“สุรเชษฐ์” แฉ “คมนาคม” ของบสร้างตึกสำนักปลัดฯ ใหม่ 3,832 ล้าน อลังการแพงกว่าตึก สตง.ที่ถล่ม
https://ch3plus.com/news/political/morning/440586
.
.
“สุรเชษฐ์” สส.พรรคประชาชน แฉ “คมนาคม” ของบสร้างตึกสำนักปลัดฯ ใหม่ 3,832 ล้าน แพงกว่าตึก สตง.ที่ถล่ม บนพื้นที่ 18.5 ไร่ มีห้องรัฐมนตรีอยู่ชั้น 22 ดาดฟ้ามีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มีโรงหนังใหญ่กว่าไอแม็ก ห้องคอนเวนชันฮอลล์ ใหญ่กว่าโรงแรมดัง มีข้าราชการเข้าอยู่แค่ 319 คน แต่ของบเกินราคา ไม่ชัดเจนให้หน่วยงานไหนเข้าอยู่บ้าง จี้ “สุริยะ”ตอบให้ชัด
.
29 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายงบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในสัดส่วนกระทรวงคมนาคม ว่า ขอใช้ชื่อตอนว่า “งบคมนาคมยังคงเดิมๆ เพิ่มเติมคือสร้างตึกเพื่อใคร” แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาด้านคมนาคมถือเป็นกระเป๋าหลัก มีงบมากถึง 181,968 ล้านบาท โดยเป็นของกรมทางหลวงมากถึง 121,891 ล้านบาท ตามมาด้วยกรมทางหลวงชนบท 49,582 ล้านบาท เพราะคมนาคมคืองบลงทุนก้อนใหญ่ที่สุดและผูกพันมากที่สุด ต่อเนื่องมานานมากแล้ว แต่ถูกนำไปใช้ถูกที่ถูกทางหรือยัง แก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ซึ่งงบลงทุนในปี 69 ขอวกระทรวงต่างๆ ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 569,800 ล้านบาท และงบก้อนใหญ่ที่สุดอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ได้มากถึง 32.9 เปอร์เซ็นต์ของงบลงทุนทั้งหมดทุกๆด้านในประเทศนี้ และสร้างภารผูกพันมากที่สุดถึง 28.6 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวมจากทุกกระทรวง และการลงทุนส่วนใหญ่ใช้ไปกับการซ่อม และสร้างถนน โดยกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ตามมาด้วยเรื่องของน้ำ ส่วนงบด้านอื่นๆ น้อยมาก
.
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนขอเน้นเรื่องสำนักปลัดกระทรวงคมนาคม เพราะอยากช่วยรัฐบาลหาเงิน ช่วยตัดงบให้มีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นให้ประชาชนได้มากกว่า สำนักปลัดฯปีนี้รับงบฯไปทั้งสิ้น 1,124 ล้านบาท เพิ่มเท่าตัวจากปีก่อนๆ ที่รับอยู่ที่ประมาณปีละ 600 ล้านบาท ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นคือค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ งบปี 69 จำนวน 574.8 ล้านบาท ผูกพันปี 70 จำนวน 1,628.6. ล้านบาท และปี 71 อีก1,628.6 ล้านบาท รวมงบ3ปี จำนวน 3,832 ล้านบาท มากกว่าตึก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่ถล่มอีก
.
