เรื่องราวที่เรากำลังจะเล่า เราขอบอกก่อนว่า มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีนี้ ความรู้สึกเรากำลังเฮิร์ทสุดๆ เพราะฉะนั้นเราจะพยายามระมัดระวังเรื่องภาษาที่ใช้นะคะ
ก่อนอื่นเริ่มจากที่ เรามีเพื่อนสนิทหรือเรียกว่าพี่สาวที่สนิทมากๆ อยู่คนนึง รู้จักกันมา 10 กว่าปี ตั้งแต่สมัยมัธยมจากการเป็นแฟนคลับของพี่นัท มีเรีย เรากับพี่สาวอายุห่างกันแค่ 1 ปี กับอีก 1 วันค่ะ เกิดเดือนเดียวกัน แถมยังเกิดวันติดกันด้วย จากแค่คนรู้จักกันในฐานะแฟนคลับก็ได้คุยกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น เรียนก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนเราจะซิ่วออกมา ทำงานก็ยังทำที่เดียวกัน มีอะไรปรึกษากัน เรียกว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุด นานที่สุดเลยก็ว่าได้
ตามประสาพี่น้องนะคะ ก็ต้องทะเลาะกันเปนธรรมดา ด้วยความที่เราเปนคนคิดมาก ขี้น้อยใจ แล้วขี้หวง คือ ถ้ารักหรือแคร์ใครมากๆ เราจะใส่ใจแบบสุดๆ ซึ่งเราก้อทะเลาะกับพี่สาวเราอย่างนี้บ่อย เดี๋ยวงอนกันง้อกัน เคยโกดกันหนักแต่ก็ยังคืนดีกัน ก้อมีกันอยู่จนมาถึงทุกวันนี้
จนเจอกับเหตุการณ์ครั้งนี้แหละที่ทำให้ เรากับพี่สาวเรา แตกแยกกัน เรื่องของเรื่องคือ พี่สาวเรามีแฟน แล้วเรากับแฟนของพี่สาวไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ หนึ่งเลยเพราะ ตัวของพี่สาวเราเองเปลี่ยนไปคือทิ้งเราเลย ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ คนที่เค้าให้ความใส่ใจมากที่สุดคือแฟนของเค้า ยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งนะคะ มีครั้งหนึ่งเราเคยทะเลาะหนักมากกับพี่สาวเราเรื่องแฟนเค้า คือพี่สาวเราโกหกเราหลายๆ เรื่อง อย่างตอนปีใหม่เป้นคนชวนเองว่าไปเที่ยวหัวหินด้วยกันนะ พี่ไม่ทิ้งแกอยู่แล้ว นี่คือคำพูดของพี่เรา เราก็ดีใจมาก เรารีบไปชวนแฟนเราไปด้วยกัน แต่พอผ่านมาสักระยะเราก็คุยกับพี่สาวว่าตกลงไปเที่ยวไหนยังไงดี พี่เราทำอ้ำๆ อึ้งๆ ทีนี้เรารู้แล้วล่ะว่าเค้าอยากไปกับแฟนเค้าสองคน เราก็ อืมไม่เปนไร ไม่พูดอะไร จนวันปีใหม่ พี่สาวชวนเราไปเคาวน์ดาวน์ที่เอเชียทิค คุยกับว่าเออเดี๋ยวพี่สาวจะมาค้างบ้านนะ เอารถพี่ไปคันเดียว เราก็ดีใจอีก แบบจะได้อยู่คุยกันนานๆ ทั้งคืนมีเรื่องเมาท์มอยกันตามประสาพี่น้อง แต่พอรุ่งเช้าพี่สาวส่งไลน์มาบอกว่า " เออ ไปนอนค้างไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องไปเฝ้าตา แต่ยังไปเที่ยวกันนะ " ตัวเราก็อืมไม่เปนไร แต่ก็แอบเสียดายนิดๆ พอถึงเวลานัด ก็ไปเจอกันเปนคู่ๆ พอเคาว์ดาวน์เสด