เนื่องด้วยในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นข้าราชการนั้น มีรายได้จากภาษีของประชาชนเพียงอย่างเดียว
และประเทศไทย ก็เป็นประเทศที่มีรายได้จากภาษีไม่มาก ดังนั้นกรมตำรวจเองก็จะไม่มีงบมาพอที่จะมาดูแลบริการต่างๆ ที่มีให้บริการประชาชน
และหนึ่งในนั้น ก็มี บริการเหตุด่วนฉุกเฉิน 191 นี่ล่ะ ที่ให้ประชาชนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เพราะประชาชนได้ จ่ายค่าบริการนั้นมาแล้ว ในภาษีที่จ่ายทุกปี....
ผมเคยได้ยินมาว่าในบางประเทศนั้น บริการโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินนั้น ไม่ใช่บริการฟรี และบริการที่ให้นั้น ก็ไม่ฟรี
เพื่อนำรายได้ส่วนนี้ เข้ามาดูแล ปรับปรุง และเพิ่มขีดความสามารถของบริการ ให้สะดวกมากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น
และวิธีนี้ อาจจะช่วยลดโทรศัพท์ก่อกวนได้มากขึ้น เพราะถ้าไม่เจตนาจะโทรขอความช่วยเหลือจริงๆ คงไม่มีใครต้องการจะเสียเงินเพื่อมาโทรเล่นๆ
เพียงแต่ การชำระค่าบริการ ค่าโทร นั้น อาจจะไม่ได้ชำระในเวลาที่โทร แต่อาจจะเป็นการเรียกเก็บทีหลัง จากผู้ให้บริการโทรศัพท์
เช่นถ้าหากโทรศัพท์เงินหมด ในกรณีที่เป็นแบบเติมเงิน โทรศัพท์ก็จะยังสามารถโทรออกเบอร์ 191 ได้ และผู้ให้บริการก็จะมาเรียกเก็บเงินทีหลัง
เมื่อเบอร์นี้มีการเติมเงินเข้าระบบ
ข้อดีของวิธีนี้คือ เราสามารถระบุการมีตัวตนได้จากเบอร์โทรศัพท์ที่โทร ซึ่งต่อไปจะมีการลงทะเบียนเบอร์อยู่แล้ว
แต่ถ้าใช้โทรศัพท์สาธารณะ อาจจะต้องมีการขอเลขประจำตัวประชาชน และชื่อใว้
(คิดว่าในปัจจุบัน อาจจะไม่ใช่วิธีที่ผู้ต้องการขอความช่วยเหลือส่วนใหญ่จะเลือกใช้ แต่ก็ตัดทิ้งไม่ได้)
คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ
บริการ ฉุกเฉิน 191 ที่โทรฟรี แต่โทรติดยากมากๆนั้น ถึงเวลารึยังที่มันควรจะไม่ฟรีซักที?
และประเทศไทย ก็เป็นประเทศที่มีรายได้จากภาษีไม่มาก ดังนั้นกรมตำรวจเองก็จะไม่มีงบมาพอที่จะมาดูแลบริการต่างๆ ที่มีให้บริการประชาชน
และหนึ่งในนั้น ก็มี บริการเหตุด่วนฉุกเฉิน 191 นี่ล่ะ ที่ให้ประชาชนโทรเข้ามาขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เพราะประชาชนได้ จ่ายค่าบริการนั้นมาแล้ว ในภาษีที่จ่ายทุกปี....
ผมเคยได้ยินมาว่าในบางประเทศนั้น บริการโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินนั้น ไม่ใช่บริการฟรี และบริการที่ให้นั้น ก็ไม่ฟรี
เพื่อนำรายได้ส่วนนี้ เข้ามาดูแล ปรับปรุง และเพิ่มขีดความสามารถของบริการ ให้สะดวกมากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น
และวิธีนี้ อาจจะช่วยลดโทรศัพท์ก่อกวนได้มากขึ้น เพราะถ้าไม่เจตนาจะโทรขอความช่วยเหลือจริงๆ คงไม่มีใครต้องการจะเสียเงินเพื่อมาโทรเล่นๆ
เพียงแต่ การชำระค่าบริการ ค่าโทร นั้น อาจจะไม่ได้ชำระในเวลาที่โทร แต่อาจจะเป็นการเรียกเก็บทีหลัง จากผู้ให้บริการโทรศัพท์
เช่นถ้าหากโทรศัพท์เงินหมด ในกรณีที่เป็นแบบเติมเงิน โทรศัพท์ก็จะยังสามารถโทรออกเบอร์ 191 ได้ และผู้ให้บริการก็จะมาเรียกเก็บเงินทีหลัง
เมื่อเบอร์นี้มีการเติมเงินเข้าระบบ
ข้อดีของวิธีนี้คือ เราสามารถระบุการมีตัวตนได้จากเบอร์โทรศัพท์ที่โทร ซึ่งต่อไปจะมีการลงทะเบียนเบอร์อยู่แล้ว
แต่ถ้าใช้โทรศัพท์สาธารณะ อาจจะต้องมีการขอเลขประจำตัวประชาชน และชื่อใว้
(คิดว่าในปัจจุบัน อาจจะไม่ใช่วิธีที่ผู้ต้องการขอความช่วยเหลือส่วนใหญ่จะเลือกใช้ แต่ก็ตัดทิ้งไม่ได้)
คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