อยากระบาย เคยเจอมั้ย เวลาถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ อัพลงโซเชียวดูแล้วเจอคำพูดดูถูก?

แค่สงสัยและอยากระบาย

เกริ่นนำ...
บอกก่อนเลยนะครับฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยแค่พอมีพอใช้ มีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง แต่ผมเลือกที่จะทำงานเป็นลูกจ้าง พนักงานประจำ เพราะคิดว่าถ้าไม่ออกไปเรียนรู้โลกภายนอกเราก็จะอยู่แค่ในกรอบของเราไม่ได้เจอสังคมใหม่ๆแนวคิดใหม่ๆ บางครั้งก็ท้ออยากกลับไปอยุ่บ้าน ที่บ้านก็ถามเมื่อไหร่จะกลับมาช่วยงานที่บ้าน แต่พอบอกจะกลับ เอ๊ะ... ทำไมที่บ้านพูดแปลกๆ เช่น ไม่ไหวแล้วเหรอ อื่มๆจะกลับมาก็ไม่เป็นไร ดีเหมือนกันจะได้มาช่วยกัน แต่.....ขนาดเป็นลูกจ้างแค่นี้ยังไม่ไหวเลย แล้วมาคุมของตัวเองจะไปรอดเร้อ ? มันเป็นซะแบบเนี๊ยะ ในใจก็คิดนั่นดิลองสุ้อีกหน่อยหน่ะ ก็ผ่านมาได้ 2 ปี

คือก่อนหน้านั้นที่จะเข้าวัยทำงาน ผมเรียนไม่จบครับ เกเร จบแค่ ปวส. แล้วไปต่อมหาลัย ก็ไม่จบจึงทำให้ได้ฐานเงินเดือนที่ไม่สูงมาก คงด้วยเพราะขาดสติหลงมัวเมากับเงินและสิ่งของที่ทางบ้านประเคนให้ หลงแสงสีเหมือนเป็นเด็กบ้านนอกเข้ากรุงและมีความมั่นใจสูง หึหึ จนสุดท้ายตัดสินใจทำงานไกล้ๆบ้าน ทำเดือนนึงหยุด 3 วัน ไม่ค่อยสนใจเพราะคิดว่ามาทำสนุกๆตามเพื่อนแก้เบื่อ ไม่ทำที่นี่งานที่บ้านก็ไม่ทำ สุดท้ายทำได้ 4 เดือน ลาออก เที้ยว เสเพล จนมาคิดได้ตอนเกือบตายเพราะอุบัติเหตุ เมาแล้วขับ ก็เป็นบทเรียนไป

หลังจากนั้นที่บ้านก็ให้บวชเพราะอายุครบพอดี ได้เรียนรู้หลักธรรมมะ แม้จะน้อยนิด เริ่มคิดได้ หลังจากนั้นก็ออกมาหางานทำ ตั้งใจจะไม่ขอเงินที่บ้านใช้อีกเลย เราต้องสร้างด้วยตัวของเราเอง ทุกอย่างต้องมาจากความสารมารถของเราเองไม่ใช่จากทางบ้าน หึกเหิ้มๆ
แต่แล้วก็ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
เงินเดือนเดือนแรกที่ทำงานผมได้ 12000 โอ้ววว พระเจ้า กรูจะพอใช้มั้ยเนี่ย เพราะตอนที่ไม่ได้ทำงาน เป็นชาวเกาะ(เกาะที่บ้าน) ได้เยอะกว่าเงินเดือนอีก
แต่...ก็ไม่เป็นอย่างที่ฝันไว้

อะไม่เป็นไร คงเป็นประเราไม่ตั้งใจเรียนเอง ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว มุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่ตัวคนเดียวเช่าห้องอยู่คนเดียวเดือนละ 3000 มีมอเตอร์ไซเก่าๆคู่ใจหนึ่งคัน (รถยนต์นี่ไม่คิดจะเอามาใช้เลยครับ ภาระแน่ๆหอที่เช้าอยู่ก็ไม่มีพื้นที่ให้จอด)หักค่าใช่จ่ายนู่นนี่นั่นแล้วเหลือเนื้อๆแค่ 6000 นั่นคือเงินที่ต้องใช้ประทังชีวิตในแต่ละเดือน สังคมแต่ก่อนเหรอ เลิกคิดได้เลย แถมยังต้องขอเงินจากที่บ้านใช้เกือบทุกเดือน เดือนไหนเจอซองผ้าป่าหนักๆ งานเลี้ยงส่งบ่อยๆ เข้าสังคมออฟฟิตถี่ๆนี่ เดือนนั้นช๊อตแน่ๆไม่พ้นทางบ้านอยุ่ดี...

เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ
หลักจากที่ผมห่างบ้านใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทำงานเกือบๆจะสองปี เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ 1 ครั้ง ที่ทำงานเก่าผมไม่เคยแสดงอะไรให้ใครรู้เลยว่า ไลฟ์สไตล์ของผมเป็นยังไง เอ่อ ออ ตามๆเขาไป ที่ทำงานใหม่ผมได้เงินเดือน 12000 เท่าเดิมแต่เพิ่มสวัดิการอีก 3000 เป็น15000 ( เงินเก็บก็มีอยุ่น้อยนิด ซึ่งผมเอาไปลงทุนกับตลาดหลักทรัพท์หมดแล้ว จะเบิกมาใช่ในชีวิตประจำวันก็คงยาก)

และแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ที่บ้านใจดีอะไรก็ไม่รู้ จะถูกหวยก็ไม่ใช่โดนกินเกือบทุกงวด ซื้อ มอเตอร์ไซให้ผม 1 คน คือ DUCATI MONSTER 796
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความดีใจกึ่งๆอยากโชว์ ครับ ส่งเข้าโซเชียวกลุ่มทันที่ พร้อมกับระบุในข้อความว่า
"ถ้าขี่คันนี้ไปทำงานรถผมจะหายมั้ยครับ" ...ลืมคิดไปว่าเราอยู่ระดับล่างสุดของระบบพนักงานเลยนี่หว่า
คำตอบที่ได้รับมา รู้สึกผิดกับตัวเองมากที่ส่งรูปให้พวกเค้าดู

พี่คนนั้น "ซื้อเองก่อนค่อยว่ากัน"...ในใจก็คิดว่า อื่มเค้าก็พูดถูก

พี่คนนู้น"ถ้ามีเงินซื้อขนาดนี้ทำไมไม่ซื้อรถยนต์ไปเลยวะ กันแดดกันฝนได้ด้วย" ...เอ๊ะ เริ่มแปลกๆและอยากจะตอบกลับไปว่า คือรถยนต์ผมมีหมดแล้ว แต่ที่ซื้อมานี่คือความชอบ จบนะ !!

พี่คนนี้ เสริมทันที "ใช่ๆซื้อรถยนต์ดีกว่า"
หนักสุดเลย อีกคนบอกว่า "เงินเดือนแค่นี้ อย่างเองจะมีปัญญาซื้อเหรอ ไปถ่ายของใครมา"...ทึ่งครับ ในใจรู้สึกมึนและโมโหมาก แต่ต้องเก็บอาการและบอกกับตัวเองว่าต่อไปกุจะไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอนพอและ ความไว้เนื้อเชื่อใจในเรื่องของความคิดต่อคนในกลุ่ม ผมติดลบทันที

ไม่คิดว่าคนที่เรานับถือ จะใช่คำพูดแบบนี้

สุดท้ายอยากถาม มีใครเคยเจอเหตุการคล้ายๆผมบ้างมั้ยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่