“เพื่อนขีดเส้นใต้” ความอัปยศแห่งวงการภาพยนตร์ไทย[สปอยล์]

จากกระทู้ ที่ทำให้ผมต้องเสียเงินไปดู

http://pantip.com/topic/33223565

และ

http://pantip.com/topic/33224315

 

สิ่งที่ผมกำลังจะสื่อนี่ไม่ใช่หมายความว่าหนังมันห่วยนะครับ เพราะว่าจากความคาดหวังกับสิ่งที่เข้าไปเห็นแล้วมันต่างกันมาก มันดีกว่าหนังที่เรียกตัวเองว่า “ค่ายหนัง” หลายๆเรื่อง เสียอีก!! ทั้งในแง่ Production และ เรื่องที่พวกเขาเลือกที่จะมาบอกกล่าว ถึงแม้ว่าบางช่วงบางตอนอาจจะกระท่อนกระแท่นบ้าง แต่ถ้าลองมาใตร่ตรองดูดีๆแล้วนั้นอาจจะเกิดจากความตั้งใจของผู้สร้างเองก็เป็นได้ แต่ว่าสิ่งที่เราจะคุยกันนั้นก็คือ

 

ที่ผ่านมาเราหลายๆคนเรียกร้องที่จะเห็นสีสันในวงการหนังไทยที่ไม่ได้ยอมจำเจกับหนังแนว รัก ตลก ผี แล้วก็ตำหนิติเตียนค่ายหนังเหล่านั้นกันอย่างสนุกปาก แต่พอมีคนมาทำเข้าจริงแล้วกลับตอบแทนด้วยยอดคนดูและรอบฉายที่แสนจะน้อยนิด (เท่าที่ทราบจนถึงวันนี้3หมึ่นเท่านั้นเอง) ก็เป็นที่น่าตกใจอยู่เหมือนกัน แต่จะโทษคนดูอย่างเดียวก็ไม่ได้ หน้าหนัง ของหนังเรื่องนี้ส่วนตัวค่อนข้างที่จะดูสุดแสนธรรมดา ทั้งตัวอย่างหนัง และการโปรโมท ก็อาจจะเป็นค่ายน้องใหม่เลยอาจจะไม่รู้ช่องทางมากนัก ก็เลยทำให้คนดูเลือกไปช๊อปปิ้งหนังไทยที่มีดาราหน้าที่คุ้นเคย หรือหนังฝรั่งแทน                                                                                                                                                                                        

ซึ่งก็คือการตอกย้ำถึงการที่เราจะต้องก้มหน้ายอมจำนนกับภาพยนตร์ที่ต่อจากนี้เราจะต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆนั่นก็คือ หนังรัก หนังตลก และหนังผี!!!! ที่มีดาราดังๆมาเล่นแต่ข้างในเนื้อผ้าช่างกลวงโบ๋ สุกเอาเผากิน และดูถูกปัญญา

 

 ในช่วงตอนแรก รักเต็มปอด หนังรักโรแมนติกธรรมดา (สำหรับผม) ที่ผู้สร้างเจตนาหลอกล่อเราให้เพลิดเพลินไปกับรักโรแมนติกชวนอมยิ้มกันในพาร์ทนี้ แต่ก็เป็นที่ก็น่าแปลกใจที่หนังประเภทนี้ ทำเงิน ก็ได้แล้วได้อีก    (น้องผู้หญิงที่นั่งข้างๆก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแล) แต่ถ้าว่ากันในถึง Production ก็ดีเกินหนังนักศึกษาที่เราคุ้นเคยกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น Production หนังของค่ายใหญ่ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วๆไปอย่าง GTH อยู่ดี แต่แล้วเราก็ต้องปรับความคิดของเราใหม่…….

 

 เดอะ ธีซิส ในตอนที่สองนี้เชื่อมโยงกับในตอนแรกด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เราต้องหวนกลับมาคิดใหม่ว่าเรื่องที่พึ่งดูไปก่อนหน้านี้นั้นคืออะไรกันแน่ เขาพูดจริงหรือล้อเล่น คงจะพูดไปมากกว่านี้ไม่ได้เดี๋ยวจะไม่ต้องดูหนังเอา        มาถึงขั้นตอนนี้ด้วยนักแสดงที่เป็นทีมงานเล่นกันเองที่อาจจะกระท่อนกระแท่นทางการแสดงบ้างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนดูไม่ได้ แต่ที่ผมชอบมากๆนั่นก็คือประเด็นที่เกี่ยวกับวงการภาพยนตร์ไทยที่ก็วน loop อยู่กับแค่ หนังรัก หนังตลก และหนังผี และความฝันของเด็กที่อยากจะทำหนังเข้าโรง (คงจะเป็นเรื่องจริงของพวกเขา) โดยรวมเป็นหนังที่รูปแบบการนำเสนอน่าจะให้วัยรุ่นชมกันมากกว่าผม ส่วนในแง่ของ Production ก็ดีขึ้น และมีภาพสวยๆให้เราได้ชมกันในรูปแบบ Road movie แต่ถึงตอนนี้ก็ยังคงทำให้ผมประทับใจได้ไม่เท่าที่ควรจนมาถึงตอนที่สาม

 

 คงต้องบอกได้ว่าโยนคำว่า นักศึกษา ทิ้งไปได้เลยสำหรับในตอนนี้ เพราะตั้งแต่เปิดเรื่องก็ทำให้เราถึงกับร้องโห...มันใช่!! หนังจริงๆที่ไม่ใช่แบบทหารตลกโปกฮาแต่งตัวผิดๆถูกๆนั่งเทียนเขียนเรื่องเอา แต่มันดู “จริง” ซะจนหนังที่ว่าด้วยทหารของค่ายหนังก่อนหน้านี้อย่างเทียบไม่ติด จะว่าได้ว่าทีมงานมีความกล้าที่จะเล่า และก็ทำมันได้จริงๆเสียด้วย แต่ก็น่าเสียดายที่ประเด็นหลายอย่างของร่มเกล้าไม่ได้ถูกนำเสนออกมา ซึ่งก็ได้ทราบมาว่าทางกองทัพบกตรวจบทก่อนถ่ายทำ เราเลยไม่ได้เห็นประเด็นฉาวหลายๆอย่างที่ถูกร่ำลือกันมาเป็นเวลานาน เป็นเพียงภาพกว้างๆที่จะมีแต่คนที่รู้เรื่องนี้เท่านั้นที่ต้องคาดเดาเอาเอง ในส่วนการชักจูงอารมณ์ร่วมของผู้ชมในตอนแรกๆก็คิดว่าจะทำได้สักเท่าใดเชียวเนื่องจากในตอนนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มคนที่แสนจะห่างไกลจากการรับรู้ของพวกเรายิ่งนักแต่พวกเขาก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างเข้าใจ และกินใจ

 

จะบอกได้เลยว่าแค่ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าหนังสงครามที่สมบูรณ์ที่สุดของไทย ณ ตอนนี้ก็ว่าได้ และโดยรวมของทั้งสามตอนหากลองมองประเด็นในหนังดีๆก็อาจจะมีประเด็นต่างๆซุกซ่อนอยู่อย่างน่าสนใจทีเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่