เราก็มานั่งดูคอนเสริ์ตอยูตรงรั้ว พี่สาวเราก็เดินมาหา นั่งดูด้วยกันสองคน พี่สาวก็กอดเราบอก พี่รักแกนะ เราจะไม่ทิ้งกันนะ คือความรู้สึกแบบดีใจมากที่สุดตอนนั้น หลังจากนั้นก็กลับไปที่โต๊ะ เพื่อจะเตรียมกลับบ้าน พี่สาวก็ขับรถมาส่งที่บ้าน พร้อมกับแฟนนางห้อยติดสอยมาด้วย เราก็พยายามชวนพี่สาวนอนค้าง แต่นางก็ปฏิเสธ สุดท้ายก็รู้ว่า แฟนนางไปค้างที่บ้านนางด้วย คือนี่คือหนึ่งเรื่องที่โกหก โกหกเพราะอยากอยู่กับแฟน บอกกันตรงๆ ก็ได้นะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราโดนโกหก แล้วแต่ละเรื่องทำร้ายจิตใจเรามากค่ะ แต่เราขออนุญาติข้ามเนอะ มาที่เรื่องที่ทำให้เรากับพี่สาวแตกแยกกันดีกว่า
จากเหตุการณ์หลายๆ ครั้งที่เราโดนโกหกใส่ รวมถึงการหมางเมินไม่ใส่ใจกันอย่างเดิม ทำให้เราทะเลาะกันอย่างหนัก จนมาถึงช่วงที่เรากำลังจะลาออกจากงาน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เฟลกับชีวิตมาก แถมยังต้องทำงานร่วมกับแฟนนางอีก อึดอัดใจเปนที่สุด แต่ก็พยายามปรับตัวเข้าหาแฟนพี่สาว เพื่อพี่สาว แล้วที่สำคัญจะได้คอยรู้ความคืบหน้าด้วยว่า พี่สาวเราเปนยังไงบ้าง สุดท้ายวันที่ออกจากงานเราก็ไม่ได้เจอพี่สาว เพราะพี่สาวเราไปทำงานข้างนอก เลยคิดว่าตอนกลางคืนอยากโทรคุย นางก็บอกว่าเหนื่อยจะนอนแล้ว แต่เรารู้มาว่านางคุยโทรศัพท์กับแฟน นั่นแหละถึงกับทำให้เราโมโหและเสียใจมาก เราหายการติดต่อจากพี่สาวไปนานพอควรหลังจากลาออกจากงาน พี่สาวก็ไม่ติดต่อกลับมาแม้แต่ไลน์ก็ยังไม่มี จนเราทนไม่ไหวไลน์ไปหา พี่สาวกลับตอบมาว่า " ก็แกบอก...ว่าไม่อยากคุยกับชั้นแล้วนิ" อ้าวนึกในใจ " แล้วไง ถ้าไม่อยากคุยก็จะไม่คุยกันเลยเหรอ" ก็เป็นอะไรที่เริ่มมาจนบานปลาย ไม่มีโอกาสได้เคลียร์กันจริงจัวเสียที จนกลายเปนต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ตัวเราอ่ะทนได้ไม่นานก้ต้องง้อ ง้อแล้วง้ออีก บอกก่อนเลยนะคะว่านิสัยจริงๆ ไม่ใช่คนชอบง้อใครแม้แต่แฟนยังไม่ง้อเลย แต่กลับพี่สาวนี่คือยอมอ่ะ เพราะไม่อยากเสียพี่ไปไง ทำทุกอย่างทุกวิธี ส่งเพลงง้อก็แล้ว พูดดีก็แล้ว พูดไม่ดีก็มี ไปดักรอที่บริษัทยังเคยทำเลยแต่จังหวะไม่ดีเพราะนางไปทำงานข้างนอก จนมันถึงที่สุด พี่สาวทำเหมือนเราเปนคนไร้ตัวตนมากๆ ยิ่งง้อแต่ละทีเราก็เจ็บหนักทุกที จนเราตัดสินใจที่จะตัดใจไม่ง้อหรือทำอะไรแล้ว ในช่วงนั้นเราก็ผ่านมาได้นะ ทำงาน เล่นแบด คลายเครียดไม่คิดอะไร ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ข้างในเราพร้อมระเบิดทุกเมื่อและเมื่อเราถูกจิ้มเข้าเต็มเปานั่นแหละที่คราวระเบิด ก็เริ่มมาจากแฟนเก่าเราเหนเราดราม่าหนัก นางก็หวังดีค่ะ ช่วยคุยกับพี่สาวเราให้ พี่สาวก้บอก ยังอยากคุยกับเราอยู่ ยังเหนเราเปนน้องแต่......