คิดว่าประเทศไทยควรมีนโยบายที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับระเบียบวินัยทางสังคมพวกนี้ออกมามั้ยคะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ  อมยิ้ม17 ออกตัวก่อนเลยนะคะว่าไม่ใช่พวกโลกสวย ผดุงความยุติธรรม พาวเวอร์พัฟเกิร์ลอะไรแบบนั้น แค่เป็นคนๆนึงที่ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ เติบโตมากับสังคมไทย เป็นคนไทย แล้วก็ภูมิใจที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ แต่เพราะเติบโตมากับสังคมไทย เลยได้มองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่เรารู้สึกว่าคนไทยอย่างเราๆน่าจะปรับปรุงบ้างให้บ้านเมืองมันดูดีขึ้น ไม่ได้เหมารวมว่าคนไทยทุกคนไม่ดีนะคะ เพราะคนเราทุกคนเกิดมาแบบสีเทาอยู่แล้ว ไม่มีใครดำสนิท แล้วก็ไม่มีใครขาวสนิท บางคนอาจมีข้อดีบางอย่าง พร้อมๆกับข้อเสียบางอย่าง แต่พอเรามาอยู่ในสังคมเดียวกันแล้วข้อเสียที่คล้ายๆกันมันดันมารวมกันจนกลายเป็นปัญหาเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง จนกลายเป็นภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่ แล้วก็ดูเหมือนว่าเราปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เรื้อรังโดยไม่สนใจ และใช้ชีวิตอยู่กับมันจนกลายเป็นเรื่องปกติ เลยคิดว่าน่าจะมีนโยบายอะไรบางอย่างออกมาเพื่อปลุกจิตสำนึกแล้วก็บรรเทาปัญหาพวกนี้น่ะค่ะ ขอยกตัวอย่างเป็นข้อๆนะคะ

1) การใช้บันไดเลื่อน
        ทุกคนมีชั่วโมงเร่งรีบใช่มั้ยคะ ยิ่งเวลาขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นเครื่องบิน หรือไปตามสถานที่ต่างๆ จะสังเกตว่า ค่านิยมคนไทยคือการครองบันไดเลื่อนทั้งสองฝั่ง โดยการยืนนิ่งสนิทอยู่กับที่ สิ่งที่คนรีบสามารถทำได้คือวิ่งไปขึ้นบันไดแทน ซึ่งเร็วกว่าการขึ้นบันไดเลื่อนมาก แต่มันจะดีกว่ารึเปล่า ถ้าจะออกนโยบายแบบ "เดินชิดซ้าย ยืนชิดขวา" อะไรแบบนี้ จะได้สามารถถึงจุดหมายได้เร็วกว่าการวิ่งขึ้นบันได จริงๆก็ไม่ควรจะเป็นเฉพาะชม.เร่งด่วน แต่น่าจะทำให้ติดเป็นนิสัยไปเลย อาจจะติดป้ายไว้บนบันไดเลื่อนเพื่อเตือนไว้ เพราะบางคนก็ไม่รู้จริงๆ หรือทำเป็นโฆษณาปลุกจิตสำนึกอะไรแบบนั้น คือเท่าที่เห็นโฆษณาปลุกจิตสำนึกในปัจจุบันจะเป็นเรื่องประมาณว่าให้ทำความดี สามัคคีหรืออะไรแบบนั้น ไม่ค่อยมีเรื่องเกี่ยวกับระเบียบวินัยในสังคมเท่าไหร่ หรือว่ามีออกมาแล้ว ก็แชร์กันได้นะคะ เพราะเราอยู่กับโซเชียลทุกวัน การแชร์ข้อมูลนี่แชร์กันเป็นล้านครั้งได้ ถ้าทำเป็นแคมเปญแชร์ข้อมูลเรื่องพวกนี้ออกมา น่าจะเป็นการกระจายข่าวสารได้ดีขึ้น
2) การทิ้งและแยกขยะ
         ถังขยะเมืองไทยเป็นอะไรที่มีน้อยมาก และเป็นถังขยะที่ไม่แยกประเภทอะไรเลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนบางคนจะมักง่ายทิ้งมันลงบนถนน ที่เคยเห็นคือถือขยะกันอยู่ในมือ แล้วเนียนปล่อยลงพื้นเฉยเลย เต่าเอือม  จากนั้นคนที่ทิ้งก็เดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คิดว่าเื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่แก้ยากกว่าเรื่องบันไดเลื่อน และเจ้าของกระทู้เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะออกนโยบายยังไงในเรื่องนี้ ร้องเรียนได้หรือเปล่าให้มีการเพิ่มถังขยะ หรือควรจะรณรงค์ในการแยกขยะที่มันแยกง่ายๆอย่างขวดพลาสติกไว้ถังนึงอะไรอย่างนี้ แบบไหนถึงจะได้ผล เพราะถ้ามองในหลักความเป็นจริง การจะเปลี่ยนพฤติกรรมที่มันฝังรากลึกในสังคมไทยมานานแล้วมันยากมาก แต่ก็ถ้าใครมีไอเดียดีๆก็มาแลกเปลี่ยนกันนะคะ