“จำได้ใครๆ ก็ด่า สตง.แพง ใช้งบฯ อะไรเยอะแยะไปหมด ซึ่งก็แพงจริง ตึกสตง.ใช้งบ 2,560 ล้าบาท แต่ตึกคมนาคม 3,832 ล้านบาท ตึกใหม่มาแน่ และตั้งคำขอมามากถึง 4,500 ล้านบาท นี่ขนาดสำนักงบฯปรับลดแล้วยังเหลืออยู่ตั้ง 3,832 ล้านบาท ตึกคมนาคมกินพื้นที่ 18.5 ไร่ เทียบกับตึกสตง. 10.75 ไร่อยู่ในทำเลทองของอาณาจักรบางซื่อ 1,471 ไร่ โดยตึกใหม่ของคมนาคมอยู่ในโซนE ที่วางแผนจะให้เป็นสมาร์ทซิตี้คอมเพล็กซ์ 141.65 ไร่ หน้าเสียดายพื้นที่แถบนี้ควรนำมาพัฒนาเป็น การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน หลายปีแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จสักที รัฐบาลไม่เก่งพอที่จะพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ แต่สิ่งที่สำเร็จและเกิดขึ้นจริงคือตึกราชการเพียบในย่านบางซื่อ ข้อเท็จจริงคือ 17% ของ สมาร์ทซิตี้คอมเพล็กซ์ตึกคมนาคมส่วนพื้นที่ที่เหลือยังไม่ชัดเจนว่าจะเอาไปทำอะไร ที่ควรจะเอาพื้นที่ไปหาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์มาชดเชยการขาดทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. )ได้มากกว่านี้เยอะ” นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า
.
นายสุรเชษฐ์ กล่าาอีกว่า การที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม จะเอาพื้นที่ไปสร้างตึกใหม่ให้กระทรวง มีการจ้างออกแบบเสร็จแล้ว มีจำนวน 22 ชั้น จึงขอให้รมว.คมนาคมต้องตอบให้ชัดว่าใครจะไปอยู่บ้างเพราะในแบบระบุเพียงสำนักปลัดฯ ซึ่งมีข้าราชการอยู่ 319 คน ซึ่งตามคำขอระบุมาเพียงหน่วยงานใหม่ที่เกิดขึ้น เช่นกรมการขนส่งทางรางซึ่งอาจมาอยู่ตึกใหม่นี้แต่ไม่ได้อยู่ในแบบ หากมาอยู่ก็จะมีข้าราชการเพิ่มอีก 82 คน สถาบันวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.)อีก 80 คน จะมีอยู่หรือไม่ ดังนั้นต้องรู้ก่อนว่าใครจะไม่อยู่บ้างไม่เช่นนั้นจะให้งบไปได้อย่างไร และหากรวมทั้งหมดประมาณ 1,000 คน ดังนั้นขอดูเอกสารของหน่วยงานที่จะแสดงความจำนงไปอยู่ตึกใหม่ด้วยและอย่าตับแต่งตัวเลขเเพื่อจะมาของบฯมากๆ เพื่อเอาไปสร้างตึกใหญ่ ๆ เดี๋ยวค่อยหาหน่วยงานมาอยู่หาคนมาบรรจุเครื่องให้เต็มตึกแบบนี้แย่มาก เพราะหากมาแบบนี้ก็ผ่านงบให้ไม่ได้จริงๆ ตามเอกสารที่มีให้งบไม่ได้เพราะตอบคำถามไม่ได้ว่าทำไมตึกคมนาคมได้งบต่อหัวสูงกว่าตึกสตง.มาก
.
“ตึกคมนาคม โอ่อ่ามากได้งบต่อหัวมากถึง 3.8 ล้านบาท มากกว่า 1.1 ล้านบาทตามบรรทัดฐานของสตง.ที่ใครก็ด่าว่าแพง ห้องรัฐมนตรีอยู่ชั้น 22 ขึ้นไปดาดฟ้ามีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย อย่างเท่เลย ห้องรัฐมนตรีใหญ่มาก 65 ตารางเมตร แต่ยังไม่เห็นความหรูหรา เพราะหน่วยงานไม่ยอมส่งแบบสถาปัตย์มาให้ขอฝากประธานฯ ทวงรัฐมนตรี สั่งการให้เปิดรายละเอียดทั้งหมดด้วยไม่อย่างนั้นเราจะพิจารณากันได้อย่างไรว่าจะให้งบไปเท่าไหร่ดี นอกจากนั้นยังมีการสร้างโรงหนังที่ชั้น9 ทะลุไปชั้น 10 มีล็อบบี้ขนาดใหญ่ มีออดิทอเรียม ขนาด 300 ที่นั่ง เป็นห้องโค้งพร้อมสโลบชั้นบันได คล้ายโรงหนังไอแม็ค มีจอแบบแอลอีดีขนาดใหญ่ ระบบแสงสีเสียงครบ เมื่อเทียบกับตึกสตง. และไอแม็ค จะเห็นว่าตึกคมนาคมอลังการเวอร์ มีพื้นที่ 631 ตารางเมตร ใหญ่กว่าไอแม็คเกือบเท่าตัว”นายสุรเชษฐ์กล่าว
.
