ว่อนเน็ต!! สธ.สั่งแบนข่าวช่อง 3 "รองปลัด"แจงแค่เปลี่ยนช่อง เพื่อช่วยลดความขัดแย้ง

ที่มา:  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU5ERTFOamMxT1E9PQ==&subcatid=





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. มีการเผยแพร่หนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ระบุถึงหนังสือ สป.สธ.  วันที่ 30 ม.ค. 2558 ลงนามโดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ.  ทำหนังสือถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) ทุกแห่ง เรื่อง "เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดโทรทัศน์ของโรงพยาบาลรัฐ"

  ระบุว่า ด้วยสป.สธ. ได้รับเรื่องผ่านศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 กรณีมีผู้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการเปิดรายการโทรทัศน์ของโรงพยาบาลรัฐ ในการเปิดรายการข่าวเฉพาะสถานีโทรทัศน์บางช่อง ให้ผู้มารับบริการในโรงพยาบาลรับชม ซึ่งเป็นรายการข่าวที่ไม่เหมาะสม เพราะพิธีกรผู้ดำเนินการรายการท่านหนึ่งเป็นผู้ที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม ถูกคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูล โดยการร้องดังกล่าว ทางสป.สธ. ได้รับเรื่องจากศูนย์ร้องเรียนฯ จึงขอเสนอแนะให้ทางสป.สธ.เห็นว่า การเปิดดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการแต่ละแห่ง จึงขอให้นพ.สสจ. แจ้งโรงพยาบาลในสังกัด พิจารณาให้มีการหมุนเวียนการเปิดช่องสถานีโทรทัศน์ในแต่ละวัน และปิดประกาศให้ผู้มารับบริการทราบ จะทำให้ปัญหาข้อขัดแย้งหมดสิ้นไปได้ แต่ปรากฎว่ากลับมีเสียงโจมตีการออกหนังสือดังกล่าว ว่า สป.สธ. ดำเนินการไม่เหมาะสม

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า  ตนออกหนังสือดังกล่าวจริง แต่ต้องพิจารณาเหตุและผลให้ชัดเจน โดยหนังสือที่ออกไปนั้นเป็นการดำเนินการตามสาเหตุ คือ มีประชาชนไปร้องเรียนที่ศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 กรณีโรงพยาบาลรัฐ ในสังกัดสป.สธ.เปิดรายการข่าวเฉพาะสถานีโทรทัศน์บางช่อง  โดยหนังสือได้อ้างถึงคำร้องเรียนดังกล่าวเท่านั้น

  เมื่อมีการร้องเรียนมายังศูนย์บริหารจัดการฯ ทางศูนย์ฯ ก็ได้ทำหนังสือแจ้งมายังสป.สธ.   ด้วยเหตุนี้ตนจึงต้องทำหนังสือไปยังนพ.สสจ. เพื่อให้ดำเนินการตามที่มีผู้ร้องเรียน แต่หากพิจารณาดีๆ ในหนังสือไม่ได้ระบุว่าห้ามเปิดรายการทีวีช่องดังกล่าว แต่เป็นการเสนอความเห็นว่า การเปิดรายการโทรทัศน์ใดๆ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการโรงพยาบาลนั้นๆแต่เพื่อให้ลดความขัดแย้ง และข้อร้องเรียนของประชาชน จึงขอให้มีการเปิดรายการโทรทัศน์ที่หมุนเวียนกันไปแต่ละช่อง ตนจึงมองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ใดเลย แต่เป็นการทำตามหน้าที่และขั้นตอนที่มีการร้องเรียนมาก็เท่านั้น

“เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจะมีการทำหนังสือเวียนสั่งการอีกครั้ง เพื่อชี้แจงว่า กระทรวงไม่ได้ปิดกั้นการรับข่าวสาร และขอให้ทางโรงพยาบาลพิจารณาในการเผยแพร่ข่าวสารสุขภาพ เปิดช่องทางการรับข่าวสารจากทุกช่องทางให้ครอบคลุม ซึ่งทางกระทรวงก็มีการผลิตสื่อความรู้สุขภาพให้ประชาชนอยู่แล้ว สามารถนำไปเผยแพร่ได้ทันที”นพ.วชิระ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่