ติดที่แฟนเค้า เรางี้เจ็บจี๊ดดดเลยย แต่อีกความรู้สึกคือ ดีใจที่เค้ายังเหนเราเปนน้อง เราก็รอว่าเมื่อไหร่เค้าจะโทรมาน้า จนถึงวันเกิดซึ่งอยากที่เกริ่นไว้ค่ะว่าเราสองคนเกิดติดกันพี่สาวเกิดก่อนเราหนึงวัน ปกติในวันเกิดเราจะเตรียมของขวัญและการ์ดให้เสมอแต่ปีนี้เราไม่ได้ทำเพราะ เรารู้สึกว่าทำไปเค้าก็ไม่อยากได้ เลยไม่กล้าที่จะทำ แม้กระทั่งจะส่งข้อความไปหายังไม่กล้าเลย กลายเปนว่าผ่านวันเกิดพี่สาวไปเราก็ไม่ได้ส่งข้อความไป จนมาถึงวันเกิดเรา เราก็แอบหวังนะว่าเค้าจะส่งข้อความมากลายเปนว่าไม่มีเลย เรารอเลยเที่ยงคืนให้เข้าอีกวัน แล้วส่งข้อความไปอวยพรบอกว่าเปนครั้งสุดท้ายพร้อมกับภาพถ่ายที่เราชอบมากที่สุดไปให้ เชื่อไหมคะว่าพี่สาวเราไม่เปิดอ่านเลย จนกระทั่งเลยปีใหม่มา เราเพิ่งเหนว่านาง read ลองนึกสภาพนะคะว่าเราจะรู้สึกแย่ขนาดไหน เฝ้ารอว่านางจะตอบอะไรมาไหม ก็ไม่มี คือเราเสียใจมากอ่ะ สุดจริงๆ แต่ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา มันตลกมากอันนี้คือเราฝัน ฝันว่าเรากับพี่สาวมีโอกาสได้คุย ปรับความเข้าใจกัน ซึ่งเราฝันแบบนี้บ่อยมากนะ แต่คราวนี้มันตลกตรงที่ว่า เราบอกตัวเองในฝันด้วยว่ามันไม่ใช่ความจริง มันคือความฝัน มีการหยิกตัวเองในฝันด้วย 5555 นึกแล้วขำ แต่ลืมตาตืนมาน้ำตางี้ไหลนองเปนทางเลย ก็ดราม่าสิคะ เหมือนโดนจุดประเด็น เราก็คิดสารตะว่าจะทำยังไงดี ไม่ชอบเลยไม่อยากให้เปนแบบนี้ รวบรวมความกล้าหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทร แต่สุดท้ายพี่สาวก็ไม่รับ เฟลแน่นอนค่ะ ไม่ต้องถาม หลังจากนั้นเลยพิมพ์ไลน์ทิ้งไว้ข้อความประมานขอคืนดี ขอให้คิดแค่เรื่องเราพี่น้องอย่าให้บุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องคือเขียนยาวมาก ก็รอว่าเมื่อไหร่นางจะอ่านนะ จนวันนี้แหละค่ะที่นางเปิดอ่าน แล้วตอบกลับมา ขอบอกก่อนว่า ตอนนี้เราป่วย ไข้ขึ้นตัวร้อนหนัก ยิ่งแย่ใหญ่ ลองนึกนะคะ สภาพไม่เต็มร้อยเปิดมาเจอข้อความทำร้ายจิตใจบอก " มันคงไม่สามารถกลับมาเปนเหมือนเดิมได้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แบบนี้น่าจะเปนทางที่ดีที่สุด" ดีตรงไหนนนนนน ดีกับใคร แต่ที่แน่ๆ ไม่ดีกับชั้นแน่นอน มันคืออะไร มึนมากตอนนั้น แถมกำลังให้คำปรึกษาให้เพื่อนอยู่ เพราะเพื่อนโทรมาพอดี คือไปไม่เปนเลย ร้องสิคะจะเหลือเหรอ ร้องไม่หยุดถ้ากรี๊ดได้ก็อยากทำ โกดมาก แค้นมาก เกลียดอิแฟนพี่สาวมาก ถ้าฆ่าคนแล้วไม่ผิดกฏหมาย แม่จะรีบออกจากบ้านไปทั้งสภาพนี้แหละ !!!!!