3) การบ้วนน้ำลายลงพื้น
         เป็นพฤติกรรมที่ทำลายความสะอาดบ้านเมืองอย่างถึงที่สุดจริงๆ และพฤติกรรมเหล่านี้สามารถพบได้ทุกที่ ทุกครั้งที่เห็นจะชวนให้สงสัยว่า ถังขยะ ถุงพลาสติก ห้องน้ำ หรืออะไรก็ตามแต่ไม่มีให้บ้วนใส่แล้วใช่มั้ย ถึงได้ต้องบ้วนลงพื้น ที่ทำเป็นเพราะว่าไม่รู้ว่ามันทำให้บ้านเมืองไม่สะอาด หรือทำเพราะอาศัยมักง่ายเอากันแน่ จะมีมาตรการแก้ไขอะไรมั้ยคะ หรือว่าต้องปรับ 1,000 บาทแบบสิงคโปร์ไปเลย
4) ความตรงต่อเวลา
         สาย 5 นาที 10 นาที 15 นาที บางคนลากยาวยัน ครึ่งชม. ไม่ว่าจะนัดเดท นัดเพื่อน นัดประชุม นัดสำคัญ นัดขึ้นรถไปเข้าค่าย ต้องมีกลุ่มคนที่สายตลอด นัดเดทกับนัดเพื่อนไม่เท่าไหร่ ยังไปเคลียร์กันเองได้ แล้วก็ไม่ได้กระทบกับส่วนรวมนัก แต่นัดประชุมกับนัดเวลาขึ้นรถไปเข้าค่ายนี่ บางคนสายเป็นครึ่งชม. แล้วทุกคนต้องมานั่งรอ เป็นไปได้มั้ยที่จะมีการทำโทษหรือตั้งมาตราการอะไรบางอย่างของแต่ละองค์กร เช่นการประเมินความตรงต่อเวลาหักลดในเงินเดือนให้คนที่ไม่ตรงต่อเวลารู้ว่า เวลาเป็นเรื่องที่สำคัญและมีค่ามากแค่ไหน
5) การหยุดรถให้คนข้ามที่ทางม้าลาย
         ทุกวันนี้ข้ามถนนนี่ลุ้นยิ่งกว่าดูหนังเรื่อง saw เพราะไม่รู้ว่าจะโดนคร่าชีวิตไปเมื่อไหร่ ทางม้าลายเหมือนเป็นทางที่เป็นสัญลักษณ์ให้รถเร่งความเร็ว  ตั้งแต่เกิดมาตลอดชีวิต ยังไม่เคยข้ามถนนโดยไม่ต้องวิ่งตัดหน้ารถสักที จะว่าวิ่งตัดหน้ารถก็เกินไป คือต้องหย่อนเท้าลงไปบนถนนก่อน แล้วเล่นเกมจ้องตากับคนขับว่าจะหยุดไม่หยุด ซึ่งมักจะหยุดประมาณคันที่ 6 ที่ 7 อยากให้มีน้ำใจบนท้องถนนกันสักนิด ข่าวรถชนคนตรงทางม้าลายก็มีมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ถ้าเปลี่ยนจากเร่งควาามเร็วเป็นชะลอรถแล้วกะพริบไฟหน้าสักสองสามทีให้คนจะข้ามรู้ว่าจะหยุดให้จะเป็นพระคุณมากเลยค่ะ
6) การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
          เราเคยชนกับความสะดวกสบายแบบซื้อเสร็จใช้แล้วทิ้ง มีการขายถุงผ้ากันเยอะแยะ แต่สุดท้ายถุงผ้าเหล่านั้นก็ไปนอนกองอยู่ในห้องเก็บของหรือโละทิ้ง มีการขายถุงผ้าโดยการใช้คำว่าถุงผ้าลดโลกร้อน ซึ่งมันจะไม่ลดโลกร้อนเลย ถ้าเราไม่เอามันออกมาใช้ อย่างน้อยreuse ถุงพลาสติกเป็นถุงขยะหรืออะไรก็ตามก็ยังดี หรือการปฏิเสธที่จะรับถุงพลาสติกก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง ถ้าสังเกตเวลาไปเดินห้างหรือตามร้านสะดวกซื้อ ไม่ถึง 5%  ของคนที่ซื้อของจะใช้ถุงผ้าหรือปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก จริงๆพวกถุงผ้าบางๆก็พับไว้ในกระเป๋าถือได้ แบบ พอจะซื้อของก็ค่อยคลี่ออกมาใส่ของแบบนั้น