรื่องอะไรที่เขาไม่สบายใจในระหว่างที่ไปเรียนต่อที่เมืองกรุง
... ตลอดระยะเวลาที่เรียนนั้น เราก็คุยกันถามกันเป็นปกติ ด้วยความเป็นห่วง มีโอกาสก็ได้ถามเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนๆว่าเป็นอย่างไรบ้าง? เพื่อนดีด้วยมั้ย? เข้ากันได้มั้ย? เพื่อนเป็นใคร? ก. ก็บอกว่า มีเพื่อนที่เล่นด้วยกัน 2 คน เป็นลูกผู้ดี นามสกุลใหญ่โต ไฮโซ มีหน้ามีตา เราก็ได้แต่บอกว่า โอเค ดีแล้ว ดีกว่าไม่มีเพื่อน เพราะ ก.เพิ่งเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งไม่ได้ไปตั้งแต่ต้น
...จากนั้น ตั้งแต่เขาย้ายไปความต้องการอยากมีอยากได้ก็เริ่มมากขึ้นตามกาลเวลา จนนานร่วมปี ก็มีบางสิ่งที่ทำให้ ข,ค,ง สงสัย เกี่ยวกับเรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นหลอกทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ ข,ค,ง จนต้องสืบให้รู้ความจริง
- เหตุการณ์แรก เรื่องแฟนที่คบกันมานาน (เคยเลิกกันครั้งหนึ่งตอน ก.อยู่มหาลัยแรก แต่ไปเรียนเมืองกรุงก็ได้คบกันอีกครั้ง) ซึ่งแฟน ก.ที่เขามโนมาตั้งแต่มัธยมนั้น ทำเรื่องไม่ดีจนมีข่าว เราก็เลยได้สืบ และโทรคุยว่าเป็นเรื่องจริงมั้ย? มันเป็นมาอย่างไร? แต่ ก.โชคยังเข้าข้าง แทนที่จะโดนจับได้ว่าแฟนคนนี้ไม่มีตัวตน (ซึ่ง ช คนนั้น เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แบบไม่รู้จักกัน) แต่ ก.มโนเอง เอารูปมาแอบอ้างให้เราและเพื่อนว่าคนนี้ ให้เพื่อนๆได้รับรู้เท่านั้น (แบบเพื่อนๆก็ไม่ค่อยได้รู้จักคนในสังคมมากอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดตามจริงๆจะไม่ค่อยรู้) ทำให้ ก.ได้อ้างและเนียนสร้างเรื่องอีกต่อไปได้ เราก็ได้แค่เคยคุยกับแฟน ก.ทางแชทเท่านั้น (เรื่องก็เหมือน ก.จะคุยและเป็นคนตอบโต้เอง) >> ถ้าจับได้ในเรื่องแฟนเราและ ค,ง ยังพอคุยกับ ก. ได้
- เหตุการณ์ที่สอง เชื่อมั้ยคะว่า "ความลับไม่เคยมีในโลก" (แล้วยิ่งเป็นกรณีแบบนี้อีก เฮ้อออ) ...คือเราและ ค,ง เริ่มสงสัยในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่คบกันมา ในเรื่องต่างๆที่รู้มานั้น มีเรื่องไหนบ้างที่เป็นความจริง ที่สำคัญ...ความจริงใจและตัวตนที่แท้จริงของ ก.เป็นแบบไหนกันแน่ เป็นแบบที่ ก. มีนิสัยตอนอยู่กับพวกเรา หรือจริงๆแล้วนั้น ตัวตนที่ ก.แท้จริงนั้นคือสิ่งที่เขาแสดงหรือสร้างให้คนอื่นๆได้รับรู้ (เพราะเริ่มรู้สึกว่าเราไม่เคยรู้จักตัวตนที่คบกันมา) 'หน้ากากใบไหนจริงใบไหนปลอม'
...จนช่วงหนึ่งสืบจนรู้ความจริงแบบกระจ่าง (ว่าเขาโกหกเราตั้งแต่ต้น ตั้งแต่คบกันมา) เราและ ค,ง คุยกันว่า พวกเราจะรอดูสถานการณ์ก่อน ดูว่าเรื่องที่เขาสร้างมานั้นมันจะเป็นแบบไหนต่อ เพราะหลักฐานทุกอย่างมีพร้อม แต่เขาก็ยังไม่หยุด จนพวกเราเริ่มตีตัวออกห่างมาตั้งหลักว่าจะทำอย่างไงดี
**หลายๆคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่เข้าไปคุย บอกให้เขาเลิก
... และแล้วเขาก็รู้สึกตัวด้วยตัวเองและรับรู้เองในความสัมผัสระหว่างเพื่อนที่แปลกไปแต่ตอนนั้นเราไม่เคยคุยกันตรงๆ เพราะช่วงนั้น เราและ ค,ง ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเรียนมาก เวลามักไม่ตรงกัน เราอยากคุยกันแบบเจอกันมากกว่า แต่ปัญหาก็จะค้างไว้แบบนั้น จน ค.ทนรอต่อไปไม่ไหว คุยกันแบบโทรศัพท์ก็ยอม เราก็ตกลง ถ้าไม่มีทางเลือกก็คุยทางนี้ก็ได้ เมื่อโทรหา ก. ก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่ว่าง แล้วก็นัดเวลา พอโทรไปอีก ก็ไม่รับสาย ดูเหมือนว่าจะบายเบี่ยงไม่อยากคุย ไม่อยากอธิบายให้เพื่อนๆได้เข้าใจและเหตุผลที่แท้จริง ว่าในเรื่องที่โกหก ทั้งเรื่อง ครอบครัว ฐานะ แฟน เพื่อน การศึกษา และสังคมต่างๆ ทำไปทำไม? เพื่ออะไร? มีปัญหาอะไรหรือป่าว? เพื่อนพร้อมช่วยเหลือนะ แต่เขาคงมีความสุขในความจอมปลอมจนลืมความเป็นจริงแล้วหรอ?
...ณ ปัจจุบันก็ยังไม่เคยคุยกันอีกเลยและตัวเราเองก็ไม่เคยคิดที่จะคุยแล้วด้วย เพราะเราได้ให้โอกาสเขาไปแล้ว เขาเลือกที่จะทิ้งมันเอง คงได้แต่ปล่อยให้เวลาได้เป็นตัวกำหนดและพิสูจน์เรื่องราวต่างๆเอง
...แต่อยากจะบอกว่าทุกคนที่มีปัญหาหรือตัวเองกระทำแบบนี้นะคะว่า "เราเป็นเพื่อนกัน เมื่อเพื่อนมีปัญหา เราก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเสมอ และที่สำคัญเราไม่ได้คบเพื่อนที่เปลือกภายนอก เราคบกันที่ภายใน มอบความจริงใจที่มีให้กันก็เท่านั้นเอง"
~ จากนี้เราหวังว่าเราไม่ต้องเจอกันอีกเลยจะดีกว่า ขอให้เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน เพราะเราโคตรเจ็บในสิ่งที่เธอทำกับเรา เจ็บยิ่งกว่าแฟนบอกเลิกอีก จงอยู่กับความสุขที่ตัวเองสร้างขึ้น เราขอความเป็นเพื่อนที่เคยมอบให้กลับคืนมา และที่สำคัญขอลบเธอออกจากความทรงจำที่เคยมีให้กัน ขอให้โชคดีนะกับสิ่งที่เลือก~
:: ปล. เรื่องนี้ยาวและซับซ้อนมากกกกกก (ก ล้านตัว 5555) ค่ะ ขนาดยังไม่รวมเรื่องย่อยๆ ปริศนาเล็กๆน้อยๆ เอาเป็นว่าเน้นเรื่องหลักๆดีกว่า
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
::ปล2. ถ้าใครอ่านแล้วอาจจะ งง ก็ขออภัยด้วยนะคะ เพราะมันก็ยากที่จะเขียนออกมา และที่สำคัญพิมพ์ในโทรศัพท์ดูยากอีกด้วย ^_______^