สรุปพี่สาวเลือกแฟน แล้วทิ้งน้องที่รู้จักกันกว่าสิบปีไป เหอะๆๆๆๆๆ มันเจ้บมากจริงๆ จากเหตุการณืทั้งหมดเราพยายามมาตลอด ท้อกลางทางก็เคย ยอมแพ้ก็มี แต่สุดท้ายเรียกลูกฮึดหน้าด้านเดินหน้าง้อลุยต่อ แต่วันนี้เจอคำนี้ประโยคนี้ ไปไม่เปน นี้หรือพี่สาวที่เรารักและเคารพ พี่สาวที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ คนที่คอยดูแลให้คำปรึกษาเรามาตลอด แต่กลับคิดเรื่องนี้ด้วยความคิดที่เราแทบไม่อยากจะเชื่อ บอกเลยว่ายังทำใจไม่ได้ ไปไม่เปนจริงๆ ใครพอมีคำแนะนำ หรือเคยเจออะไรคล้ายแบบนี้ มาแชร์กันนะคะ ยังไงก็ไม่อยากเสียพี่สาวไปเพราะบุคคลที่สาม ถ้าเราจะตัดขาดกันก็ควรเปนเพราะ ตัวเราสองคนมากกว่า ไม่ใช่บุคุลที่สามที่มาทำให้เราเปนแบบนี้ !!!!
อ่านแล้วอาจจะงงๆ นะคะ บอกเลยเจ้าของกระทู้กำลังมึนจากไข้และจากสิ่งที่เจอ
เรื่องของเพื่อนสนิทที่ต้องตัดขาดกันเพราะแฟนเพื่อน!!!
ก่อนอื่นเริ่มจากที่ เรามีเพื่อนสนิทหรือเรียกว่าพี่สาวที่สนิทมากๆ อยู่คนนึง รู้จักกันมา 10 กว่าปี ตั้งแต่สมัยมัธยมจากการเป็นแฟนคลับของพี่นัท มีเรีย เรากับพี่สาวอายุห่างกันแค่ 1 ปี กับอีก 1 วันค่ะ เกิดเดือนเดียวกัน แถมยังเกิดวันติดกันด้วย จากแค่คนรู้จักกันในฐานะแฟนคลับก็ได้คุยกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น เรียนก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนเราจะซิ่วออกมา ทำงานก็ยังทำที่เดียวกัน มีอะไรปรึกษากัน เรียกว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุด นานที่สุดเลยก็ว่าได้
ตามประสาพี่น้องนะคะ ก็ต้องทะเลาะกันเปนธรรมดา ด้วยความที่เราเปนคนคิดมาก ขี้น้อยใจ แล้วขี้หวง คือ ถ้ารักหรือแคร์ใครมากๆ เราจะใส่ใจแบบสุดๆ ซึ่งเราก้อทะเลาะกับพี่สาวเราอย่างนี้บ่อย เดี๋ยวงอนกันง้อกัน เคยโกดกันหนักแต่ก็ยังคืนดีกัน ก้อมีกันอยู่จนมาถึงทุกวันนี้
จนเจอกับเหตุการณ์ครั้งนี้แหละที่ทำให้ เรากับพี่สาวเรา แตกแยกกัน เรื่องของเรื่องคือ พี่สาวเรามีแฟน แล้วเรากับแฟนของพี่สาวไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ หนึ่งเลยเพราะ ตัวของพี่สาวเราเองเปลี่ยนไปคือทิ้งเราเลย ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ คนที่เค้าให้ความใส่ใจมากที่สุดคือแฟนของเค้า ยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งนะคะ มีครั้งหนึ่งเราเคยทะเลาะหนักมากกับพี่สาวเราเรื่องแฟนเค้า คือพี่สาวเราโกหกเราหลายๆ เรื่อง อย่างตอนปีใหม่เป้นคนชวนเองว่าไปเที่ยวหัวหินด้วยกันนะ พี่ไม่ทิ้งแกอยู่แล้ว นี่คือคำพูดของพี่เรา เราก็ดีใจมาก เรารีบไปชวนแฟนเราไปด้วยกัน แต่พอผ่านมาสักระยะเราก็คุยกับพี่สาวว่าตกลงไปเที่ยวไหนยังไงดี พี่เราทำอ้ำๆ อึ้งๆ ทีนี้เรารู้แล้วล่ะว่าเค้าอยากไปกับแฟนเค้าสองคน เราก็ อืมไม่เปนไร ไม่พูดอะไร จนวันปีใหม่ พี่สาวชวนเราไปเคาวน์ดาวน์ที่เอเชียทิค คุยกับว่าเออเดี๋ยวพี่สาวจะมาค้างบ้านนะ เอารถพี่ไปคันเดียว เราก็ดีใจอีก แบบจะได้อยู่คุยกันนานๆ ทั้งคืนมีเรื่องเมาท์มอยกันตามประสาพี่น้อง แต่พอรุ่งเช้าพี่สาวส่งไลน์มาบอกว่า " เออ ไปนอนค้างไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องไปเฝ้าตา แต่ยังไปเที่ยวกันนะ " ตัวเราก็อืมไม่เปนไร แต่ก็แอบเสียดายนิดๆ พอถึงเวลานัด ก็ไปเจอกันเปนคู่ๆ พอเคาว์ดาวน์เสด เราก็มานั่งดูคอนเสริ์ตอยูตรงรั้ว พี่สาวเราก็เดินมาหา นั่งดูด้วยกันสองคน พี่สาวก็กอดเราบอก พี่รักแกนะ เราจะไม่ทิ้งกันนะ คือความรู้สึกแบบดีใจมากที่สุดตอนนั้น หลังจากนั้นก็กลับไปที่โต๊ะ เพื่อจะเตรียมกลับบ้าน พี่สาวก็ขับรถมาส่งที่บ้าน พร้อมกับแฟนนางห้อยติดสอยมาด้วย เราก็พยายามชวนพี่สาวนอนค้าง แต่นางก็ปฏิเสธ สุดท้ายก็รู้ว่า แฟนนางไปค้างที่บ้านนางด้วย คือนี่คือหนึ่งเรื่องที่โกหก โกหกเพราะอยากอยู่กับแฟน บอกกันตรงๆ ก็ได้นะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราโดนโกหก แล้วแต่ละเรื่องทำร้ายจิตใจเรามากค่ะ แต่เราขออนุญาติข้ามเนอะ มาที่เรื่องที่ทำให้เรากับพี่สาวแตกแยกกันดีกว่า
จากเหตุการณ์หลายๆ ครั้งที่เราโดนโกหกใส่ รวมถึงการหมางเมินไม่ใส่ใจกันอย่างเดิม ทำให้เราทะเลาะกันอย่างหนัก จนมาถึงช่วงที่เรากำลังจะลาออกจากงาน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เฟลกับชีวิตมาก แถมยังต้องทำงานร่วมกับแฟนนางอีก อึดอัดใจเปนที่สุด แต่ก็พยายามปรับตัวเข้าหาแฟนพี่สาว เพื่อพี่สาว แล้วที่สำคัญจะได้คอยรู้ความคืบหน้าด้วยว่า พี่สาวเราเปนยังไงบ้าง สุดท้ายวันที่ออกจากงานเราก็ไม่ได้เจอพี่สาว เพราะพี่สาวเราไปทำงานข้างนอก เลยคิดว่าตอนกลางคืนอยากโทรคุย นางก็บอกว่าเหนื่อยจะนอนแล้ว แต่เรารู้มาว่านางคุยโทรศัพท์กับแฟน นั่นแหละถึงกับทำให้เราโมโหและเสียใจมาก เราหายการติดต่อจากพี่สาวไปนานพอควรหลังจากลาออกจากงาน พี่สาวก็ไม่ติดต่อกลับมาแม้แต่ไลน์ก็ยังไม่มี จนเราทนไม่ไหวไลน์ไปหา พี่สาวกลับตอบมาว่า " ก็แกบอก...