หรือวางแผนไปเลยว่าวันนี้จะซื้อของเข้าบ้านต้องเตรียมถุงผ้าไปเผื่อแบบนั้น เพราะต่อให้สมัยนี้ถุงพลาสติกบางอย่างจะย่อยสลายได้ง่ายกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่าทุก process ในการผลิตมันก็สิ้นเปลืองพลังงานไปแล้ว จริงๆน่าจะมีนโยบายแบบถ้าจะเอาถุงคิดราคาเพิ่ม 5 บาทอะไรแบบนั้น เพราะต้องยอมรับว่าถ้าใช้เรื่องโลกร้อนหรือจิตสำนึกมาพูดกับคนในประเทศที่เงินถือเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตแล้ว น่าจะไม่สะดุ้งสะเทือนเท่าการนำเงินมาเป็นข้อบังคับ

             จริงๆคิดว่าเรื่องระเบียบวินัยน่าจะยังมีอีกหลายเรื่อง ถ้าสมาชิกท่านไหนคิดเรื่องอะไรออกก็เพิ่มเติมมาได้นะคะ ทุกวันนี้เราพูดกันถึงปัญหาในสังคมเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง ความสามัคคีซึ่งก็เป็นเรื่องที่ควรพูดในแง่ที่ว่าบ้านเมืองเราจะเจริญได้ถ้าคนไทยไม่ขัดแย้งกัน รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายโดยไม่มีอคติ ซึ่งก็เป็นอะไรที่โลกสวยมากเพราะเราอยู่กันแบบนี้มานานแล้ว แล้วทุกฝ่ายก็มีผลประโยชน์แอบแฝงกันหมดซึ่งเราจะไม่พูดถึงกันในประเด็นนี้ ที่อยากพูดคือในปัจจุบัน นโยบายที่ออกมาส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาทางวัตถุซะส่วนใหญ่ แต่เราลืมนึกถึงคุณภาพประชากรไปรึเปล่า เราใช้ตัวชี้วัดความดี ความถูกต้องต่างในสถานศึกษา ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าตัวชี้วัดพวกนั้นไม่ได้ถูกปลูกฝังในจิตสำนึกของคนไทยเราจริงๆ จะมีนโยบายไหน หรือวิธีการไหนมั้ย ที่จะสามารถแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาพวกนี้ได้ ที่เจ้าของกระทู้คิดคือพวกโฆษณา หรือแชร์กันออนไลน์ แบบทำเป็นแคมเปญที่ลงทุนสักหน่อย โฟกัสกันที่เรื่องระเบียบวินัยพวกนี้ แบบทำกันเป็นวาระของชาติไม่ใช่แค่ตั้งขึ้นมาเป็นข้อๆ ออกสติ๊กเกอร์ ให้เด็กท่องในโรงเรียนหรืออะไรพวกนี้(อันนี้ไม่ได้จะโจมตีหรืออะไรนะคะ แค่ในความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นวิธีการที่เก่าและไม่ได้ผลจริงๆ) หรือมันมีวิธีการที่ดีกว่านั้นก็แชร์ความเห็นกันมาได้นะคะ เราจะเข้าอาเซียนแล้ว ต้องไปแข่งกับอีกตั้งหลายประเทศ อย่าให้ประเทศพัฒนาแต่ทางวัตถุ เศรษฐกิจและการเงิน โดยที่ปัญหาคุณภาพประชากรยังเป็นปัญหาที่เรื้อรังเลยค่ะ สังคมมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ค่านิยมของสังคมเองก็เปลี่ยนไปอยู่ตลอด อย่างเช่นแต่ก่อนเรานับถือกันที่ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่สัมยนี้นับถือกันที่เงินตรา ถ้าเราจะตั้งค่านิยมอะไรบางอย่างขึ้นมาโดยใช้หลักจิตวิทยาอะไรสักอย่าง หรือวิธีการอะไรสักอย่าง เพื่อให้คนเกิดแรงจูงใจที่จะทำให้สังคมเกิดค่านิยมนั้นขึ้นมาก็น่าจะเป็นไปได้เหมือนกัน มันอาจจะใช้เวลา แต่
"Success is the sum of small efforts - repeated day in and day out." ของ Robert Collier ก็สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ ยังไงก็มาแชร์ความเห็นกันนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่