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า เป็นส่วนชั้น 8 เป็นห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ 100 ที่นั่ง มีขนาด 1 พันตรางเมตร ห้องสกุลตรา โรงแรมเพนนินซูลา ยังแค่ 520 ตรางเมตร ห้องแกร์นบูนลูม ไฮแอท สุวรรณภูมิ ยังแค่814 ตรางเมตร ตึกคมนาคมเฉพาะค่าตกแต่งฝ้าพื้นผนัง 3.3 ล้านบาท ห้องประชุมขนาดใหญ่ 424 ตารางเมตร มีเวทีขนาด 31.5 ตารางเมตร มีจอแอลอีดีพร้อมแสงสีเสียงแบบจัดเต็ม แค่โคมไฟก็ราคาหนึ่งล้านบาทแล้ว จะใช้ไว้จัดคอนเสิร์ตหรืออย่างไร จากแบบก่อสร้างและบีโอคิวราคาเกินจริงไปมากทำให้ชวนสงสัยในหลายรายการ เป็นที่น่าสังเกตว่าตึกนี้มีห้องประชุม 48 ห้อง ขอให้ประชาชนไปช่วยกันดูแล้วจะรู้ว่าตึกคมนาคมโออ่ากว่าตึก สตง.อีก
.
.
“โรม” หวด “สมศักดิ์” ไม่อายฟ้าดิน หลังวีโต้มติแพทยสภา ชี้ขบวนการยุติธรรมเหลือจะทน บอกไม่ได้จะมีผล 13 มิ.ย.หรือไม่
https://siamrath.co.th/n/625372
วันที่ 29 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้มีการทำหนังสือกลับถึงแพทยสภา ภายหลังมีมติ กรณีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ในเชิงข้อเท็จจริงจะต้องนำข้อเท็จจริงทางการแพทย์ การที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่า ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ก็สมควรที่จะจบแล้ว ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดในสภาว่า ถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ฉะนั้น เมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณจะต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป ก็จบแล้ว นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมด ที่มีการนำนายทักษิณไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือกัน เพื่อทำให้นายทักษิณไม่ติดคุก แต่ให้ไปอยู่สบายๆ ยังไม่นับ ข้อเท็จจริง ที่ห้องพยาบาล อาจจะเรียกว่า หรูหราเกินความจำเป็น ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าคนอื่น
.
เมื่อาถมว่าในแง่ของการที่จะลงโทษคนที่เกี่ยวข้องนั้น คนที่เป็นหมอ ก็คงจะอยู่ในกระบวนการว่า ทางแพทยสภาจะยืนยันกลับไปอีกครั้งหรือไม่ ภายหลังจากที่นายสมศักดิ์วีโต้กลับมา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ แต่หวังว่า แพทยสภาจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดเอาพยานหลักฐาน สิ่งที่เถียงไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของความเห็น และคิดไปถึงมาตรฐานในอนาคต ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันนี้มีนายทักษิณนอนอยู่ที่ชั้น 14 วันต่อไปจะเป็นใคร ต่อไปนี้หมอสามารถรับงานแบบนี้โดยที่ไม่สนใจกระบวนการยุติธรรม และเรื่องของวิชาชีพ ไปช่วยคนดัง คนมีอำนาจ ประเทศไทยจะอยู่กันอย่างไร
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความสง่างามของนายสมศักดิ์ ที่ใช้กระบวนการวีโต้กลับมา เดี๋ยว เราทุกคนทราบว่า นายสมศักดิ์อยู่พรรคอะไร นายทักษิณมีอำนาจ มีอิทธิพลต่อใคร และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติม ให้กรณีชั้น 14 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือพวกพ้อง ต้องยอมรับว่า กระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ไม่อายฟ้าดิน ไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมองต่อปรากฏการณ์นี้อย่างไร และทำให้เกิดมาตรฐานที่เลวร้ายต่อไปเรื่อยๆ
.