ว่าไม่อยากคุยกับชั้นแล้วนิ" อ้าวนึกในใจ " แล้วไง ถ้าไม่อยากคุยก็จะไม่คุยกันเลยเหรอ" ก็เป็นอะไรที่เริ่มมาจนบานปลาย ไม่มีโอกาสได้เคลียร์กันจริงจัวเสียที จนกลายเปนต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ตัวเราอ่ะทนได้ไม่นานก้ต้องง้อ ง้อแล้วง้ออีก บอกก่อนเลยนะคะว่านิสัยจริงๆ ไม่ใช่คนชอบง้อใครแม้แต่แฟนยังไม่ง้อเลย แต่กลับพี่สาวนี่คือยอมอ่ะ เพราะไม่อยากเสียพี่ไปไง ทำทุกอย่างทุกวิธี ส่งเพลงง้อก็แล้ว พูดดีก็แล้ว พูดไม่ดีก็มี ไปดักรอที่บริษัทยังเคยทำเลยแต่จังหวะไม่ดีเพราะนางไปทำงานข้างนอก จนมันถึงที่สุด พี่สาวทำเหมือนเราเปนคนไร้ตัวตนมากๆ ยิ่งง้อแต่ละทีเราก็เจ็บหนักทุกที จนเราตัดสินใจที่จะตัดใจไม่ง้อหรือทำอะไรแล้ว ในช่วงนั้นเราก็ผ่านมาได้นะ ทำงาน เล่นแบด คลายเครียดไม่คิดอะไร ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ข้างในเราพร้อมระเบิดทุกเมื่อและเมื่อเราถูกจิ้มเข้าเต็มเปานั่นแหละที่คราวระเบิด ก็เริ่มมาจากแฟนเก่าเราเหนเราดราม่าหนัก นางก็หวังดีค่ะ ช่วยคุยกับพี่สาวเราให้ พี่สาวก้บอก ยังอยากคุยกับเราอยู่ ยังเหนเราเปนน้องแต่......ติดที่แฟนเค้า เรางี้เจ็บจี๊ดดดเลยย แต่อีกความรู้สึกคือ ดีใจที่เค้ายังเหนเราเปนน้อง เราก็รอว่าเมื่อไหร่เค้าจะโทรมาน้า จนถึงวันเกิดซึ่งอยากที่เกริ่นไว้ค่ะว่าเราสองคนเกิดติดกันพี่สาวเกิดก่อนเราหนึงวัน ปกติในวันเกิดเราจะเตรียมของขวัญและการ์ดให้เสมอแต่ปีนี้เราไม่ได้ทำเพราะ เรารู้สึกว่าทำไปเค้าก็ไม่อยากได้ เลยไม่กล้าที่จะทำ แม้กระทั่งจะส่งข้อความไปหายังไม่กล้าเลย กลายเปนว่าผ่านวันเกิดพี่สาวไปเราก็ไม่ได้ส่งข้อความไป จนมาถึงวันเกิดเรา เราก็แอบหวังนะว่าเค้าจะส่งข้อความมากลายเปนว่าไม่มีเลย เรารอเลยเที่ยงคืนให้เข้าอีกวัน แล้วส่งข้อความไปอวยพรบอกว่าเปนครั้งสุดท้ายพร้อมกับภาพถ่ายที่เราชอบมากที่สุดไปให้ เชื่อไหมคะว่าพี่สาวเราไม่เปิดอ่านเลย จนกระทั่งเลยปีใหม่มา เราเพิ่งเหนว่านาง read ลองนึกสภาพนะคะว่าเราจะรู้สึกแย่ขนาดไหน เฝ้ารอว่านางจะตอบอะไรมาไหม ก็ไม่มี คือเราเสียใจมากอ่ะ สุดจริงๆ แต่ชีวิตเราก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา มันตลกมากอันนี้คือเราฝัน ฝันว่าเรากับพี่สาวมีโอกาสได้คุย ปรับความเข้าใจกัน ซึ่งเราฝันแบบนี้บ่อยมากนะ แต่คราวนี้มันตลกตรงที่ว่า เราบอกตัวเองในฝันด้วยว่ามันไม่ใช่ความจริง มันคือความฝัน มีการหยิกตัวเองในฝันด้วย 5555 นึกแล้วขำ แต่ลืมตาตืนมาน้ำตางี้ไหลนองเปนทางเลย ก็ดราม่าสิคะ เหมือนโดนจุดประเด็น เราก็คิดสารตะว่าจะทำยังไงดี ไม่ชอบเลยไม่อยากให้เปนแบบนี้ รวบรวมความกล้าหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์โทร แต่สุดท้ายพี่สาวก็ไม่รับ เฟลแน่นอนค่ะ ไม่ต้องถาม หลังจากนั้นเลยพิมพ์ไลน์ทิ้งไว้ข้อความประมานขอคืนดี ขอให้คิดแค่เรื่องเราพี่น้องอย่าให้บุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องคือเขียนยาวมาก ก็รอว่าเมื่อไหร่นางจะอ่านนะ จนวันนี้แหละค่ะที่นางเปิดอ่าน แล้วตอบกลับมา ขอบอกก่อนว่า ตอนนี้เราป่วย ไข้ขึ้นตัวร้อนหนัก ยิ่งแย่ใหญ่ ลองนึกนะคะ สภาพไม่เต็มร้อยเปิดมาเจอข้อความทำร้ายจิตใจบอก " มันคงไม่สามารถกลับมาเปนเหมือนเดิมได้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แบบนี้น่าจะเปนทางที่ดีที่สุด" ดีตรงไหนนนนนน ดีกับใคร แต่ที่แน่ๆ ไม่ดีกับชั้นแน่นอน มันคืออะไร มึนมากตอนนั้น แถมกำลังให้คำปรึกษาให้เพื่อนอยู่ เพราะเพื่อนโทรมาพอดี คือไปไม่เปนเลย ร้องสิคะจะเหลือเหรอ ร้องไม่หยุดถ้ากรี๊ดได้ก็อยากทำ โกดมาก แค้นมาก เกลียดอิแฟนพี่สาวมาก ถ้าฆ่าคนแล้วไม่ผิดกฏหมาย แม่จะรีบออกจากบ้านไปทั้งสภาพนี้แหละ !!!!!
สรุปพี่สาวเลือกแฟน แล้วทิ้งน้องที่รู้จักกันกว่าสิบปีไป เหอะๆๆๆๆๆ มันเจ้บมากจริงๆ จากเหตุการณืทั้งหมดเราพยายามมาตลอด ท้อกลางทางก็เคย ยอมแพ้ก็มี แต่สุดท้ายเรียกลูกฮึดหน้าด้านเดินหน้าง้อลุยต่อ แต่วันนี้เจอคำนี้ประโยคนี้ ไปไม่เปน นี้หรือพี่สาวที่เรารักและเคารพ พี่สาวที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ คนที่คอยดูแลให้คำปรึกษาเรามาตลอด แต่กลับคิดเรื่องนี้ด้วยความคิดที่เราแทบไม่อยากจะเชื่อ บอกเลยว่ายังทำใจไม่ได้ ไปไม่เปนจริงๆ ใครพอมีคำแนะนำ หรือเคยเจออะไรคล้ายแบบนี้ มาแชร์กันนะคะ ยังไงก็ไม่อยากเสียพี่สาวไปเพราะบุคคลที่สาม ถ้าเราจะตัดขาดกันก็ควรเปนเพราะ ตัวเราสองคนมากกว่า ไม่ใช่บุคุลที่สามที่มาทำให้เราเปนแบบนี้ !!!!
อ่านแล้วอาจจะงงๆ นะคะ บอกเลยเจ้าของกระทู้กำลังมึนจากไข้และจากสิ่งที่เจอ