“ลำพังในอดีตที่มีนักโทษอภิสิทธิ์ชนก็แย่พอแล้ว วันนี้เรามาเจอนักโทษเทวดาในรูปแบบกระบวนการยุติธรรมของเรามันเหลือจะทน เราคงไปหวังพึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้แล้ว หากจะให้พูดง่ายๆ นายสมศักดิ์มีหน้าที่ปกป้องนายใหญ่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของศาล หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หวังว่า จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทำหน้าที่จนนำไปสู่การมีข้อครหา ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมรู้สึกว่า กระบวนการของ ป.ป.ช.ช้ามากเหลือเกิน นายกรัฐมนตรี ควรจะไปให้การได้แล้ว และควรมีการเรียกนายทักษิณเข้าไปให้การได้แล้ว ตนมองว่า กระบวนการเร็วกว่านี้ได้ แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าเท่าไหร่” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า คณะกรรมการสภานายกพิเศษ จะลงมติไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เสียงถึง 48 เสียง ในการวีโต้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถทำนายได้ แต่หวังว่าสิ่งที่แพทยสภาจะทำ เป็นสิ่งที่สังคมไทยจับตามอง หากสุดท้ายกลายเป็นกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ สังคมไทยจะหมดศรัทธาในหมอไปมาก
.
"กรณีของนายทักษิณ ชัดยิ่งกว่าชัด พฤติกรรมของนายทักษิณ ตั้งแต่ที่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ถ้าจำกันได่ คุณอิ๊งค์อิ๊งค์ พูดชัดเจนว่า พ่อสบายดี มาถึงสนามบินก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถอุ้มหลานได้ ผ่านไป 10 ชั่วโมงในเรือนจำ นายทักษิณกลายเป็นคนที่ป่วยปางตาย ผมว่ามันไม่เมคเซนส์ ยังไม่รวมข้อเท็จจริง เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ ทุกองค์กรควรรู้ว่า การทำหน้าที่ของตนเอง นำมาซึ่งศรัทธาประชาชน วันนี้ในหลายภาคส่วน ก็ต้องยอมรับเรื่องปัญหาคอร์รัปชัน ความไร้ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนสูญสิ้นศรัทธาไปเยอะแล้ว เราหวังว่าหมอจะไม่ถูกนับรวมไปด้วย" นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าการวีโต้ในครั้งนี้ จะทำให้น้ำหนักในการนำไปเป็นพยานหลักฐานคดี ซึ่งจะมีการตัดสินในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ต้องไปดูในรายละเอียด นายสมศักดิ์ ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเนื้อหาสาระของการวีโต้ ตนจึงตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไร แต่ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ในเมื่อข้อเท็จจริงชัดว่า นายทักษิณป่วยวิกฤติเป็นเรื่องเท็จ คงต้องรอดู หากนายสมศักดิ์ไม่ดำเนินการในการให้รายละเอียด คงต้องพิจารณาว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเป็นประธาน จะมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่
JJNY : 5in1 “สุรเชษฐ์”แฉ“คมนาคม”│“โรม”หวด“สมศักดิ์”│ปชน.อัดจัดงบน้ำไม่ตรงจุด│ปชน.ข้องใจงบแก้แล้ง│ยูเออีแจก ChatGPT Plus
https://ch3plus.com/news/political/morning/440586
.
.